"ซีไอเอ็มบีไทย" งัดแพ็คเกจประกันชีีวิตพ่วงสุขภาพ เน้นคุ้มครองชีวิตยาวถึงอายุ 90 ปี เจาะตลาดวัยทำงาน ผนึกกำลัง"ไทยประกันชีวิต"ชูบริการแข็งแกร่ง พร้อมพัฒนาเครื่องมือขายแบบใหม่ วิเคราะห์โจทย์การเงินต่อยอดสร้างความมั่งคั่งลูกค้า
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมมือกับ บมจ.ไทยประกันชีวิต ออกแบบประกันชีวิตใหม่ ซีไอเอ็มบี ไทย เฮลท์ พลัส ซึ่งเป็นแพ็คเกจประกันชีวิตพ่วงคุ้มครองสุขภาพ โดยเน้นจุดขายที่ความคุ้มครองอย่างรอบด้านทั้งกรณีเสียชีวิตและค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากจากเจ็บป่วย อุบัติเหตุ และโรคร้ายแรง รวมถึงยังมีเงินชดเชยรายวันให้ด้วย
ทั้งนี้ แบบประกันชีวิตนี้จะคุ้มครองชีวิตถึงอายุ 90 ปี ซึ่งรับประกันตั้งแต่อายุ 16-60 ปี โดยกลุุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นวัยทำงานที่เริ่มมีรายได้แล้ว สามารถเลือกซื้อได้ง่าย ค่าเบี้ยเฉลี่ยประมาณ 25,000-30,000 บาท/ปี เมื่อครบสัญญายังมีเงินคืนให้ 110% ของทุนประกัน และด้วยการออกแบบเป็นลักษณะแพ็คเกจความคุ้มครอง จึงสามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ด้วย
"เราเป็นหนึ่งในไม่กี่ธนาคารที่สามารถนำเสนอประกันสุขภาพได้ เพราะเรื่องนี้ต้องอธิบายเยอะและอาศัยเวลาทำความเข้าใจกัับลูกค้า ต่างจากสินค้าแบบออมทรัพย์ที่ทำตลาดได้ไม่ยากนัก ขณะเดียวกันเรื่องบริการหลังการขายก็เป็นส่วนสำคัญ แต่เรามั่นใจว่าด้วยจุดแข็งของพันธมิตรอย่างไทยประกันชีวิตซึ่งมีประสบการณ์และเครือข่ายบริการที่แข็งแกร่งที่จะรองรับบริการด้านสินไหมได้ จึงเป็นข้อได้เปรียบที่จะทำตลาดนี้"
นอกจากออกสินค้าใหม่แล้ว ธนาคารยังได้ร่วมมือกับไทยประกันชีวิตพัฒนาแบบสอบถาม smart application ที่เรียกว่า "ติ๊ก-โชว์-รวย" ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ความพร้อมทางการเงินเพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต ไม่ว่าจะมีโจทย์ด้านการเงินเป็นการเก็บออมหรือเป็นทุนการศึกษาของลูก คุ้มครองรายได้และมรดก ต้องการผลประโยชน์ทางภาษี หรือแผนเกษียณอายุอย่างมีความสุขก็ตาม
เขาบอกอีกว่า ด้วยเครื่องมือนี้นอกจากวิเคราะห์ผลสุขภาพทางการเงินออกมาแล้ว ยังสามารถนำมาสู่การออกแบบจัดสรรผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ผสมรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก กองทุนรวม หรือประกันชีวิต ในลักษณะการบริหารความมั่งคั่งหรือเวลธ์แมเนจเม้นต์ให้แก่ลูกค้า เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"ไม่ว่าจะมีเป้าหมายทางการเงินในอนาคตเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่พบตรงกันก็คือเราต้องเตรียมความพร้อมทางการเงินไว้มากขึ้น ทั้งการเก็บออมเพื่อการศึกษาของลูกที่มีแนวโน้มค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลต่างๆ ก็แพงขึ้นมาก รวมถึงการเก็บออมไว้สำหรับชีวิตยามเกษีียณที่ไม่มีรายได้อีกหลายสิบปี ก็จำเป็นต้องเตรียมเก็บออมเงินไว้สำหรับช่วงเวลานั้นด้วยมูลค่าเงินที่สูงมากขึ้น ฉะนั้น การออมเงินอย่างมีวินัยอย่างประกันชีวิตจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเข้ามาตอบโจทย์ และผสมผสานไปกับผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ ที่ช่วยให้การออมงอกเงยได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย" นายอดิศรกล่าว
.JPG)
ข่าวเด่น