กรุงศรีกรุ๊ป (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2556 โดยมีกำไรสุทธิ 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.5% จากไตรมาส 2 ของปีนี้และ 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2555 โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ กรุงศรีกรุ๊ปมีกำไรสุทธิ 11 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555
ในส่วนเงินให้สินเชื่อรวมยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ สินเชื่อเติบโตเพิ่มขึ้น 7.1% โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการสินเชื่อของลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจ คิดเป็นยอดเงินให้สินเชื่อใหม่จำนวน 59.2 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 ขณะที่สินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น 12% สินเชื่อเอสเอ็มอีและลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 3.6% และ 1.3% ตามลำดับ ทั้งนี้ กรุงศรีมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.6%
เงินฝากเพิ่มขึ้น 7.2% คิดเป็นจำนวน 49.3 พันล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2555 สะท้อนความต้องการของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ของธนาคาร “กรุงศรีมีแต่ได้” และ “ออมทรัพย์จัดให้” รวมทั้งความสำเร็จของธนาคารในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “เงินฝากประจำ Step up 9 เดือน” ที่นำเสนอเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2556 และ “เงินฝากประจำ 15 เดือน” ที่นำเสนอเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของกรุงศรีกรุ๊ปยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 4.32% ในไตรมาส 3 นี้
นางเจนิส แวน เอ็กเคอเรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรุงศรีกรุ๊ป กล่าวว่า “การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อในไตรมาส 3 ที่ 2.9% นี้เป็นไปตามคาด เมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและอัตราเติบโตสินเชื่อเฉลี่ยที่ 2.1% ต่อไตรมาสในช่วงสองไตรมาสแรกของปีนี้”
“กรุงศรีมีมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่าเริ่มทรงตัวและจะปรับดีขึ้นในปี 2557 ทั้งนี้ด้วยปัจจัยทางด้านฤดูกาลที่สนับสนุนการขยายตัวของสินเชื่อและความชื่นชอบที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจที่มีต่อแบรนด์กรุงศรี เราจึงคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 12% สำหรับปีนี้” นางเจนิสกล่าว
ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 ธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีสินเชื่อรวม 889.2 พันล้านบาทและสินทรัพย์รวม 1.1 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารยังคงระดับแข็งแกร่งอยู่ที่ 132.8 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 16.9% ของสินทรัพย์เสี่ยงโดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 คิดเป็น 12%
สรุปสาระสำคัญของผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) สำหรับไตรมาส 3 ปี 2556
• การเติบโตของสินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 7.1% คิดเป็นจำนวน 59.2 พันล้านบาทเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2555 หรือเพิ่มขึ้น 2.9% คิดเป็นจำนวน 24.9 พันล้านบาท จากสิ้นเดือนมิถุนายน 2556
• กำไรสุทธิ: อยู่ที่จำนวน 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.5% จากไตรมาส 2 ปี 2556 หรือเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2555
• ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ระดับ 4.32% ในไตรมาส 3 ปีนี้
• สินเชื่อด้อยคุณภาพ: อยู่ที่ 2.6% ของสินเชื่อรวม
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 48.4% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวดีขึ้นจาก 49.6% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555
• สัดส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ: อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 142.9%
• รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ: เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2555 หรือลดลง 1.3% จากไตรมาส 2 ปีนี้
• การเติบโตของเงินฝาก: เพิ่มขึ้น 7.2% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 49.3 พันล้านบาทจาก ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 และเพิ่มขึ้น 0.6% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 4.7 พันล้านบาทจากไตรมาส 2 ของปีนี้
• อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ 16.9% ในภาวะที่สินเชื่อขยายตัว 2.9% ในไตรมาส 3 ปี 2556
ข่าวเด่น