ภาระหนี้สินประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เริ่มส่งผลกระทบต่อการออมของประชาชน
โดย นายสมิทธิ์ พนมยงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายเงินฝากและการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) กล่าวว่า ภาพรวมของระบบธนาคารในปีนี้คาดว่าพอร์ตเงินฝากของธนาคารจะเติบโตขึ้นเป็น 13 ล้านล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 11-12 ล้านล้านบาท คิดเป็นการเติบโตราว 3% ซึ่งเป็นการเติบโตในแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากปัจจุบันหนี้ภาคครัวเรือนปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ประชาชนต้องนำเงินไปใช้ในการชำระหนี้มากขึ้น
และยังสอดคล้องกับตัวเลขอัตราการเพิ่มขึ้นในการตรวจสอบประวัติสินเชื่อ ของทั้งสถาบันการเงินและประชาชน โดย ผู้จัดการใหญ่บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) สุรพล โอภาสเสถียร เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอยู่ประมาณ 14 ล้านบัญชี ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ไม่ได้ระบุวัตถุประสงค์ของการใช้จ่าย ซึ่งพบว่าปัจจุบันลูกค้าที่มีประวัติการค้างชำระเกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน ประมาณ 3% แม้ว่ายังอยู่ระดับใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่ขณะนี้สถาบันการเงินก็เข้มงวดในการให้สินเชื่อมากขึ้น
สำหรับปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในภาพรวมนั้น ยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก โดยปัจจุบันมีลูกหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน จำนวน 1.1 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 1 ล้านบัญชี จากจำนวนบัญชีลูกหนี้ทั้งหมด 73 บัญชี หรือคิดเป็นลูกหนี้จำนวน 25 ล้านคน
ส่วนกลุ่มลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์คันแรก คาดว่าจะมี 1.2 ล้านคัน ซึ่งยังไม่พบว่ามีปัญหาหนี้เสีย เนื่องจากบริษัทเช่าซื้อมีการปรับกลยุทธ์ ขยายงวดเงินผ่อนจาก 48 เดือน เป็น 72-84 เดือน ทำให้ลูกค้ายังมีความสามารถในการผ่อนชำระมากขึ้น นอกจากนี้ สถาบันการเงินส่วนใหญ่มีนโยบายขายหนี้ออกไปให้บริษัทติดตามหนี้ทันที เมื่อลูกหนี้ค้างชำระเกิน 6 เดือน เพื่อลดปัญหาเอ็นพีแอล
นายสุรพล ยอมรับด้วยว่า ในภาวะเศรษฐกิจซบเซา ทำให้สถาบันการเงินเข้ามาตรวจสอบเพื่อทบทวนประวัติทางการเงินของลูกค้าเก่าเพิ่มมากขึ้น โดย 8 เดือนแรกเข้ามาตรวจสอบถึง 10 ล้านรายการ จากปีที่แล้วทั้งปีเข้ามาตรวจสอบแค่ 6.5 ล้านรายการ และตรวจสอบประวัติทางการเงินของลูกค้าเพื่ออนุมัติสินเชื่อใหม่ 1 ล้านรายการ ลดลงจากปีที่แล้วที่ทั้งปีเข้าตรวจสอบ 1.1 ล้านรายการ หรือลดลง 10% เนื่องจากสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการให้สินเชื่อมากขึ้น โดยพิจารณาจากความสามารถการชำระหนี้และรายได้ของลูกค้าเป็นหลัก
ด้านแนวโน้มการขอตรวจข้อมูลเครดิตบูโรในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเฉลี่ยปีละ 5 หมื่นรายการ เป็น 4 แสนรายการในปีที่ผ่านมา และช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้ขอตรวจข้อมูลเครดิตบูโรสูงถึง 2.8 แสนราย ส่วนใหญ่ต้องการตรวจสอบประวัติทางการเงินเพื่อขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น