ใกล้จะถึงเวลาของศึก "ยูเอส โอเพน" อันเป็นการแข่งขันเทนนิสระดับแกรนด์สแลมสุดท้ายของปี ซึ่งในครั้งนี้จะแข่งขันระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม ถึง 8 กันยายน ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับในประเภทหญิง เต็งหนึ่งจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก "เซเรนา วิลเลียมส์" นักเทนนิสมือหนึ่งของโลก แม้ว่าเธอจะเพิ่งชวดแชมป์หญิงเดี่ยว "เวสเทิร์น แอนด์ เซาเธิร์น โอเพน" ด้วยการพ่าย "วิกตอเรีย อซาเรนกา" มือสองของโลก 6-2 , 2-6 และ 7-6 ขณะที่ในประเภทชายเดี่ยว ยากจะชี้ชัดว่าใครเป็นเต็งหนึ่ง เพราะนักเทนนิสชั้นนำมีหลายคน ไม่ว่าจะเป็น "โนวัค โยโควิช" มือหนึ่งของโลก , "แอนดี เมอร์เรย์" แชมป์วิมเบิลดันคนล่าสุด รวมทั้ง "โรเจอร์ เฟเดอเรอร์" ที่ยังเจ็บหลัง แต่เจ้าตัวมั่นใจว่าจะกลับมาได้ในศึกยูเอส โอเพน และที่ขาดไม่ได้คือ "ราฟาเอล นาดาล" นักเทนนิสกล้ามโตจากสเปน ที่ล่าสุดก็เพิ่งได้แชมป์ "เวสเทิร์น แอนด์ เซาเธิร์น โอเพน" ประเภทชายเดี่ยวด้วยการปราบ "จอห์น อิสเนอร์" ในรอบชิงชนะเลิศ 7-6 และ 7-6 หลังจากก่อนหน้านั้นก็ได้แชมป์ "โรเจอร์ส คัพ" ที่แคนาดา มาหมาดๆ
อย่างไรก็ตาม ในศึกยูเอส โอเพน ครั้งนี้ น่าเสียดายที่ว่าในประเภทหญิงเดี่ยว จะไม่มี "มาริยง บาร์โตลี" มือเจ็ดของโลกจากฝรั่งเศส ที่เธอช็อกความรู้สึกของคนทั่วโลกด้วยการประกาศเลิกเล่นเทนนิสอาชีพ หลังตกรอบสอง เวสเทิร์น แอนด์ เซาเธิร์น โอเพน ด้วยการแพ้ "ซิโมนา ฮาเลป" จากโรมาเนีย
บาร์โตลี พูดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอแขวนแร็กเก็ต เพราะเธอบาดเจ็บเรื้อรังอยู่หลายส่วนของร่างกาย ทำให้เธอไม่ต้องการฝืนสังขารลงเล่นเทนนิสอาชีพอีกต่อไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธออายุเพียง 28 ปี และเพิ่งได้แชมป์วิมเบิลดันมาเมื่อไม่นานนี้
“ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ที่ฉันจะต้องบอกทุกคนว่าเลิกเล่นเทนนิส นี่คือแมตช์สุดท้ายในอาชีพการเล่นเทนนิสของฉัน ฉันเสียใจจริงๆ ค่ะ แต่ก็ถึงเวลาที่ฉันต้องเลิกอาชีพนักเทนนิสแล้ว เพราะร่างกายของฉันไม่ได้อยู่ในสภาพที่สามารถลงเล่นเทนนิสในระยะยาวได้อีกต่อไป” บาร์โตลีกล่าวทั้งน้ำตา
การประกาศแขวนแร็กเก็ตของเธอ ไม่เพียงช็อคความรู้สึกแฟนๆ เท่านั้น ตัวเธอเองก็บอกว่าตัวเธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า แมตช์ที่เธอดวลกับฮาเลปจะเป็นแมตช์สุดท้าย
“บางที คุณเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าคุณกำลังแข่งแมตช์สุดท้ายในอาชีพ ฉันเองรู้สึกในสิ่งนี้ได้หลังจบแมตช์นี้แล้ว ฉันรู้สึกว่า ฉันตีเทนนิสด้วยฟอร์มที่ฉันต้องการไม่ได้อีกต่อไป หลังจากผ่านเซ็ตแรกในแมตช์ที่เจอกับฮาเลป ฉันรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย ฉันจึงตัดสินใจยุติอาชีพไว้แค่แมตช์นี้ สำหรับฉันแล้ว ทุกคนจะจดจำฉันได้ในฐานะแชมป์วิมเบิลดัน แต่ไม่มีใครจะจดจำแมตช์สุดท้ายของฉันได้”
แน่นอนว่า "บาร์โตลี" เอง คงเสียดายและมีความทรงจำมากมายในการลงเล่นเทนนิส เพราะเธออยู่ในวงการเทนนิสอาชีพมา 13 ปี ได้แชมป์เทนนิสอาชีพของดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ 8 รายการ ส่วนเทนนิสระดับแกรนด์แลม เธอลงแข่งมา 47 หน ได้แชมป์ไปหนเดียว คือ วิมเบิลดัน ปี 2013 แต่แชมป์แกรนด์สแลมหนเดียวที่เธอไปคว้ามาได้จากรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นความสำเร็จที่เพียงพอแล้ว ที่ทำให้เธอแขวนแร็กเกตไปอย่างเต็มภาคภูมิ
วันนี้ บนคอร์ตเทนนิสอาชีพ ไม่มี "บาร์โตลี" ลงเล่นอีกต่อไป แต่วงการเทนนิสโลก ยังคงมีเธออยู่ในความทรงจำไปอีกนานเท่านาน
ข่าวเด่น