โจเซฟ กอร์ดอน เลวิตต์ ลงมือเขียนบท กำกับ และเป็นนักแสดงนำเอง ภาพยนตร์เรื่อง Don Jon เรื่องราวเกี่ยวกับ จอน มาเตลโล ชายหนุ่มที่ดูดีไปทุกกระเบียดนิ้ว ควงสาวสวยไม่ซ้ำหน้าที่ได้มาพบกับสาวสวยหัวโบราณ ที่มีความต่างกันสุดขั้ว

ภาพยนตร์เรื่อง Don Jon เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ จอน มาเตลโล ชายหนุ่มที่ดูดีไปทุกกระเบียดนิ้ว เขามีหน้าตาอันหล่อเหลา และรูปร่างสูงใหญ่มัดใจสาว ๆ ซึ่งเพื่อนของเขาตั้งฉายาให้ว่า ดอน ฮวน ตามชื่อของนักรักชื่อก้องโลกที่หลายคนรู้จักกันดี จากการที่เขาควงสาวสวยไม่ซ้ำหน้าอยู่เสมอ แต่ที่จริงแล้วความสุขของจอนกลับมาจากการแอบดูหนังโป๊เงียบ ๆ คนเดียว ยิ่งกว่าการได้อยู่กับสาวสวยเสียอีก ส่วน บาร์บาร่า ชูการ์แมน เป็นสาวสวยหัวโบราณที่รักการดูหนังรักหวานแหววเป็นที่สุด ความฝันอันสูงสุดของเธอคือ การได้เจอเจ้าชายขี่ม้าขาวมาเป็นคู่ชีวิตของเธอ
จากความต่างกันสุดขั้วนี้เอง ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของ จอนและบาร์บาร่า กลายเป็นสิ่งท้าทาย จนต้องค่อย ๆ พิสูจน์รักแท้ไปด้วยกัน

เรื่องนี้ได้ โจเซฟ กอร์ดอน เลวิตต์ (Joseph Gordon-Levitt) ทั้งลงมือเขียนบท กำกับ และเป็นนักแสดงนำ ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ เขาได้ให้สัมภาษณ์ถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้
- อะไรเป็นสิ่งผลักดันให้คุณเขียนเรื่อง Don Jon นี้ขึ้นมา
ผมอยากจะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการที่คนมองเห็นคนอื่นเป็นวัตถุ ผมก็เลยเริ่มนึกถึงพวกเสือผู้หญิงทั้งหลาย ซึ่งไม่นานนักผมก็เจอกับเรื่องของดอนฮวน ตัวละครที่โด่งดัง เรื่องราวคลาสสิกของดอนฮวนมักจะเป็นโศกนาฏกรรมที่ตัวเอกไม่เคยเรียนรู้อะไรเลยและท้ายที่สุด ชีวิตเขาก็ต้องพังทลายเพราะสันดานของเขา แต่ผมชอบเรื่องราวทีมีสมดุลระหว่างความมืดและแสงสว่างและผมก็อยากให้หนังเรื่องนี้มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ผมอยากให้มันมีความหวัง ผมก็เลยตัดสินใจทำให้มันออกมาเป็นคอเมดีมากกว่า แน่นอนว่ามันเป็นคอเมดีตลกร้าย และก็ใช่ที่ว่าตัวละครของผมเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างน่ารังเกียจในตอนแรกที่เราพบเขา แต่ในตอนท้ายเรื่อง ผมคิดว่าผู้ชมจะรู้สึกถึงการเริ่มต้นกลับตัวกลับใจของจอนครับ
ท้ายที่สุดแล้ว DON JON ก็ไม่เพียงแต่เป็นหนังเกี่ยวกับการที่คนเรามองคนอื่นเป็นวัตถุเท่านั้น แต่มันยังเป็นเรื่องของการที่เราสร้างสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างไรด้วย
- กระบวนการเขียนงานของคุณเป็นอย่างไรบ้าง
ผมคิดว่าผมมีไอเดียเริ่มต้นของเรื่องราวนี้ตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อน ไอเดียต่างๆ วนเวียนอยู่ในหัวผมมาหลายปีแล้ว ผมจะทำการระดมสมองและเขียนข้อสังเกตเอาไว้ แต่เป็นในแวนคูเวอร์ระหว่างที่ผมกำลังถ่ายทำเรื่อง 50/50 ที่ผมเริ่มปิ๊งไอเดียเกี่ยวกับการใช้โทนคอเมดีและเริ่มนึกภาพจอนว่าเป็นชายอีสต์โคสต์ ที่มีกล้ามมัดใหญ่ และผมเขาใส่เจลจนเยิ้มน่ะครับ ประมาณหกเดือนให้หลัง ระหว่างที่ผมกำลังทำงานให้กับเดฟ โคเอปป์ มือเขียนบทผู้ชาญฉลาดในPREMIUM RUSH ผมก็เริ่มเขียนมันให้อยู่ในรูปแบบของบทหนัง ผมไม่เคยทำเหมือนกับว่ามันเป็นงาน แต่มันเป็นความชื่นชอบที่ผมทำในตอนที่ผมมีเวลาว่าง มันใช้เวลาประมาณหนึ่งปีครับ ผมอยู่ในลอนดอนเพื่อถ่ายทำ THE DARK KNIGHT RISES ในตอนที่ผมเขียนดราฟท์แรกเสร็จ
- ความท้าทายในการแสดงบทนี้มีมากน้อยเพียงใด
หลังจากที่ได้เขียนบทนี้แล้ว ผมก็มีเวลาในการเตรียมตัวสำหรับบทนี้มากกว่าที่ผมเคยผ่านมาก่อน ดังนั้น พอถึงเวลาถ่ายทำ การแสดงก็กลายเป็นเรื่องค่อนข้างง่ายครับ ผมคิดว่าความท้าทายที่แปลกประหลาดที่สุดสำหรับตัวละครตัวนี้คือความท้าทายเชิงกายภาพ เพราะจอนเป็นคนหลงตัวเองที่ภาคภูมิใจกับกล้ามของเขา โดยส่วนตัวแล้ว ผมชื่นชอบการออกกำลังกายในทุกครั้งที่ทำได้ แต่ผมไม่ค่อยชื่นชอบการยกเหล็กซักเท่าไหร่ หกเดือนก่อนการถ่ายทำ ผมไปฟิตเนสสัปดาห์ละห้าวัน กินไก่จำนวนมหาศาล แล้วเพิ่มกล้ามเนื้อให้ตัวเองอีกสิบสองปอนด์ บางครั้ง คนก็ถามผมว่าผมจะทำแบบเดิมไหมหลังจากที่ถ่ายทำเสร็จแล้ว...แน่นอนว่าไม่ครับ

- สการ์เล็ตต์ โยฮันสันเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร
ตลอดเวลาที่ผมเขียนถึงตัวละคร บาร์บารา ซูการ์แมน ผมนึกถึงสการ์เล็ตต์ในบทนี้เสมอ ผมไม่เคยนึกถึงคนอื่นเลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแสดงตลก “แชนดีเลียร์ส” ที่น่าขบขันของเธอในรายการ SNL และส่วนหนึ่งก็เพราะผมชื่นชมการแสดงของเธอในหนังหลายๆ เรื่องเช่น LOST IN TRANSLATION, VICKY CHRISTINA BARCELONA หรือแม้กระทั่ง THE MAN WHO WASN’T THERE ตอนนั้น เราไม่รู้จักกันเลย แต่ผมอยากจะคุยกับเธอถึงบทหนังเรื่องนี้ก่อนที่เธอจะได้อ่านมัน ผมก็เลยบินไปที่อัลบูเคอร์คีที่เธอกำลังถ่ายทำ THE AVENGERS อยู่ เราคุยกันนานเกี่ยวกับผู้ชาย ผู้หญิง ความรัก ความใคร่ ความเชื่อมโยง และการมองคนอื่นเป็นวัตถุ หนังโป๊ และหนังรักฮอลลีวูด ครอบครัว ศาสนา ภาพลักษณ์ทางกาย ทุกเรื่องเลยครับ ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้อ่านบท และโชคดีที่เธอชอบมัน ผมไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงดีถ้าเธอไม่ชอบมันน่ะครับ
ข่าวเด่น