1 กันยายน ดีเดย์การปรับราคาก๊าซหุงต้ม LPGภาคครัวเรือนขึ้นอีก 0.50 บาท/กิโลกรัม ทุกเดือนตั้งแต่ ก.ย.2556 และยังเป็นวันที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กำหนดจะปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษ สายเฉลิมมหานคร / ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษบูรพาวิถี ซึ่งเป็นไปตามสัญญาสัปทาน 

ซึ่งค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนที่กำลังชะลอลงต่อเนื่องในปัจจุบันให้ทรุดลงไปอีก โดยยืนยันได้จาก ประธานคณะกรรมการค้าปลีกและค้าส่งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ยอมรับว่า ภาวะธุรกิจค้าปลีกในช่วงครึ่งแรกปี 2556 เติบโตต่ำกว่าประมาณการโดยอยู่ที่ 7-8% และทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวไม่เกิน 10% โดยกลุ่มสินค้าที่ยังขยายตัวดีจะเป็นเฉพาะสินค้าในกลุ่มอาหาร เพราะเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการบริโภค

โดยการชะลอตัวส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยหลักๆ ได้แก่ ราคาสินค้าเกษตรที่ทรงตัวในระดับต่ำ ภาคการส่งออกที่ชะลอตัว แต่ปัจจัยสำคัญเกิดจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อประเด็นเรื่องค่าครองชีพ/ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ยังไม่มีแนวโน้มจะลดลง โดยเฉพาะการปรับราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน อีกทั้งยังถูกกดดันด้วยภาระหนี้สินของครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นประมาณ 80% ต่อ GDP 

ส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อการจับจ่ายใช้สอยในอนาคต เนื่องจากกำลังซื้อที่ลดลงจากเงินจับจ่ายของประชาชน ส่วนหนึ่งถูกแบ่งไปใช้สำหรับผ่อนชำระจากการซื้อรถยนต์คันแรก รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นภาระผูกพันที่ต่อเนื่อง เป็นผลให้มีการระมัดระวังการใช้จ่าย ตัดลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เปรียบเทียบราคาคำนึงถึงคุณภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันภาคธุรกิจยังอยู่ในช่วงที่รอประเมินแนวโน้มสถานการณ์เศรษฐกิจ-การเมืองในประเทศ เป็นผลให้ชะลอการลงทุนใหม่และการจ้างงานเพิ่ม

ต้องยอมรับว่า ราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้น จะทำให้ค่าครองชีพปรับเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอาหารปรุงสำเร็จ แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์ น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน จะยืนยันว่า การทยอยปรับขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม มีผลกับราคาอาหารปรุงสำเร็จเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยแก๊สหุงต้ม 1 ถังใช้ประกอบอาหารได้ประมาณ 300 จาน ซึ่งการปรับขึ้นแก๊สเดือนละ 50 สตางค์/กก. ส่งผลกับต้นทุนราคาอาหารปรุงสำเร็จสูงขึ้นเพียงจานละ 2-3 สตางค์เท่านั้น

และกรมการค้าภายใน ได้ขอความร่วมมือร้านอาหารเครือข่ายร้านธงฟ้า ตลาดอาหารสด ห้างสรรพสินค้า ให้ตรึงราคาอาหารปรุงสำเร็จจนถึงสิ้นปี ขณะเดียวกัน จะมีการจัดมหกรรมธงฟ้าให้ถี่ขึ้นทั่วประเทศ โดยในกรุงเทพมหานครจะจัดสัปดาห์ละ 10 จุดในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อจำหน่ายสินค้าจำเป็นเพื่อบรรเทาค่าครองชีพ เช่น ไข่ไก่ ถาดละ 80 บาท ข้าวสาร และน้ำมันพืช

ส่วน นายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็เชื่อว่า การประกาศปรับขึ้นราคาก๊าซหุ้งต้ม ค่าไฟฟ้า ค่าทางด่วน ในเดือนกันยายนนี้ จะไม่ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) ที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า จะอยู่ที่ร้อยละ 2.8 - 3.2 ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเป็นการทยอยปรับราคาซึ่งจะไม่มีผลต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน

นับตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ คนไทยทั้งประเทศ คงหนีไม่พ้นที่ต้องหาทางรับมือกับค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้กระทรวงพาณิชย์จะยังประกาศตรึงราคาสินค้าถึงสิ้นปี