การตลาด
"โค้ก"เปิดแคมเปญใหญ่ "ต้องซ่า ต้องกล้า ส่งโค้กให้" ประเดิมไทยที่แรกในเอเชีย อัดงบ140 ล้านทำตลาดครบวงจร


กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นแบรนด์เครื่องดื่มแห่งความสุขและผู้นำด้านตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมในไทย ด้วยการเปิดตัวแคมเปญใหญ่ ต้องซ่า ต้องกล้า ส่งโค้กให้ ส่งโค้กรุ่นพิเศษสำหรับคนไทย ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมประทับชื่อและคำชมพิเศษบนขวดและกระป๋องโค้กรวม 250 ล้านขวด/กระป๋องเป็นที่แรกในเอเชียและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อให้วัยรุ่นและคนไทยได้ถ่ายทอดความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กัน พร้อมให้ร่วมกิจกรรมสุดซ่าชิงรางวัลกว่า 4 ล้านบาท

 

 
มร.คอนสแตนตินอส(คอสตาส) เดลิอาลิส ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทโคคา-โคลา(ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า แคมเปญ“ต้องซ่า ต้องกล้า ส่งโค้กให้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จแคมเปญระดับโลก Share a Coke และสานต่อแคมเปญพิเศษเนื่องใน วันแม่ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่มีการทำ “โค้กกระป๋องสุดพิเศษสำหรับคุณแม่”  โดยแคมเปญใหม่ริเริ่มขึ้นเพื่อหวังสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้วัยรุ่นไทยและคนไทยกล้าคิด กล้าแสดงออกถึงความรู้สึกดี ๆ ด้านดี ๆ ของชีวิตและกล้าที่จะสร้างสัมพันธ์และแบ่งปันความสุขกับเพื่อน ครอบครัวและคนอื่น  โดยสร้างสรรค์กระป๋องและขวด PET รวม 250 ล้านขวด/กระป๋อง พร้อมชื่อเล่นยอดนิยมมากกว่า 80 ชื่อและคำชื่นชมหรือแสดงความสัมพันธ์มากกว่า 10 คำ เช่น คนน่ารัก คนตริงใจ คนพิเศษ คนหล่อ แฟนและภรรยา เป็นต้น
แคมเปญ“ต้องซ่า ต้องกล้า ส่งโค้กให้” ยังเปิดตัวในไทยเป็นที่แรกของเอเชียด้วย หลังจากเปิดตัวและประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้วในมากกว่า 50 ประเทศเช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส บราซิล เยอรมนี ออสเตรีย กรีซและอิสราเอล
เวลานี้เครื่องดื่มโค้กรุ่นพิเศษได้ถูกวางจำหน่ายแล้วทุกช่องทาง โดยจะจำหน่ายไปจนถึงสิ้นปี 2556 นี้ ซึ่งอยู่ในรูปขนาดกระป๋อง 325 มิลลิลิตร 240 มิลลิลิตร(เฉพาะภาคใต้) ขวด PET  ขนาด 445 มิลลิลิตร, 450 มิลลิลิตร, 590 มิลลิลิตร, 1.25 ลิตรและ 1.5 ลิตรตามซูเปอร์มาร็เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อและร้านค้าทั่วประเทศ  
 
ทั้งนี้กลุ่มโคคา-โคลาได้อัดฉีดงบประมาณมากถึง 140 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร รวมถึงภาพยนตร์โฆษณาชุดเฟิร์นในรูปแบบความยาว 45 วินาทีและ 30 วินาทีที่เริ่มออกอากาศแล้ว ขณะเดียวกันยังทำตลาดผ่านสื่อดิจิตอล โซเชียลมีเดียและกิจกรรมภาคสนามต่าง ๆ ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังจัดโปรโมชั่นสุดซ่ามูลค่ารางวัลรวมกว่า 4 ล้านบาท  ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เชิญชวนให้ผู้บริโภคสะสมชื่อและถ้อยคำบนเครื่องดื่มโค้กด้วยกติกาง่าย ๆ คือ เข้าไปลงทะเบียนเพื่อร่วมสนุกที่ www.iCoke.co.th แล้วสะสมบรรจุภัณฑ์ฉลากพิเศษของเครื่องดื่มโค้กที่จำหน่ายในไทย ทั้งกระป๋องและขวด PET โดยผู้ที่สะสมชื่อและถ้อยคำแสดงความสัมพันธ์และความรู้สึกชื่นชมได้หลากหลายที่สุด 5 อันดับแรกประจำเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน(1รางวัลรับ 2 ที่นั่ง) สามารถเลือกรับรางวัลเป็นแพ็คเกจทัวร์พิเศษชมฟุตบอลโลกถึงขอบสนามที่บราซิล หรือรับบัตรชมคอนเสิร์ตระดับโลกที่ประเทศอังกฤษ พร้อมแพ็คเกจทัวร์ โดยจะประกาศผลผู้ชนะ 2 รอบคือ รอบแรกเดือนตุลาคม ประกาศวันที่ 2 พฤศจิกายน 2556 และรอบที่สองเดือนพฤศจิกายน ประกาศผลวันที่ 2 ธันวาคม 2556
นอกเหนือจากนั้นบรรดาผู้บริโภคยังสามารถร่วมแชร์โค้กรุ่นพิเศษที่สะสม พร้อมติดตามอัพเดทข่าวสารและกิจกรรมดี ๆ ในแคมเปญ ต้องซ่า ต้องกล้า ส่งโค้กให้ ได้ทางเวบไซต์ www.iCoke.co.th      และทางเฟสบุ๊คของโค้กได้ที่ http://www.facebook.com/cocacola
มร.คอนสแตนตินอสเปิดเผยว่า ไม่ได้ตั้งเป้ายอดขายแคมเปญใหม่ล่าสุด อย่างไรก็ตามแคมเปญพิเศษในวันแม่ได้ประสบความสำเร็จสูงมาแล้วด้วยยอดขายถึง 5 ล้านกระป๋องภายในเวลา 1 เดือน แต่ขณะนั้นยังมีเพียงโค้กกระป๋อง ทว่าแคมเปญใหม่มีหลากหลายขึ้นทั้งกระป๋องและขวด PET ขนาดต่าง ๆ  และคาดว่า แคมเปญใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นธุรกิจของโค้กให้เติบโตได้ต่อไป  หลังจากในครึ่งแรกของปี 2556 นี้กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาในประเทศไทยมีการเติบโตที่แข็งแกร่งด้วยยอดขายรวมโตถึง 21% จากข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาดเนลสัน  ในขณะที่มีส่วนแบ่งในตลาดน้ำอัดลมรวมในไทยในรอบ 12 เดือนระหว่างเดือนกรกฎาคมปี 2555-มิถุนายน 2556 อยู่ที่ 56.7% จากมูลค่าตลาดรวมทั้งสิ้นประมาณ 44,000 ล้านบาท
อนึ่งกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัทโคคา-โคลา(ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะเจ้าของแบรนด์รับผิดชอบในกิจกรรมด้านการตลาดและ 2 บริษัทพันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่าย ได้แก่ บจ.ไทยน้ำทิพย์ รับผิดชอบ 64 จังหวัดทั่วประเทศและบมจ.หาดทิพย์ รับผิดชอบ 14 จังหวัดภาคใต้
ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทยยังเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอลล์ทั่วประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ได้แก่ โค้ก,โค้ก ซีโร่,โค้ก ไลท์,แฟนต้า,สไปร์ท,ชเวปปส์,รูทเบียร์ เอแอนด์ดับบลิว รวมถึงน้ำส้มมินิทเมด สแปลช,มินิทเมด พัลพิ,มินิทเมด นิวทริบู๊สท์,น้ำดื่มน้ำทิพย์และล่าสุดเครื่องดื่มสมุนไพรฮาบุ
 
 
 

LastUpdate 30/09/2556 01:29:45 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 6:32 pm