กรุงเทพประกันชีวิตลุ้นเหนื่อย หวั่นแรงซื้อปลายปีแผ่ว เหตุหนี้ครัวเรือนถ่วงกำลังซื้อ เชื่อไม่หวือหวาเหมือนคาดแต่ประคองโตได้ตามแผน หลังปิด 9 เดือน เบี้ยปีแรกพุ่ง 33% แบงก์แอสชัวรันซ์ฮีโร่โกยเบี้ยกระหน่ำ

นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ที่จะเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจประกันชีวิตนั้น น่าจะยังเติบโตได้พอสมควร แต่คงไม่คึกคักมากนัก โดยยอมรับว่าปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นมากในเวลานี้น่าจะส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคพอสมควร เห็นได้จากปริมาณการใช้จ่ายในตอนนี้ที่เริ่มชะลอตัวลงบ้าง

"มองว่าตลาดยังคงเติบโตได้ ตามที่สมาคมประกันชีวิตไทยคาดการเติบโตของเบี้ยรับรวมปีนี้ที่ประมาณ 17% ก็เชื่อว่าน่าจะยังเป็นไปได้ เพียงแต่ไม่ได้หวือหวาเหมือนเช่นท้ายปีแบบในปีที่ผ่านๆ มา"

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเติบโตของกรุงเทพประกันชีวิต เขายังเชื่อว่า จะเป็นไปได้ตามเป้าหมายการเติบโตของปีนี้ที่ตั้งไว้ หลังจากผลงานช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ สามารถเติบโตได้ค่อนข้างดี โดยมีเบี้ยปีแรกราว 8,700 ล้านบาท เติบโต 33% และเบี้ยรับรวม 13,100 ล้านบาท เติบโต 15% 

ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยใหม่ 12,340 ล้านบาท เติบโต 35% เบี้ยรับรวม 40,750 ล้านบาท เติบโต 18%

การเติบโตที่ค่อนข้างมากในช่วงดังกล่าวนั้น ส่วนใหญ่ยังคงมาจากช่องทางการขายผ่านแบงก์แอสชัวรันซ์ที่ทำตลาดร่วมกับธนาคารกรุงเทพ โดยช่วง 9 เดือนแรกช่องทางนี้สามารถสร้างเบี้ยใหม่ได้ถึง 7,400 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 85% จากเบี้ยปีแรกที่สร้างได้จากทุกช่องทาง

เขาอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของบริษัทที่ต้องการเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มครอบครัว ซึ่งจะมีความต้องการประกันชีวิตทั้งในลักษณะความคุ้มครองชีวิตและการออมเงิน โดยช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทก็ได้ออกสินค้าใหม่ 2 แบบมาทำตลาดเพิ่มขึ้น คือ "บัวหลวงห่วงครอบครัว" เป็นประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ที่คุ้มครองทั้งชีีวิตและโรคร้ายแรง และ "บัวหลวงห่วงลูกหลาน" แบบประกันชีวิตออมทรัพย์ระยะยาว เพื่อการศึกษาของลูกหลาน ซึ่งได้ผลตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี ได้เบี้ยมาแล้วประมาณ 100 ล้านบาท

"การเติบโตกับตลาดแบงก์แอสชัวรันซ์เราให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของบริษัท เราจะมีหน้าเอกสารที่ชี้แจงลูกค้าอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่นำเสนอเป็นแบบประกันชีวิต ให้ลูกค้าอ่านทำความเข้าใจก่อนลงนามรับรอง นอกจากนั้น หลังจากซื้อไปแล้วรู้สึกว่าไม่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ ก็สามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 15 วันหลังจากได้รับกรมธรรม์ ฉะนั้น เราค่อนข้างชัดเจนในการขาย และไม่เอาเรื่องความสัมพันธ์ของแบงก์ที่มีกับลูกค้ามายาวนานมาทำให้เสีียหายอย่างเด็ดขาด" นายโชนกล่าว