ประกัน
'ถาวร'ยื่นปปช.ฟันอาญา'จุลสิงห์'ไม่ฎีกาคดี 'พจมาน'เลี่ยงภาษี


ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงการดำเนินกล่าวโทษต่อ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ในข้อกล่าวหาไม่ดำเนินการฎีกา ในกรณีที่ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีอาญาแผ่นดินเลี่ยงภาษี

นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมของคุณหญิงพจมาน และนางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน จงใจหลีกเลี่ยงภาษีการซื้อหุ้น บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด จำนวน 273,060,000 บาท ว่า เนื่องจากในวันนี้ นายจุลสิงห์รับราชการเป็นวันสุดท้าย ดังนั้น ตนจึงยื่นเรื่องร้องเรียนดังกล่าวต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และมาตรา 200 ฐานเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันการมิชอบ เนื่องจากนายจุลสิงห์ ไม่ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาในคดีดังกล่าว

นายถาวร แถลงต่อว่าตนได้ยื่นเหตุผลกล่าวโทษต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. 6 ข้อ คือ 1.อัยการกลับความเชื่อความเห็นว่า กรณีนี้คุณหญิงพจมานกับนางกาญจนาภา จากเห็นว่ามีความผิดกลายเป็นไม่มีความผิด เป็นการกลับขาวเป็นดำ ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่า โดยปกติแล้วกรณีแบบนี้ทางอัยการต้องยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาเกือบทุกเรื่อง 2.อัยการมีความเห็นความผิดตามกฎหมายประมวลรัษฎากร ว่า บทลงโทษตามกฎหมายดังกล่าวไม่มีเจตนารมณ์ที่ต้องการเอาคนหลบเลี่ยงภาษีไปจำคุก ซึ่งตนอยากทราบว่า อัยการเอาสมองส่วนใดมาคิดว่าจะไม่มีบทลงโทษต่อกรณีนี้ 3.อัยการปกปิดข้อเท็จจริงในกรณีสั่งไม่ฎีกา กรณีที่คุณหญิงจ่ายค่าหุ้น จากกระเป๋าซ้ายใส่กระเป๋าขวา แทนนายบรรณพจน์ และยอมจ่ายภาษีต่อบริษัทนายหน้าแทน เป็นเงิน 7,380,000 บาท แต่ได้หนีภาษี 273,060,000 บาท โดยมีการกล่าวหาว่า ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกสำนวนมาวินิจฉัยลงโทษ ทั้งๆ ที่มีการพิจารณาตามสำนวน

นายถาวร แถลงต่ออีกว่า 4.กรณีนายบรรพจน์ ศาลอาญาพิพากษาว่าผิดตามฟ้อง แต่ลงโทษ 1 ปี แต่รอการลงโทษไว้ 1 ปี ซึ่งกรณีนี้ประธานศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนได้ทำความเห็นแย้งว่า การหลบหนีคดีนี้มีจำนวนเงินสูงมากไม่สมควรรอการลงอาญา แต่อัยการไปก้าวล่วงวินิจฉัยเสียเองว่าแม้จะฎีกาไป ศาลฎีกาก็คงจะไม่รับฎีกา 5.อัยการอ้างว่าการไต่สวนเรื่อง การหลบหนีภาษีคดีนี้ได้ไต่สวนโดยไม่มีการออกหมายเรียก ขาดเหตุผลในการอ้าง เพราะกฎหมายมุ่งประสงค์ให้ทำการไต่สวนให้เกิดความเป็นธรรมถูกต้อง ก่อนประเมินว่าภาษีเท่าใด มีการหลบหนีหรือไม่ แต่อัยการไปอ้างเรื่องยังไม่ออกหมายเรียก 6.ป.ป.ช.ก็เคยมีดุลยพินิจแจ้งให้อัยการยื่นฎีกาคดีนี้ แต่อัยการก็เพิกเฉย ไม่ใส่ใจต้องการหาเหตุผลมาสั่งไม่ฎีกาอย่างเดียว ทั้งๆ ที่เป็นการตรวจสอบตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ

นายถาวร แถลงอีกว่า ตนไม่อยากกล่าวหาว่านายจุลสิงห์ เป็นคนในระบอบทักษิณ แต่ตนในฐานะที่เคยเป็นอัยการมาเป็นเวลา 19 ปี ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา โดยรักษาความถูกต้องเป็นธรรม ขจัดคนไม่ดีออกจากสังคม และได้สร้างสมเกียรติยศศักดิ์ศรีอย่างยาวนาน ซึ่งใครถูกต้องข้อสงสัยก็ให้ความเป็นธรรม การที่นายจุลสิงห์สั่งไม่ฎีกาเป็นเวลาปีเศษ โดยอ้างว่าอัยการมีความเป็นอิสระนั้น ตนอยากให้นายจุลสิงห์ให้ไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ถ้านายจุลสิงห์ไม่ผิดก็พ้นมลทิน แต่ถ้าผิดก็รับโทษเหมือนประชาชนเช่นเดียวกัน

ส่วนการยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เพียงอย่างเดียวนั้น เนื่องจากว่า ตนไม่มั่นใจในวุฒิสภาที่มีฐานจาการเลือกตั้ง และนายจุลสิงห์หลังจากเกษียณอายุราชการก็น่าจะไปดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส ดังนั้น ตนจึงยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.แต่เพียงอย่างเดียว เพื่อให้ส่งเรื่องให้ศาลอาญาพิจารณาต่อไป
 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 ก.ย. 2556 เวลา : 15:17:58
19-09-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ September 19, 2024, 11:43 pm