บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร คอร์ปอร์เรชั่น ฟิลิปปินส์ เตรียมทุ่ม ทุนกว่า 700ล้านบาทเปิดฟาร์มสุกร 3ฟาร์ม ภายในสิ้นปีนี้ หวังทำยอดขายหมูปีหน้าขึ้น 20,000 ตัว รองรับตลาดในประเทศ สร้างอาชีพเกษตรกรรายย่อย
นายอรรณพ เจียรประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนในฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง โดยฟาร์มสุกรพันธุ์แห่งแรกของบริษัทฯเริ่มให้ผลผลิตแล้ว และ ฟาร์มสุกรใหม่อีก2ฟาร์มจะสร้างเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งทั้ง 3ฟาร์ม ใช้เงินลงทุนกว่า 700ล้านบาท
การขยายฟาร์มสุกรดังกล่าว เป็นไปตามแผนการลงทุนของบริษัทฯ หลังจากที่ดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์และฟาร์ม ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งต่อจากนี้ไปจะเป็นการปรับกิจกรรมในการร่วมมือกับเกษตรกรท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อให้ปัจจัยการผลิตคุณภาพดีตั้งแต่อาหารสัตว์ พ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ทั้งไก่และหมู ส่งผลต่อการผลิตอาหารคุณภาพดีเพื่อเลี้ยงคนในประเทศอย่างเพียงพอและราคายุติธรรม โดยบริษัทฯตั้งเป้าจะเพิ่มการขายสุกรขุนจาก 5,200ตัวในปีนี้เป็น 20,200ตัว ในปีหน้า
นายอรรณพ กล่าวอีกว่า การขยายการลงทุนดังกล่าว เพื่อให้แผนการส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกรในประเทศนั้น เดินหน้าต่อได้ในอนาคต โดยบริษัทมีแผนจะส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยเลี้ยงสุกรและไก่เป็นอาชีพเสริม เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้กับคนในท้องถิ่น
ปัจจุบัน ธุรกิจของ ซีพีเอฟ ในฟิลิปปินส์ประกอบด้วย การผลิตอาหารสัตว์บกและสัตว์น้ำ ฟาร์มไก่และฟาร์มสุกร ทั้งนี้การผลิตดังกล่าวเพื่อรองรับความต้องการในประเทศเป็นหลัก
“ธุรกิจของซีพีเอฟ ในฟิลิปปินส์ที่เข้าไปลงทุนขณะนี้ยังเล็กมากเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการชั้นนำท้องถิ่น อย่างไรก็ตามเรายังเห็นโอกาสตลาดที่กว้างมากและศักยภาพในการพัฒนาตลาด” นายอรรณพ กล่าว
บริษัทวางแผนจะเริ่มก่อสร้างโรงชำแหละ (slaughter house) ในปี 2561เพื่อดำเนินการแปรรูปผลิตภัณฑ์แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิตและคุณภาพของสัตว์ทั้งหมูและไก่ ซึ่งการมีโรงชำแหละจะทำให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพได้ทั้งกระบวนการผลิต (supply chain) ประกอบกับกรมปศุสัตว์ฟิลิปปินส์มีความเข้มงวดในการตรวจสอบและออกใบอนุญาตให้กับโรงชำแหละ
ซีพีเอฟมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีทางการเกษตรและอาหาร ถ่ายทอดสู่เกษตรกรชาวฟิลิปปินส์ เพื่อเพิ่มผลผลิตอาหารโปรตีนคุณภาพสูง พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น พัฒนากระบวนการผลิตอาหารของฟิลิปปินส์ให้เข้าสู่ผู้ผลิตอาหารปลอดภัยและมีความมั่นคงทางอาหารมาโดยตลอดอีกทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศฟิลิปปินส์ ผ่านโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อย
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ประชาชนยังต้องจ่ายเงินซื้ออาหารประเภทเนื้อสัตว์ในราคาสูง เนื่องจากการผลิตในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการและต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งบริษัทเล็งเห็นว่าการลงทุนของบริษัทจะช่วยลดภาระการนำเข้าได้ ด้วยการเพิ่มผลผลิตในประเทศ และจะส่งผลให้ราคาอาหารลดต่ำลง กระทั่งประชาชนจะสามารถเข้าถึงการบริโภคเนื้อสัตว์ได้มากขึ้น
ข่าวเด่น