นายเซอร์จิโอ พิเมนต้า ผู้อำนวยการ ไอเอฟซี ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กล่าวว่า “ไอเอฟซี มีความยินดีที่ได้สานต่อความร่วมมือกับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)หรือทีเอ็มบี ในการนำเสนอบริการใหม่ที่จะช่วยสนับสนุนลูกค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยการตกลงร่วมมือในโครงการ GTFP นี้ จะทำให้ทีเอ็มบีเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายธนาคาร กว่า 500 แห่ง ทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธนาคารชั้นนำในประเทศตลาดเกิดใหม่
“นับตั้งแต่ พ.ศ. 2548 โครงการ GTFP ได้ออกเอกสารค้ำประกันกว่า 15,000 ชุด มูลค่าร่วม 23,000 ล้านบาท สำหรับสัญญาการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศในตลาดเกิดใหม่ และในปีงบประมาณ 2556 ไอเอฟซีได้ดำเนินการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการค้าระหว่างประเทศในกลุ่มประเทศที่ยากจนที่สุดของโลกรวมเป็นเงิน 3,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดย 80% เป็นการค้ำประกันให้แก่ธุรกิจ เอสเอ็มอี”
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ทีเอ็มบีเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกที่ได้เข้าร่วมโครงการ Global Trade Finance Program (GTFP) กับไอเอฟซี ซี่งเป็นโครงการที่ช่วยให้ธนาคารสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ทางด้านการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance)ให้กับผู้นำเข้า-ส่งออกไทยที่สนใจทำธุรกิจในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) โดยทีเอ็มบีมองว่าการนำเข้า-ส่งออกเป็นเฟืองจักรสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งแต่เดิมตลาดการค้าหลักของไทยจะเน้นที่ตลาดในทวีปอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และยุโรป ต่อมาเมื่อมีวิกฤติเศรษฐกิจที่กระทบต่อประเทศเหล่านี้ การนำเข้า-ส่งออกไปยังตลาดนี้ก็หดตัวลง ประกอบกับกลุ่มประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ เช่น ประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) ตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกาที่มีการขยายตัวเร็วขึ้น การนำเข้า-ส่งออกของสินค้าไปยังประเทศในตลาดเกิดใหม่จึงมีความสำคัญมากขึ้นเป็นลำดับ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยที่จะทำธุรกรรมการค้าต่างประเทศในตลาดเกิดใหม่ อาจจะยังไม่มีความมั่นใจในตัวคู่ค้าและธนาคารในต่างประเทศของตลาดเกิดใหม่เหล่านั้น จึงอาจจะทำให้โอกาสในการขยายธุรกิจจึงเป็นไปอย่างจำกัด
ไอเอฟซี ซึ่งเป็นองค์กรในกลุ่มธนาคารโลก(World Bank Group)ที่มีเป้าหมายในการช่วยพัฒนาภาคเอกชน จึงได้ทำโครงการ GTFP Global Trade Finance Program for Thai Importers & Exporters นี้ขึ้น โดยทำหน้าที่ในการค้ำประกันการรับเงิน-จ่ายเงินระหว่างธนาคารของคู่ค้าในตลาดเกิดใหม่ให้กับธนาคารสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ทีเอ็มบีจึงได้เข้าร่วมเป็นธนาคารเครือข่ายของโครงการนี้ เพื่อสนับสนุนให้ผู้นำเข้า-ส่งออกไทยมีโอกาสที่จะขยายตลาดไปยังประเทศเกิดใหม่ได้ง่ายขึ้น สามารถป้องกันความเสี่ยงได้โดยมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม
ทั้งนี้ ไอเอฟซีมีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ AAA และ มีจำนวนธนาคารเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการนี้ อยู่ในประเทศต่างๆ ครอบคลุม 100 ประเทศทั่วโลก หรือกว่า 250 ธนาคาร โดยทำหน้าที่เป็นผู้เข้ามาค้ำประกันการรับเงิน - จ่ายเงินของธนาคารในเครือข่ายดังกล่าว ทำให้การทำธุรกรรมการค้าต่างประเทศมีความน่าเชื่อถือที่สูงมากขึ้น
ทีเอ็มบีเชื่อว่าลูกค้ามีความต้องการที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่จึงเชื่อมั่นว่าโครงการ GTFP นี้จะทำให้ลูกค้ามั่นใจในการรับเงิน-จ่ายเงิน ได้รับความสะดวก คล่องตัวในการทำธุรกรรม และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้าในการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ ในปีที่ 2555 ทีเอ็มบีและไอเอฟซี ได้ร่วมมือกันในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทยมาแล้ว
ข่าวเด่น