ยานยนต์
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส "เอส 400 ไฮบริด เอเอ็มจี พรีเมียม" หรูหรา สปอร์ต ประหยัด


 

 

 บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมหรูระดับโลกในตระกูลเอส-คลาส ด้วยรุ่น เอส 400 ไฮบริด เอเอ็มจี พรีเมี่ยม  รหัสตัวถัง V22  ยานยนต์ที่ได้รับการรังสรรค์ความเป็นเลิศ ทั้งระบบการขับขี่แบบอัจฉริยะ เทคโนโลยีประหยัดพลังงานใหม่ล่าสุด และความหรูหราสง่างามในทุกองค์ประกอบ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด คงความหรูหรา น่าหลงใหล และยังได้รับรางวัลด้านดีไซน์ระดับโลกจาก Red Dot Award 2013 และออโต้โมทีฟ Automotive Brand Contest 2013

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-400 ไฮบริด เอเอ็มจี พรีเมี่ยม ได้ปรับเปลี่ยนโฉมใหม่หมด แต่ยังคงความหรูหราสง่างาม มีความสปอร์ตมากขึ้น กระจังหน้ามีขนาดใหญ่กว่าเดิม ลายเส้นพริ้วไหวด้านข้าง ความโค้งมนของเส้นหลังคา ตลอดด้านท้ายรถที่ออกแบบให้มีความลาดเท  มิติของตัวรถ มีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่ารุ่นเดิม ยาวขึ้น 20 มม. กว้างขึ้น 28 มม. และสูงขึ้น 17 มม.

ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้นและเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร  สำหรับพื้นที่ห้องโดยสารด้านหน้าคนขับมีพื้นที่เหนือศีรษะ เพิ่มขึ้น 14 มม. พื้นที่ช่วงไหล่ ของผู้โดยสารด้านหน้าเพิ่มขึ้น 14 มม. และผู้โดยสารด้านหลังเพิ่มขึ้น 11 มม. พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังช่วงขา เพิ่มขึ้น 16 มม. ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารตอนหลังมากขึ้น

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส ใช้เทคโนโลยีระบบส่องสว่างเป็นแบบแอลอีดี ทั้งคันทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลก โดยรวมรถคันนี้มีหลอดไฟแอลอีดี รวมกันเกือบ 500 ดวง โดยไฟหน้าใช้หลอดไฟแอลอีดีข้างละ 56 ดวง ไฟท้ายใช้ข้างละ 35 ดวง โดยมีหลอดไฟแอลอีดี ตัดหมอกหลังอีก 4 ดวง ส่วนภายในห้องโดยสารของตัวรถมีใช้มากถึง 300 ดวง โดยสามารถประหยัดพลังงานโดยรวมถึงกว่า 75% เมื่อเทียบกับหลอดไส้แบบธรรมดา

การตกแต่งภายในผสานรูปแบบดั้งเดิม ความหรูหรา และแนวคิดของรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ให้เข้ากันได้อย่างกลมกลืนภายใต้แนวคิดความนุ่มสบายขณะขับขี่ รวมไปถึงอุปกรณ์คุณภาพสูงภายในรถที่สามารถใช้งานได้ง่าย เน้นการใช้วัสดุคุณภาพสูงและการออกแบบที่เน้นการใช้งานได้จริงเป็นหลัก ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร สามารถปรับเฉดได้ถึง 7 สี นอกจากนั้น ยังติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังสลับลายไม้ 2 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่น ซึ่งเป็นพวงมาลัยนิรภัยพาวเวอร์ที่สามารถปรับน้ำหนักได้ตามความเร็วรถ ซึ่งจะช่วยทำให้การควบคุมทิศทางรถเป็นไปอย่างเที่ยงตรงแม่นยำและปลอดภัย

เอส-400 ไฮบริด เอเอ็มจี พรีเมี่ยม คันนี้ มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยกว่ารุ่นก่อนถึง 20%  มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 ขนาด 3,498 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,500 – 5,250 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่  27 แรงม้า  แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิว-ตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 –100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 16 กม./ ลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ย 147 กรัม/กม. โดยพละกำลังถูกถ่ายทอดผ่านเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะแบบ 7จี-ทรอนิค พลัส พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย แบบไดเร็ค ซีเร็ค

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-400 ไฮบริด เอเอ็มจี พรีเมี่ยม หรูหรา คันนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยเคาะราคาที่ 11,400,000 บาท   เบื้องต้นเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 50 คัน  หากได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี ปีหน้ามีโอกาสได้เห็น รุ่นเอส-คลาส ประกอบในประเทศไทย


LastUpdate 06/09/2556 18:27:59 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 2:54 am