นางสาวพิมพา ชลาลัย  ประธานบริหาร บริษัท วี เค เอส กรุ๊ป (เอเซีย) หรือ V-KOOL GROUP THAILAND   เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมุ่งมั่นที่จะขยายตลาดในภาคอีสานและภาคตะวันออกให้มากขึ้น  เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าของทั้งภาคอีสานและภาคตะวันออกมีความต้องการในสินค้า V-KOOL มากขึ้น อีกทั้งมีร้านประดับยนต์สอบถามมายังบริษัทจำนวนมากเพื่อต้องการเป็นตัวแทน 

"ที่ผ่านมาเราใช้หลักเกณฑ์ 1 จังหวัด 1 ผู้แทนจำหน่าย แต่ตลาดรถยนต์ในปัจจุบันของไทยเติบโตขึ้นมา เราจึงต้องการที่จะสรรหาผู้แทนจำหน่ายที่มีความตั้งใจและมีแนวทางการตลาดที่ตรงกับเรา ขณะเดียวก้นร้านประดับยนต์ที่จะมาเป็นตัวแทนติดฟิล์ม V-KOOL จะต้องมีความโดดเด่นเป็นไปตามมาตรฐานรูปแบบของ V-KOOL  คือ Concept “ V-KOOL Professional shop”  ซึ่งหากร้านประดับยนต์ใดที่มีคุณสมบัติดังกล่าวและสนใจในสินค้า V-KOOL ก็สามารถมาสมัครเป็นตัวแทนกับเราได้"นางสาวพิมพากล่าว

ประธานบริหาร บริษัท วี เค เอส กรุ๊ป กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายการสร้างยอดขายของบริษัทในปีนี้ ตั้งไว้ที่  280  ล้านบาท  อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปีนี้ตลาดรถยนต์มีการชะลอตัวอยู่พอสมควรโดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 แต่บริษัทก็ได้วางกลยุทธ์การตลาดไว้เตรียมพร้อมรับมือ โดยจะมี 3 Package หลัก ได้แก่ Solitaire Energy Package,  Eco Stature และ Ozone Signature  ที่เพิ่งเปิดตัวไปปีที่แล้วและได้รับการตอบรับดี  โดยราคาอยู่ระหว่าง 19,000-35,000 บาท  

นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทยังได้ขยายฐานการขายให้กว้างขึ้น โดยมี partner ที่เป็น Showroom รถยนต์ มาเป็นช่องทางการจัดจำหน่าย ใน รุ่น S package up X บานหน้า ซึ่งเป็นสินค้าที่คัดสรรคุณภาพมาอย่างดีจากบริษัทแม่ในต่างประเทศ เพื่อมารองรับตลาดนี้โดยเฉพาะ โดยคุณภาพการป้องกันความร้อนอยู่ที่ประมาณ 80%   

นางสาวพิมพากล่าวต่อไปว่า สำหรับยอดขาย 6 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ ทั้งยอดขายส่งและยอดขายรถยนต์ ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 140 ล้านบาท แบ่งเป็นฟิล์มรถยนต์ขายส่ง 80% ส่วนงานอาคารปีนี้คิดเป็น 20 % ของยอดรวมทั้งหมด  ทั้งนี้ฟิล์มอาคารมีแนวโน้มที่โดดเด่นขึ้นจากสภาพอากาศในปัจจุบันที่ร้อนจัด