นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) รายงานต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2556 คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.8-4.3% ขณะที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปี  จะอยู่ที่เฉลี่ย 2.3-2.8% และดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลราว 0.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) อย่างไรก็ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปีนี้ยั งมีข้อจำกัดเพิ่มเติม จากผลกระทบอุทกภัย ในขณะที่การแก้ไขเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐก็ยังต้องติดตาามและประเมินสถานการณ์อย่างไกล้ชิด

ทั้งนี้ สภาพัฒน์ยังได้รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยโดยรวมในเดือนสิงหาคม 2556 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า(ก.ค.56)ว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญในเดือนสิงหาคมแสดงถึงภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นทั้งด้านการใช้จ่าย และการผลิต โดยเฉพาะดัชนีการบริโภคภาคเอกชน การส่งออก การผลิตภาคเกษตร การผลิตภาคอุตสาหกรรม และภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น
         
ขณะภาวะเศรษฐกิจไทยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(ส.ค.55) จะพบว่าเครื่องชี้ด้านอุปสงค์ปรับตัวดีขึ้นทั้งด้านการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออก ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังปรับตัวลดลงเนื่องจากฐานที่สูง และการเบิกจ่ายงบประมาณยังปรับตัวลดลง ในด้านการผลิต จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวช้าลง การส่งออกเริ่มขยายตัว
          
อย่างไรก็ดี ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรยังคงปรับตัวลดลงตามการลดลงของผลผลิตข้าวนาปรัง ข้าวโพด และประมง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ภาวะฝนทิ้งช่วง และโรคตายด่วนในกุ้ง