แฟชั่น-เดินทาง-กินดื่ม-เที่ยว
Metro Manila สะท้อนด้านมืดฟิลิปปินส์ by..คุณนกฮูก


 

 

ที่ผ่านมาภาพยนตร์จากฟิลิปปินส์หรือที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับฟิลิปปินส์   ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเฉิดฉายในเวทีระดับโลกมากนัก แต่สำหรับปีนี้ ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับฟิลิปปินส์หลายเรื่องที่เป็นที่จับตามองของคอหนังทั่วโลก

ไม่ว่าจะเป็น   "Transit"  ภาพยนตร์ฟิลิปปินส์ซึ่งว่าการต่อสู้ของผู้อพยพชาวฟิลิปปินส์ที่ไปทำงานในอิสราเอล   รวมทั้งภาพยนตร์สิงคโปร์เรื่อง "Ilo Ilo" ที่เป็นเรื่องของหญิงชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งที่ไปทำงานเป็นแม่บ้านในสิงคโปร์  

แต่เรื่องหนึ่งที่พูดถึงกันมากพอสมควรคือ "Metro Manila" ซึ่งเป็นภาพยนตร์อังกฤษ แต่ใช้นักแสดงชาวฟิลิปปินส์ทั้งหมดและใช้ภาษาตากาล็อกหรือภาษาฟิลิปปินส์ตลอดทั้งเรื่อง 

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นฝีมือการกำกับและเขียนบทของ "ฌอน เอลลิส" และเรื่องนี้เป็นตัวแทนของบริเทน (อังกฤษ สกอตแลนด์ และ เวลส์) ที่จะลุ้นรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ซึ่งในเดือนมกราคมปีหน้า ทางผู้จัดงานประกาศผลรางวัลออสการ์จะประกาศภาพยนตร์ที่เข้ารอบสุดท้าย ก่อนจะประกาศผลภาพยนตร์ที่ได้รางวัลในวันที่ 2 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่นที่สหรัฐฯ หรือเช้าวันที่ 3 มีนาคมของไทย

 

               
 
 
 
“ ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่อง Metro Manila เป็นเรื่องราวที่งดงามของครอบครัวและให้ความหวังกับผู้ชมครับ “ เอลลิส กล่าว
               
Metro Manila ได้ฉายรอบปฐมทัศน์ในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนช์ เมื่อวันที่ 20 มกราคมและมีกำหนดลงโรงฉายที่ประเทศฟิลิปปินส์ในวันที่ 9 ตุลาคมที่จะถึงนี้  
 
โดยเป็นเรื่องราวของ ออสการ์ รามิเรซ ซึ่งเป็นชาวนาและเป็นอดีตทหาร ( ซึ่งผู้ที่รับบทนี้คือ เจค มาคาปากาล ดาราชื่อดังของฟิลิปปินส์ ) ที่ต้องการแสวงหาชีวิตที่ดีขึ้น จึงเดินทางจากท้องไร่ท้องนามาอยู่ในมะนิลา   ขณะที่ ไม ภรรยาของออสการ์ (รับบทโดย อัลเธีย เวกา) ก็จำต้องเป็นบาร์เกิร์ลเพื่อหาเงินเลี้ยงลูกเล็กๆสองคน ซึ่งในขณะที่อยู่ที่มะนิลา ออสการ์ ทำงานเป็นคนขับรถให้บริษัทรถบรรทุกแห่งหนึ่ง และได้รู้จักกับ ออง (รับบทโดย จอห์น อาร์ซิลลา) ทีเป็นคนที่คอยช่วยเหลือออสการ์มาตลอด ซึ่งการมาของออสการ์ ทำให้อองรู้ว่าเขาต้องการคนที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยและไว้ใจได้อย่าง ออสการ์ ที่จะเดินไปด้วยกัน
               
"เอลลิส" เปิดเผยว่าเรื่องราวของ "Metro Manila"   ได้แรงบันดาลใจจากเมื่อตอนที่เขาไปฟิลิปปินส์ และเห็นภาพของคนงานในบริษัทรถบรรทุกสองคน โต้เถียงกัน ตะโกนใส่กัน คนหนึ่งเตะโกรธจนระบายอารมณ์ด้วยการเตะรถบรรทุก แต่ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็ขึ้นรถไปด้วยกัน คุยกันเหมือนเดิม ซึ่งเมื่อเขาเห็นภาพนี้ทำให้เขาคิดต่อว่าพวกเขาเถียงกันด้วยเรี่องอะไร และเขียนเป็นบทภาพยนตร์ขึ้นมา ซึ่งบทภาพยนตร์นี้เขาเขียนเป็นภาษาอังกฤษ แต่ว่าอนุญาตให้นักแสดงแปลเป็นภาษาตากาล็อก
               
งานนี้ เอลลิส เพิ่มเติมว่าเขารู้สึกแปลกอยู่เหมือนกันที่ต้องมากำกับภาพยนตร์ที่ใช้ภาษาที่เขาไม่เข้าใจ แต่ความรู้สึกแปลกก็อยู่กับเขาได้ไม่นาน เพราะเมื่อนักแสดงได้โชว์ให้เห็นว่าเข้าถึงบทบาทได้ แม้จะไม่รู้ว่านักแสดงพูดอะไร แต่ก็สามารถสื่อได้ชัดว่าตรงกับบทภาพยนตร์ที่เขาเขียน
               
"มาคาปากาล" พูดถึงบทบาทที่เขาได้รับครั้งนี้ว่าท้าทายมาก และไม่แตกต่างจากชีวิตความเป็นจริงของชาวฟิลิปปินส์จริงๆ ซึ่งเขาเองก็เข้าถึงบทของออสการ์ได้ดีเพราะตัวเขาเองไม่ได้มาจากชนชั้นสูงที่มีสิทธิพิเศษอะไร ซึ่งตรงกับบทของออสการ์ที่เป็นคนที่ยากลำบาก 
               
แต่แม้ว่าคนไทยและชาติอื่นๆ (ที่ไม่ใช่ฟิลิปปินส์) จะไม่ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์ฟิลิปปินส์มากนัก แต่ความจริงแล้วเรื่องราวด้านมืดของฟิลิปปินส์ ก็ปรากฏในภาพยนตร์หลายๆเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็กำกับโดยผู้กำกับชาวฟิลิปปินส์เอง   อย่างภาพยนตร์คลาสสิคเรื่อง Manila,in the Claws of Light ของ ลิโน บร็อกกา เมื่อปี 1975 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี และ   Metro Manila  ก็เรียกได้ว่าสะท้อนด้านมืดของฟิลิปปินส์เช่นกัน
               
มาคาปากาล เพิ่มเติมอีกว่า Metro Manila สะท้อนว่าในมะนิลามีอะไรอีกมากมายที่โดยทั่วไปชาวฟิลิปปินส์เองไม่ได้เห็น ไม่ได้สนใจ เพราะผู้คนชาชินกับควงวามยากจน
 
 
 
               
 
 
ขณะที่ "อาร์ซิลลา" ก็เปิดเผยว่าความยากจนที่ปรากฏในภาพยนตร์นั้นสามารถเห็นได้ในสลัมของหลายๆประเทศ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดว่าภาพยนตร์เรื่อง Metro Manila จะเกี่ยวเนื่องกับความยากจนเสียทีเดียว หากแต่เกี่ยวกับการอยู่รอดของมนุษย์ และความเสียสละ   ส่วน เวกา ก็มองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องของการแสวงหาโอกาสและทางเลือกเพื่อความอยู่รอด 
               
"Metro Manila" จะคว้ารางวัลออสการ์ได้หรือไม่ เมื่อถึงเวลาประกาศผลก็จะรู้ ซึ่งหากเรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์ก็มีโอกาสที่คนไทยจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้  
 

LastUpdate 08/10/2556 07:50:22 โดย : Admin
20-04-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2025, 10:12 am