ธนาคารกรุงไทยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2556 มีกำไรสุทธิ 8,912 ล้านบาท มีเงินกองทุนรวมเท่ากับ 278,600 ล้านบาท ทำให้มีความแข็งแกร่งและสามารถขยายธุรกิจได้ตามแผน คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัว ดีขึ้น NPLs Ratio(net) ลดลงเหลือร้อยละ 1.62
นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยผลประกอบธนาคารในไตรมาส 3/2556 เปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2555 ว่า ธนาคารมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจหลักของธนาคารโดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 16,368 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.23 มีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 3,911 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.12
และกำไรจากการดำเนินงานก่อนกันสำรองและภาษีเงินได้จำนวน 14,194 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.73
การเติบโตที่ดีของกำไรจากการดำเนินงานดังกล่าวทำให้ธนาคารพิจารณากันสำรองเพิ่มอีก 1,700 ล้านบาทเพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินสำรองของธนาคารและรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยในไตรมาส 3
ธนาคารมีกำไรสุทธิ 8,912 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.37
สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนธนาคารมีกำไรสุทธิรวม 23,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.56 จากช่วงเดียวกันของปี 2555 และจากการที่ธนาคารพิจารณาการกันสำรองเพิ่มเติมจึงส่งผลให้มูลค่าสำรองเพิ่มเติมสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 4,200 ล้านบาท นอกเหนือจากสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญตามปกติจำนวน 500 ล้านบาทต่อเดือน
ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ 1,680,572 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2555 จำนวน 150,475 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.83และมียอดเงินฝาก 1,778,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111,107 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 6.67 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) จำนวน 59,211 ล้านบาท โดย NPLs Ratio (net) ลดลงจากร้อยละ 1.76 เหลือร้อยละ 1.62
นายวรภัค กล่าวต่อไปธนาคารยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารในระดับเดิมได้พร้อมทั้งได้พิจารณากันสำรองเพิ่มเติม
ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ(Coverage ratio) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 92.73 ณ สิ้นปี 2555 เป็นร้อยละ 108.29 ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 ในส่วนของเงินกองทุนรวมเท่ากับ 278,600 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 15.40 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยงตามหลักเกณฑ์ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่าเงินกองทุนในระดับนี้ ทำให้ธนาคารมีความแข็งแกร่งและสามารถขยายธุรกิจได้ตามแผน
ข่าวเด่น