แบงก์-นอนแบงก์
ไทยพาณิชย์โชว์ 9 เดือน กำไรสุทธิรวม 38,500 ล้านบ. โต 28.6%


 

 

ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3/2556 จำนวน 12,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบการที่เติบโตในระดับสูงนี้ มาจากการขยายตัวของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้สุทธิจากเบี้ยประกัน รายได้จากเงินปันผลรับที่เพิ่มขึ้น กำไรจากการปริวรรตและค้าเงินตราต่างประเทศ และด้วยหลักการดำเนินงานด้วยความระมัดระวัง ธนาคารได้มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต ในขณะที่คุณภาพของสินเชื่อโดยรวมของธนาคารยังทรงตัวอยู่ในระดับดี

กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 (ไม่รวมสำรองการด้อยค่าและหนี้สงสัยจะสูญ ภาษีเงินได้ และส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม) เพิ่มขึ้น 30% เป็น 19,800 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการขยายตัวสูงของรายได้จากดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย

ผลประกอบงวด 9 เดือนแรก (ณ สิ้นกันยายน 2556) ธนาคารมีกำไรสุทธิรวม 38,500 ล้านบาท เติบโต 28.6% จากช่วงเดียวกันของปี 2555

 

นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2556 ว่า สภาวะการณ์ของเศรษฐกิจโลกถือเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อการดำเนินงานของตลาดการเงินมาอย่างต่อเนื่อง ธนาคารเองได้เผชิญกับความท้าทายนี้เช่นเดียวกับภาคธุรกิจการเงินไทยอื่นๆ ซึ่งธนาคารสามารถบริหาร งานต่างๆ ลุล่วงไปได้ด้วยดี มีกำไรสุทธิในระดับสูง มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถรักษาคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับดี มีอัตราสำรองหนี้สงสัยจะสูญและเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจรออยู่ข้างหน้า ณ จุดนี้ ถือได้ว่า ธนาคารมีความพร้อมอย่างดีที่สุดในรอบ 108 ปีของการดำเนินการ ซึ่งความแข็งแกร่งและความสามารถในการปรับเปลี่ยน เป็นจุดแข็งที่โดดเด่นและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาด

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เพิ่มขึ้น 16.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากสินเชื่อขยายตัว 12.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้นของสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ(SME) และสินเชื่อลูกค้าบุคคล

รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 34.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของเงินปันผลพิเศษจากการลงทุนในหลักทรัพย์ การเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้จากค่าธรรมเนียม และเบี้ยประกัน รวมทั้งรายได้จากธุรกรรมเพื่อการค้าและการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ

จากผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งดังกล่าว ธนาคาร จึงได้ตั้งสำรองเพิ่มเติมจำนวน 1,500 ล้านบาท เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต ส่งผลให้มูลค่าสำรองเพิ่มเติมสะสม เพิ่มขึ้นเป็น 4,200 ล้านบาท ในขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพปรับลดลงจาก 2.13% ณ สิ้นปี 2555 มาอยู่ 2.08% ณ สิ้นเดือนกันยายนปีนี้ ทำให้อัตราสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารเพิ่มขึ้นจาก 144.8% ณ สิ้นปี 2555 เป็น 151.5 % ณ สิ้นเดือนกันยายนปีนี้

 

 

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา ธนาคารมีกำไรสุทธิสูงสุดในกลุ่มธุรกิจธนาคารในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนถึงจุดแข็ง และความยั่งยืนของรูปแบบการดำเนินธุรกิจของธนาคารได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ จุดที่สำคัญที่สุดคือ ความผูกพันของลูกค้าที่แน่นแฟ้น คุณภาพและความเชี่ยวชาญในธุรกิจ รวมทั้งความรักและเชื่อมั่นในองค์กรของพนักงาน นับเป็นปัจจัยหลักที่ส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันของธนาคารทั้งในปัจจุบันและอนาคต

 

 


LastUpdate 18/10/2556 19:46:19 โดย : Admin
22-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 22, 2024, 10:07 am