บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ประกาศจัดงาน ‘บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน’ ก้าวสู่ปีที่ 3 หรือ  BIAS - BANGKOK INTERNATIONAL AUTO SALON งานแสดงรถแต่งและอุปกรณ์โมดิฟาย ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน 19-29 มิถุนายน 2557 บนพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ของชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตอกย้ำความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม ด้วยการอัดงบสูงถึง 350 ล้านบาท เพื่อเป็นเวทีระดับนานาชาติในการเปิดตัวธุรกิจและผลิตภัณฑ์ในกลุ่มยานยนต์ประจำภูมิภาคอาเซียน พร้อมเร่งดึงแบรนด์สินค้าแต่งรถดังจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน เพื่อเพิ่มความหลากหลายระดับนานาชาติ เตรียมรับการรวมเป็นหนึ่งเดียวของตลาดอาเซียน

 นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการบริหาร อินสไพร์ฯ และประธานการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน เปิดเผยว่า การจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน ในปีหน้าได้กำหนดทิศทางว่าจะก้าวขึ้นเป็นเวทีระดับนานาชาติในการเปิดตัวธุรกิจและผลิตภัณฑ์ยานยนต์ประจำภูมิภาคอาเซียน เพื่อมุ่งสานต่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่อง หลังได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมและมีการพูดถึงอย่างกว้างขวางจากการจัดงานเพียง 2 ครั้ง

“ในปีหน้าเราเตรียมงบประมาณสูงถึง 350 ล้าน เพื่อการจัดงานและโปรโมทงานแบบบูรณาการเต็มพิกัด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามกลยุทธ์การตลาดผสมผสานที่เรากำหนดไว้ เช่น การจัดแพ็คเก็จพิเศษเพื่อกระตุ้นผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้เปิดตัวสินค้าใหม่ในงาน ด้วยส่วนลดพื้นที่สูงสุดถึง 300,000 บาท รวมทั้งส่วนลดการยืนยันร่วมงานล่วงหน้าในเวลาที่กำหนดอีก 15-20 % นอกเหนือจากการลงโฆษณาในสื่อต่างๆ และการไปโร้ดโชว์ต่างประเทศ ญี่ปุ่น และจีน เป็นต้น”

นายวิลักษณ์กล่าวต่อว่า ในปีนี้ได้ตั้งเป้าเพิ่มผู้ร่วมออกบูทแสดงสินค้า ทั้งจำนวนและประเภทสินค้าอุปกรณ์โมดิฟายให้หลากหลายยิ่งขึ้นอีกอย่างน้อย 10%  รวมทั้งเพิ่มจำนวนผู้ออกบูทต่างประเทศทั้งในทวีปเอเชียรวมทั้งขยายไปนอกเอเชีย เพิ่มขึ้นอีก 15-20% โดยเน้นนวัตกรรมทั้งทางด้านความสวยงาม และเทคโนโลยีการโมดิฟายด้านสมรรถนะรถ ให้มีความหลากหลายรอบด้านและครอบคลุมมากที่สุด รวมทั้งช่วยหนุนเสริมให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางธุรกิจยานยนต์และอุปกรณ์โมดิฟาย พร้อมเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงรถประจำภูมิภาคอาเซียน เปิดโอกาสทางธุรกิจให้ทั้งผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการต่างชาติ ตอบรับนโยบายภาครัฐเพื่อเตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ในปี 2016” นายวิลักษณ์เสริม

ทั้งนี้ การจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากองค์กรภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อาทิ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือทีเส็บ, สถาบันยานยนต์, องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น หรือ JETRO และคณะกรรมการผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งรถประเทศญี่ปุ่น หรือ NAPAC เราได้มีการพูดคุยกับองค์กรเหล่านี้บ้างแล้ว ซึ่งจะให้การสนับสนุนการจัดงานในปีหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ JETRO และ NAPAC พันธมิตรเชิงกลยุทธ์สำคัญสำหรับการออกร่วมออกบูทของบริษัทต่างชาติ และกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้เป็นงานแสดงรถและอุปกรณ์โมดิฟายระดับนานาชาติอย่างแท้จริง ด้วยรูปแบบ ‘เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คาร์โชว์’ โดดเด่นเพียงหนึ่งเดียวในไทยและอาเซียน

ส่วนของความบันเทิงภายในงานนับเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญ จะคงความหลากหลายและเพิ่มความครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายอย่างครบครันในปีหน้า นอกจากนี้ ยังได้เตรียมกิจกรรมร่วมกับกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดการเข้าถึงล่วงหน้า และการรับรู้การจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

นายก้องเกียรติ เหวียนระวี กรรมการบริหาร บริษัทอินสไพร์ฯ และหนึ่งในคณะกรรมการจัดงาน กล่าวว่า  จากผลวิจัยความพึงพอใจของผู้เข้าชมงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน 2013 โดยนีลเส็นฯ สิ่งที่น่าสนใจ คือ สัดส่วนของผู้ที่ตั้งใจจะมาเลือกซื้อสินค้าและอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ใกล้เคียงกับการชมรถแต่งที่ยังคงเป็นอันดับหนึ่ง และอุปกรณ์ที่จัดแสดงในงานนั้นหลากหลาย มีคุณภาพดี และมีความแตกต่างจากภายนอกงาน  ทั้งนี้ ผู้เข้าชมงาน 92%  ทราบถึงการจัดแสดงงานล่วงหน้าและมีความตั้งใจที่จะมาร่วมงาน ซึ่งเป็นผู้เข้าชมงานเป็นครั้งแรกถึง 64% สะท้อนให้เห็นถึงการขยายฐานผู้ชมมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่อายุระหว่าง 25 - 40 ปี และมีรายได้ระดับบน ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับข้อมูลการจัดงานจากการบอกต่อของคนรู้จัก รองลงมาคือ สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค    

“ผลวิจัยยังชี้ชัดว่า ภาพโดยรวมและบรรยากาศของงานในความรู้สึกของผู้เข้าชม คือ เป็นงานที่น่าสนใจ มีสีสัน เป็นงานที่ใหม่ น่าตื่นเต้น และแตกต่างจากงานแสดงรถอื่นๆ อย่างมาก โดยผู้เข้าชมงานกว่า 89% เดินดูอุปกรณ์โมดิฟายตามบูทต่างๆ ทั่วงาน และมองว่าสินค้าในงานมีความแตกต่างและคุณภาพดีกว่าที่ขายทั่วไป 93% ทั้งนี้ สิ่งที่อยากทำหลังจากเข้าชมงาน คือ แต่งรถของตนถึง 53% และรองลงมาคือ ซื้ออุปกรณ์แต่งรถ 50% ด้านคะแนนเฉลี่ยความชื่นชอบงาน ทั้งก่อนและหลังเข้าชมงานปี 2013  จากผลวิจัยโดยนีลเส็นฯ ชี้ชัดว่า ผู้เข้าชมงาน และผู้ออกบูทแสดงสินค้า มีความชื่นชอบมากยิ่งขึ้น แสดงว่างานนี้จัดได้ดีเกินความคาดหวัง แม้จะจัดขึ้นเพียงครั้งที่ 2  ก็ตาม สอดคล้องกับแนวโน้มของการร่วมงานนี้ในอนาคตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เราจึงเริ่มเตรียมการจัดงานครั้งที่ 3 ตั้งแต่บัดนี้ โดยตั้งเป้าเพิ่มผู้ร่วมออกบูททั้งจำนวนและประเภทสินค้าอย่างน้อย 10% และผู้ออกบูทต่างประเทศอีก 15-20% เพื่อก้าวเป็นศูนย์กลางธุรกิจยานยนต์และอุปกรณ์โมดิฟาย รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงรถประจำภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง” นายก้องเกียรติกล่าวสรุป