ธ.ก.ส.เปิดโครงการเงินฝากเกษียณเปี่ยมสุข 4 หวังสร้างหลักประกันที่มั่นคงด้านรายได้ให้แก่ผู้เกษียณ ตั้งเป้ารับฝาก 25,000 ล้านบาท ฝากขั้นต่ำ 1 แสนบาท สูงสุด 50 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยเป็นรายเดือนแบบขั้นบันได สูงสุด 4.60% ต่อปี ไม่เสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก เริ่มเปิดรับฝากตั้่งแต่วันที่ 16 ก.ย.-15 พ.ย.นี้

นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ได้เปิด“โครงการเงินฝากเกษียณเปี่ยมสุข 4” เพื่อช่วยเหลือข้าราชการ พนักงานองค์กรของรัฐ หรือพนักงานหน่วยงานอื่นๆ ที่เกษียณอายุตามปกติหรือเกษียณอายุก่อนกำหนดในปี 2556 และบุคคลทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป รวมถึงทดแทนเงินฝากในโครงการเงินฝากเกษียณเปี่ยมสุข 2 ของ ธ.ก.ส. ที่กำลังจะครบกำหนดในวันที่ 30 กันยายนนี้ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เกษียณสามารถวางแผนจัดสรรเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
         
สำหรับเงื่อนไขการฝากเงินกับ“โครงการเงินฝากเกษียณเปี่ยมสุข 4” แบ่งเป็นประเภท ระยะเวลาการฝาก 3 ปี และ 4 ปี โดยจ่ายดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ดังนี้ ประเภท 3 ปี ปีที่ 1 ร้อยละ 3.20 ปีที่ 2 ร้อยละ 3.30 และปีที่ 3 ร้อยละ 4.00 เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.50 บาทต่อปี และประเภท 4 ปี ปีที่ 1 ร้อยละ 3.30 ปีที่ 2 ร้อยละ 3.40 ปีที่ 3 ร้อยละ 3.50 และปีที่ 4 ร้อยละ 4.60 เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.70 บาทต่อปี
         
โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถเปิดบัญชีใหม่ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท ซึ่งขยายจากเดิมให้ฝากได้สูงสุดแค่ 20 ล้านบาท และพิเศษสำหรับลูกค้าในโครงการเงินฝากเกษียณเปี่ยมสุข 2 ที่กำลังจะครบกำหนดและมีความประสงค์จะฝากต่อในประเภท 4 ปี ธ.ก.ส.มอบสิทธิประโยชน์ โดยปีที่ 1 ได้รับดอกเบี้ยร้อยละ 3.35 ปีที่ 2 ร้อยละ 3.45 ปีที่ 3 ร้อยละ 3.55 ปีที่ 4 ร้อยละ 4.65 เฉลี่ยดอกเบี้ยที่ผู้ฝากจะได้รับร้อยละ 3.75 บาทต่อปี ซึ่งดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษี
         
ในส่วนของการจ่ายดอกเบี้ย ธ.ก.ส. จะจ่ายเป็นรายเดือนโดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เพื่อให้ผู้ฝากสามารถเบิกถอนไปใช้จ่ายได้อย่างสะดวกเสมือนมีเงินเดือนใช้ทุกเดือนเริ่มเปิดรับฝากตั้งแต่ 16 กันยายน - 15 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น โดยมีเป้าหมายการรับฝาก 25,000 ล้านบาท กรณีมีผู้สนใจร่วมฝากเงินจำนวนมากและครบตามเป้าหมาย ธ.ก.ส. จะปิดการรับฝากทันที
        
ทั้งนี้หากผู้ฝากถอนเงินหรือปิดบัญชีก่อนครบกำหนดระยะเวลา ธ.ก.ส.จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินร้อยละ 1 ของต้นเงินที่ถอน แต่ไม่น้อยกว่าครั้งละ 500 บาท ยกเว้นการถอนเงินฝากกรณีผู้ฝากเสียชีวิต กรณีที่ผู้ฝากถอนเงินฝากแล้วมียอดเงินฝากคงเหลือต่ำกว่า 100,000 บาท ระบบจะโอนเป็นเงินฝากออมทรัพย์พิเศษปกติ
         
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ธ.ก.ส. ได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อดูแลกลุ่มลูกค้าผู้เกษียณอายุมาแล้วหลายโครงการ เช่น เงินออมเกษียณเพิ่มสุข เงินฝากเกษียณเปี่ยมสุข เงินออมเกษียณมั่งคั่ง และเงินออมเกษียณสุขใจ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เกษียณได้รับผลตอบแทนในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมและสามารถรับดอกเบี้ยเป็นรายเดือน เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันซึ่งทุกโครงการได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้เกษียณ โดยเงินออมเกษียณเปี่ยมสุข 2 ที่กำลังจะครบกำหนดโครงการในวันที่ 30 กันยายนนี้ มียอดเงินฝากประมาณ 1 หมื่นล้านบาท 

นอกจากนี้ ธ.ก.ส ยังมีผลิตภัณฑ์เงินฝากอื่นๆที่มีความหลากหลายตอบสนองความต้องการของลูกค้า อาทิ เงินออมลูกรัก เงินฝากดอกเบี้ยสุขใจ เงินฝากดอกเบี้ยทันใจ เงินฝากรักษาทรัพย์อิสลาม ออมทรัพย์ ทวีโชค สลากออมทรัพย์ทวีสิน บัตรเพิ่มทรัพย์ เป็นต้น สำหรับยอดเงินฝากโดยรวมของ ธ.ก.ส. ณ ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 1,032,402.9 ล้านบาท

"ปัจจุบัน ธ.ก.ส.มียอดเงินฝากรวม 1,032,402.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 5 เดือนก่อนที่อยู่ที่ 1,005,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินฝากจากประชาชนทั่วไป 250,000 ล้านบาท เงินฝากจากภาครัฐบาล 200,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นนิติบุคคล โดยเงินฝากที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากเงินฝากทวีโชคที่มีผู้ฝากถึง 5 ล้านบัญชี หรือ คิดเป็นวงเงิน 160,000 ล้านบาท"นายสมศักดิ์กล่าว