บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จับมือบ.ประกันภัยชั้นนำ 4 ค่ายรุกตลาดค้าปลีกประกันรายย่อย แบบครบวงจร ภายใต้บริการ “Big C Care You” สร้างช่องทางให้ผู้บริโภคเข้าถึงประกันภัยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและคุ้มค่ากว่าใคร เปิดบริการแล้วประมาณ 10 สาขา ตั้งเป้าเปิดครบ 50 สาขาภายในปีนี้ ก่อนขยายครอบคลุมทุกสาขาทั่วไทยกว่า 510 สาขาภายในปี 2557
บริษัทบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท เอซ ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด , บริษัทเอซ ไลฟ์ แอซชัวรันซ์ จำกัด (มหาชน),บริษัทไทยคาร์ดิฟ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และบริษัทโคโรเนท โบรกเกอร์ จำกัด รุกตลาดประกันภัยรายย่อย(Retail Assureance) ที่กำลังเติบโต ภายใต้บริการใหม่เปิดตัว “Big C Care You” ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัยในรูปแบบแปลกใหม่หลากหลาย ถูกแต่คุ้มค่า เป็นการขยายโอกาสการเข้าถึงการประกันคุ้มครองและการออมแก่ประชาชน โดยอาศัยจุดแข็งของบิ๊กซี ที่มีสาขาอยู่มากกว่า 510 สาขาทั่วประเทศและมีผู้มาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 500,000 คนต่อวันมาเสริมการเข้าถึงบริการ โดยตั้งเป้ามีเบี้ยประกันรวม 1,200 บาทภายใน 3 ปี
ดร.สรินทิพย์ สถิตเสถียร รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เปิดเผยว่า เดิมบิ๊กซีมีบริการหลายอย่างอยู่แล้วให้กับลูกค้า จึงอยากจะหาอย่างอื่นเพิ่มเติมให้กับลูกค้า จึงได้มาทำด้านนี้ ทุกผลิตภัณฑ์เน้นตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก มีการดีไซน์ให้เหมาะกับลูกค้าที่มาจับจ่ายซื้อของ เพราะในปัจจุบันแม้ว่า ตลาดค้าปลีกประกันภัยรายย่อยจะเติบโตอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ตระหนักรู้และให้ความสำคัญกับการมีประกันคุ้มครองและการออมเพื่ออนาคตมากขึ้น ธุรกิจประกันได้เติบโตอย่างรวดเร็วและมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคตลอด แต่สัดส่วนการถือครองกรมธรรม์ของคนไทยยังน้อยมาก คือ มีเพียงประมาณ 30% จากประชากรทั้งประเทศ
นอกจากนี้ยังพบว่า มีความนิยมเพิ่มขึ้นในการทำประกันชีวิตและประกันภัยเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกันภัยรถยนต์ ดังนั้น ธุรกิจประกันจึงน่าจะมีโอกาสจะเติบโตได้อีกมาก บิ๊กซีจึงนำจุดแข็งที่มีอยู่มาใช้บริการประชาชนให้เข้าถึงบริการประกันภัยที่ง่าย คุ้มค่า ทั่วถึง รวดเร็ว เพื่อสนับสนุนนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่เข้าถึงบริการประกันภัยได้สะดวกยิ่งขึ้น
สำหรับจุดเด่นของบริการประกันภัย “Big C Care You” คือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรค์มาอย่างดี ทั้งในด้านความคุ้มค่าด้านราคา ด้วยเบี้ยประกันราคาประหยัด ความคุ้มครองสูง เงื่อนไขกรมธรรม์ที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ที่มากับบริการประกันภัยที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อวิเคราะห์ความต้องการในแต่ละช่วงอายุและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละคน เพื่อนำมาจัดแผนประกันที่เหมาะสมกับความต้องการด้วย โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยหลักทั้ง 4 ราย ซึ่งแต่ละบริษัทนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีจุดเด่นแตกต่างกันไป แต่จุดที่เหมือนกันคือ ความคุ้มค่าและบริการหลังกรขายที่มีประสิทธิภาพและสะดวกรวดเร็ว
ตัวอย่างประกันภัยเด่น ๆ อาทิ ประกันภัยโทรศัพท์มือถือ (Big C Mobile Insure) แผนคุ้มครองอุบัติเหตุครอบครัวและแผนคุ้มครองอุบัติเหตุผู้สูงอายุ จากบริษัท เอซ ไอเอ็นเอฯ ซึ่งมีความพิเศษตรงบริการ ACE Smart ที่สามารถขอใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินได้ยามรถเสีย น้ำมันหมด ประปาหรือไฟฟ้าที่บ้านขัดข้อง หรือมีสัตว์ร้ายเข้าบ้าน การคุ้มครองอุบัติเหตุจากบริษัทไทยคาร์ดิฟฯที่มีค่าเบี้ยประกันไม่เกินวันละ 5 บาท ที่คุ้มครองชีวิตสูงสุดถึง 200,000 บาทและมีค่าชดเชยรายได้หรือค่ารักษาพยาบาล 4,000 บาทที่สามารถเลือกรับเป็นบัตรกำนัลจากบิ๊กซีที่เพิ่มมูลค่าให้อีก 10% เป็น 4,400 บาท ด้านบริษัทโคโรเนทฯมีจุดเด่นด้านประกันวินาศภัย ซึ่งประชาชนจะได้ประโยชน์จากการที่บริษัทประกันแห่งนี้มีพันธมิตรสูงสุดถึง 30 บริษัทด้วยกัน
เวลานี้บิ๊กซีได้เปิดเคาเตอร์บริการบ้างแล้วประมาณ 10 สาขา รวมถึง สาขาพระราม 2 ,พระราม 4 ,อ่อนนุช,บางใหญ่ ,ติวานนท์ , โคราช, อุบลราชธานี, อุดรธานีและศรีษะเกษ คาดว่าจะขยายเป็น 50 สาขาภายในปี 2556 นี้และในเดือนพฤษภาคมปี 2557จะขยายไปทุกสาขาทั่วประเทศ
นางสาววราวรรณ เวชชสัสถ์ รองเลขาธิการคปภ.เปิดเผยว่า โครงการนี้น่าจะเป็นโครงการที่ดีเยี่ยมสำหรับปี 2556 เพราะสร้างรากฐานให้คนไทยช่วยเหลือครอบครัว มองเห็นโอกาสของธุรกิจประกันภัยที่จะเติบโตได้ต่อไป เนื่องจากสาขาที่มีอยู่มากของบิ๊กซีจะช่วยขยายการเข้าถึงของประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดและจะทำให้มีการทำกรมธรรม์ที่มีราคาถูกลง
ทั้งนี้รองเลขาธิการคปภ. กล่าวอีกว่า ตลาดประกันภัยรายย่อยยังเติบโตได้อีกจากปัจจุบันประกันชีวิตมีอยู่ประมาณ 37% ประกันวินาศภัย ที่รวมถึงประกันรถยนต์มีมากกว่า 70% ในปี 2555 ที่ผ่านมาตลาดประกันโดยรวมโตขึ้นมาก ผลจากน้ำท่วมในปี 2554 ที่ทำให้ประชาชนเริ่มตระหนักถึงความคุ้มครอง การสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต โดยประกันวินาศภัยโต 27% ประกันชีวิต 18%
สำหรับในปีนี้คาดว่าประกันชีวิตจะเติบโตใกล้เคียงปีที่แล้วคือที่ประมาณ 18% ส่วนประกันวินาศภัยจะลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 20-22% สำหรับตลาดที่มองว่า จะยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง มีทั้งประกันชีวิต ประกันรถยนต์และประกันวินาศภัยที่เป็นส่วนของภาครัฐ ที่เรียกว่า ประกันภัยเบ็ดเตล็ด เช่น ประกันภัยข้าว ประกันภัยโกดังข้าว เป็นต้น
ข่าวเด่น