หุ้นทอง
"ออสสิริส ฟิวเจอร์ส" แนะซื้อทอง-หุ้น คาด ก.ย.นี้ ทองแตะ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจได้เห็น 1,500 ดอลลาร์สิ้นปีนี้


 
"ออสสิริส ฟิวเจอร์ส " มองภาพรวมการลงทุนในตลาดทองคำและตลาดหุ้นแนวโน้มสดใส หลังเฟดเดินหน้าใช้มาตรการ QE ต่อไป แนะเข้าซื้อในตลาดทองคำทั้งทองแท่งและโกลด์ ฟิวเจอร์ส รวมถึง Set 50 future index คาดระยะสั้นภายในเดือน ก.ย.นี้ ทองเด้งขึ้นแตะ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์แน่ ก่อนจะขยับขึ้นแตะ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในสิ้นปีนี้ พร้อมคาด Set 50 future index สิ้นปีนี้มีโอกาสแตะแนวต้านที่ 1,070-1,100 จุด
 

 

นายธนสิน กลีบลำเจียก กรรมการผู้จัดการบริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยถึง ภาพรวมการลงทุนในตลาดทองคำและตลาดหุ้นว่ามีแนวโน้มสดใส พร้อมแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อในตลาดทองคำ ทั้งทองแท่งและโกลด์ ฟิวเจอร์ส รวมถึงลงทุนใน Set 50 future index โดยประเมินว่า ราคาทองคำได้ผ่านจุดต่ำสุดที่ 1,280-1,290 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์มาแล้ว และกำลังเดินหน้าในทิศทาง Stable-Sideway แต่ไม่ดีดตัวแรง โดยจะไต่ขึ้นทีละน้อยในลักษณะของการขึ้นและย่อตัวไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจจะไปอยู่ที่ SET 50 มากกว่า

ทั้งนี้ปัจจัยสนับสนุนตลาดทั้งสองอย่างที่โดดเด่นมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ยังไม่มีแผนลดระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยยังคงระดับโปรแกรมเข้าซื้อพันธบัตรไว้ที่เดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ตามเดิม จากเดิมที่เหล่านักวิเคราะห์คาดหมายว่า เฟดน่าจะลดระดับของโครงการนี้ลงราวเดือนละ 10,000 ถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนใหม่ และคาดว่าสหรัฐจะไม่ปรับลดQEในระยะสั้น

นอกจากนี้ การวางตัวนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อเป็นประธานเฟดคนใหม่แทนนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดคนปัจจุบัน ที่จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 31 มกราคม 2557 เป็นปัจจัยบวกต่อภาพการลงทุนของทั้งตลาดทองและตลาดหุ้น

ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ในส่วนของ พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท มีแนวโน้มว่าผ่านสภา ซึ่งจะทำให้มีเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ

"กรอบสำคัญของราคาทองคำ คาดว่าจะอยู่ที่ 1,300-1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยในระยะสั้นราคาทองคำอาจขึ้นไปแตะที่ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ภายในเดือนกันยายนนี้ และแตะที่  1,480-1,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วงสิ้นปี ซึ่งราคา 1,480 ดอลลาร์ ณ ระดับอัตราแลกเปลี่ยนที่  30.50 บาทต่อดอลลาร์ ราคาทองจะอยู่ที่ประมาณ 21,800 บาท"นายธนสินกล่าว
 

 

ด้าน นายจรณเวท ศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายแนะนำการลงทุน บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองไปได้ไม่ไกลนัก หรือเหมือนถูกกดไว้ไม่ให้พุ่งแรง เป็นผลจากเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ที่เป็นผลจากเงินทุนที่ไหลเข้ามารอบใหม่ โดยค่าเงินที่เปลี่ยนแปลงทุก 1 บาท จะกระทบต่อราคาทองประมาณ 600-700 บาท ซึ่งเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะส่งผลให้ราคาทองปรับสูงขึ้น
 
สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดทองคำโลกปีนี้ ถือเป็นปีแรกที่ติดลบ เพราะทองลดราคาลงมามาก โดยคาดว่าราคาทองในช่วงสิ้นปีนี้
จะอยู่ที่ 1,480-1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เทียบกับต้นปีที่อยู่ระดับ 1,680-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถือเป็นการลงทุนที่ติดลบประมาณ  7-8%
 
สำหรับมูลค่าตลาดรวมโกลด์ฟิวเจอร์ในปัจจุบัน การซื้อขายราว 60-65% เป็นของนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ หรือ Top Trade ขณะที่ลูกค้ารายย่อยมีสัดส่วนประมาณ 35% และนักลงทุนต่างประเทศมีการซื้อขายที่ 15%
 
ส่วนด้าน Set 50 future index คาดว่า สิ้นปีนี้มีโอกาสแตะแนวต้านที่ 1,070-1,100 จุด ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,030 จุด ซึ่งการซื้อขายในตลาดในปัจจุบันมีประมาณ  250,000-300,000 สัญญาต่อเดือน

 

 


LastUpdate 20/09/2556 04:16:47 โดย : Admin
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 10:45 am