หลายครั้งหลายคราว เราได้ยินข่าวของดารานักแสดงหลายคนที่ต้องเสียชีวิตหรือมีชีวิตที่ตกต่ำเพราะเดินทางผิด ไปพึงพายาเสพติด  รวมถึงเหล้าและบุหรี่    ล่าสุดเรื่องของ  “ยุ้ย”รจนา เพชรกัณหา  ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ชีวิตต้องมาย่ำแย่เพราะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด                                                                                                                    

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2537  ชื่อของ รจนา  เพชรกัณหา เป็นที่โด่งดัง หลายคนในประเทศไทยรู้จักเธอ เพราะเธอชนะเลิศการประกวด  Elite Super Model of Thailand 1994  ได้เซ็ญสัญญากับเอเยนซี่นางแบบ เพื่อไปทำงานในต่างประเทศ  โลดแล่นอยู่ในวงการแฟชั่นโลก  เป็นการพลิกชีวิตจากเดิมค่อนข้างยากจน จบการศึกษาเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่  6 แล้วมาทำงานล้างจาน                                                                                        

รจนา ได้เป็นนางแบบนิตยสาร Vogue ฉบับเอเชีย  ได้ไปเดินแฟชั่นในหลายๆประเทศ ทั้ง ฝรั่งเศส  อิลี  อังกฤษ และ  สหรัฐฯ  แถมติดหนึ่งใน 12 โมเดลโลก และถ่ายแบบโฆษณาสินค้าเป็นจำนวนมาก ที่โดดเด่นสุดๆ คือ การเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับน้ำหอมดังอย่าง แชแนล   รวมทั้งเคยเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์ The Fifth Element (1997) (Uncredited)  สามารถทำรายได้สูงสุดถึง 50  ล้านดอลลาร์ต่อปี  ซึ่งรายได้อย่างนี้นับว่ามากมาย และพลิกชีวิตจากเด็กยากจนจากอุบลราชธานีกลับมาร่ำรวยได้                                                                                   

ทว่าจุดหักเหในชีวิตของ รจนา ก็เกิดขึ้น เมื่อเธอเลือกทางเดินผิด หันไปพึ่งยาเสพติดตั้งแต่เมื่ออายุ 20 ปี  และเมื่ออายุ 24-25 ปี ก็เที่ยวเตร่และติดสุราอย่างหนัก  จนเสียงาน ถูกบอกเลิกสัญญา  ต้องเดินทางกลับประเทศไทยในปี พ.ศ. 2545 หลังจากใช้ชีวิตเป็นนางแบบในต่างประเทศ 8 ปี                                                                             

หลังจากกลับประเทศไทย ยังไม่มีงานทำ ประกอบกับติดสุราเรื้อรัง ต้องไปทำงานโรงงาน อีกทั้งยังมีข่าวอื้อฉาวเรื่องวิวาทกับมารดา และกับสามีชาวไทย ก่อนมีงานถ่ายแบบ เดินแบบ และเป็นอาจารย์สอนเดินแบบ ควบคู่กับการบำบัดอาการจากยาเสพติดอย่างสม่ำเสมอ เพราะมีอาการหลอนๆ เบลอๆ บ้างในบางเวลา และไม่ค่อยมีใครได้ข่าวคราวเธอมากนัก                                                                                                                                

จนมีคนพบรจนา ในสภาพที่เป็นคนวิกลจริต  เร่ร่อนไม่มีที่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เดินถือถุงหูหิ้วขนาดใหญ่ ซึ่งภายในมีลังกระดาษบรรจุเสื้อผ้าเก่า ขวดน้ำดื่ม องุ่น และขนมขบเคี้ยว เป็นที่น่าเวทนา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าเคยมีประวัติเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา จึงได้พยายามพูดจาโน้มน้าว ให้นางสาวรจนาไว้ใจเพื่อส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา                                                                                           

ซึ่งล่าสุด นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ ได้เดินทางมาเยี่ยม  ซึ่งนางปวีณาเปิดเผยว่า หลังรับตัวรจนาเข้ามารักษาตัว  ทางกระทรวงและตำรวจได้เข้ามาดูแล ทั้งประสานครอบครัวของคุณยุ้ยด้วยอีกทาง เพื่อให้มาพบปะพูดคุยกันถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ดังกล่าว และหลังจากที่รักษาตัวจนหายดีแล้วและออกจากรพ.ไปแล้วนั้น จะได้มีที่อยู่ที่อาศัยและไม่กลับมาเร่ร่อนอีก ซึ่งในลักษณะนี้ทางกระทรวงต้องการให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมและดูแลกันเอง ซึ่งในส่วนของครอบครัวคุณยุ้ยถ้าหากยังไม่พร้อม ทางกระทรวงก็จะดูในเบื้องต้นก่อน หากครอบครัวพร้อมเมื่อไรก็จะส่งตัวต่อให้ครอบครัวไปดูแลต่อไป หากไม่พร้อมจะดูแลอีกทาง และจะเข้าไปพูดคุยว่าเพราะเหตุใดและหาทางออกต่อไป   

ส่วน นางดี กอแก้ว ป้าของยุ้ย  บอกว่า  ทราบข่าวของหลานจากสื่อต่างๆ แล้ว รู้เสียเศร้าใจมาก ที่หลานต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้   และเปิดเผยว่า  ยุ้ยเป็นลูกสาวของนายยศ เพชรกัณหา ชาว จ. เพชรบุรณ์  เป็นช่างซ่อมรถยนต์  กับนางจันดี  หลานสาวสามีของตน  และเป็นช่างเสริมสวย แต่ภายหลังแยกทางกัน นางจันดีจึงนำยุ้ยมาฝากให้ช่วยเลี้ยงตั้งแต่สองขวบ  พร้อมส่งเสียเงินมาให้ดูแล  ซึ่งตนกับสามีก็เลี้ยงดูเหมือนลูกแท้ๆ จนเรียนจบป. 6  จากนั้นยุ้ยก็บอกว่าจะเข้ากรุงเทพฯไปตามหาแม่ที่ทราบว่าเป็นช่างเสริมสวยอยู่ย่านอ่อนนุช  และมีสามีใหม่ 

ยุ้ยจึงไปทำงานล้างจาน ก่อนจะมีโอกาสไปเดินแบบต่างประเทศ กลายเป็นนางแบบของโลกผู้โด่งดัง ซึ่งก็เคยส่งเงินมาให้ตนใช้บ้าง  ต่อมาทราบว่ามีปัญหาเรื่องยาเสพติดและกลับเมืองไทย มาอยู่กับแม่ต่อ  แต่แม่ยุ้ยก็ติดสุรา  ส่วนยุ้ยเองก็มีปัญหาไม่แพ้กัน ทั้งคู่เลยระหองระแหงกันและหนีไปอยู่กับพ่อ แต่ก็มีปัญหากับแม่เลี้ยงก็เลยออกมา  

กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว กลับมาอยู่กับตน และพาไปรักษาอาการทางจิตที่ รพ. ศรีมหาโพธิ์  จนอาการดีขึ้น เขาก็บอกว่าจะกลับไปกรุงเทพฯ อีก เพราะเพื่อนโทรมาตามให้ไปเดินแบบ  พอมีงาน มีเงิน ก็กลับไปกินเหล้าอีก  จนอาการกำเริบขึ้น 

ล่าสุดเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ก็กลับมาอยู่กับตนอีก  แต่ไม่ยอมเลิกเหล้า เลิกเบียร์ แถมสูบบุหรี่มวนต่อมวน ตนเห็นสภาพแล้วหดหู่เลยบอกให้เลิก พร้อมต่อว่าไป จากนั้นยุ้ยก็ออกจากบ้านไป มาทราบอีกทีก็วันนี้ที่สื่อนำเสนอข่าวว่ากลายเป็นคนเร่ร่อนเสียสติไปแล้ว พอเห็นยุ้ยอยู่ในสภาพนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ที่สำคัญยุ้ยมีลูกชายด้วยหนึ่งคน แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นสามีและดูแลลูกของยุ้ย       

จากนี้ไปก็คงจะต้องดูว่า รจนา จะหายดีและกลับมามีชีวิตปกติได้อีกครั้งหรือไม่ ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าเธอจะกลับมามีชีวิตปรกติอีกครั้ง ไม่ไปพึ่งยาเสพติด เหล้า และบุหรี่อีก  และหวังว่าเรื่องของเธอจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนทุกคนให้ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต