"แบงก์กรุงเทพ"เล็งปีหน้าโครงการ 2 ล้านล้านแผ่อานิสงส์ ดันเศรษฐกิจสินเชื่อโต ซุ่มทำแผนธุรกิจ พร้อมเดินหน้าสินเชื่อธุรกิจเอกชน หลังเห็นเทรนด์ปล่อยกู้ปีนี้ฉลุย เชื่อไตรมาส 4 วิ่งฉิว ดันสินเชื่อเข้าเป้าสบาย 6-7% สบาย
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ในช่วงวางแผนธุรกิจสำหรับปีหน้าแล้ว โดยภาพรวมแล้วธนาคารยังคงโฟกัสกับสินเชื่อธุรกิจเอกชนเป็นหลัก แต่ก็ยอมรับว่าได้บวกปัจจัยเรื่องโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลมูลค่า 2 ล้านล้านบาทเข้าไปด้วยบางส่วน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นโครงการที่ทยอยเกิดขึ้น และจะมีผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในอนาคต รวมถึงมีผลบวกต่อการเติบโตด้านสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ด้วย
"เรามองว่าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะมีความสำคัญต่อประเทศในวันข้างหน้า โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจ และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันการเติบโตของสินเชื่อได้ด้วย แต่การลงทุนของภาครัฐซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ใช้ระยะเวลาลงทุนนาน ตั้งแต่การริเริ่ม วางแผน และดำเนินการ เราก็มองปัจจัยนี้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการทำแผนเติบโตเท่านั้น แต่จุดโฟกัสหลักของเราก็ยังเป็นสินเชื่อภาคธุรกิจเอกชนมากกว่า"
ส่วนปัจจัยด้านการเติบโตสำหรับสินเชื่อภาคเอกชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจนั้น นายชาติศิริกล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารกำลังประเมินผลกระทบอยู่ แต่เชื่อมั่นว่าไม่น่าจะกระทบมากนักจนถึงระดับที่ต้องปรับกลยุทธ์กันใหม่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธนาคารจะไม่ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อสูงมากนัก และสภาพตลาดก็ยังน่าจะยังไปได้
ขณะที่ทิศทางการเติบโตสินเชื่อในปีนี้ ช่วง 9 เดือนแรกธนาคารสามารถขยายสินเชื่อได้ค่อนข้างดี และเมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาส 4 ก็น่าจะยังอยู่ในเทรนด์ที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถเติบโตสินเชื่อได้ประมาณ 6-7% ตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ซึ่งปีนี้สามารถเติบโตได้จากสินเชื่อทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อธุรกิจรายปลีก สินเชื่อธุรกิจขนาดกลาง ไปจนถึงสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่
สำหรับความกังวลด้านหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น จนกระทบต่อการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยในปีนี้ เขาให้ความเห็นว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก และมองว่าในไตรมาส 4 ก็น่าจะยังเติบโตได้ เพราะดีมานด์ด้านสินเชื่อของลูกค้าก็ยังมีพอสมควร โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย แต่การมองตลาดก็ต้องทำให้เติบโตพอประมาณ และตอนนี้เอ็นพีแอลก็ยังทรงตัวอยู่
ทั้งนี้ ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ธนาคารขยายสินเชื่อได้ประมาณ 5.14% ขณะที่เงินฝากกลับขยายตัวเพียง 1.95% ซึ่งยังต่ำกว่าระบบที่เงินฝากขยายตัวได้ 5.6%
"สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของธนาคารกรุงเทพในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 88-89% ถือเป็นระดับที่ยังพอใช้ได้ แม้ดูแล้วตัวเลขจะชี้ว่าสภาพคล่องค่อนข้างตึงตัวขึ้น แต่มองว่ายังเป็นระดับที่จะจัดการกับสภาพคล่องในระบบที่ยังพอมี ส่วนในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้าที่ระบบอาจจะต้องการเม็ดเงินเพื่อไปลงทุนในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีกเป็นจำนวนมากนั้น ก็เชื่อว่าจะไม่ส่งผลให้เกิดปัญหาสภาพคล่องในระบบจะตึงตัวรุนแรง" นายชาติศิริกล่าว
ข่าวเด่น