ออกมาเปิดแผนขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศเป็นระยะๆ สำหรับบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ซีอาร์ซี ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ล่าสุดเดือน ต.ค.นี้ ออกมาเปิดตัวโปรเจ็คต์ยักษ์ถึง 2 โครงการติดต่อกันภายในสัปดาห์เดียว ทุ่มงบมากถึง 20,000 ล้านบาท เปิดเกมรุกขยายอาณาจักรค้าปลีกในจังหวัดภูเก็ต พร้อมลงทุนธุรกิจค้าปลีกในประเทศเวียดนาม
โครงการแรก คือ โครงการมิกซ์ ยูส คอมเพล็กซ์ ใน 3 พื้นที่ไพรม์ โลเคชั่น กว่า 200 ไร่ ของจังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้าง 3 ศูนย์การค้า, 3 โรงแรม, คอนเวนชั่นฮอลล์, คอนโดมิเนี่ยม, อาคารสำนักงาน ร้านค้าสเปเชียลตี้สโตร์ และศูนย์พักผ่อนและความบันเทิง ให้ทั่วทุกพื้นที่บนเกาะภูเก็ต
ขณะที่โครงการที่ 2 ซึ่งออกมาเปิดเผยข้อมูลในวันต่อมา คือ การเข้าไปลงทุนธุรกิจค้าปลีกในประเทศเวียดนาม ด้วยการส่ง ซีอาร์ซี สปอร์ต รุกตลาดอุปกรณ์กีฬาในเวียดนาม ผ่านแบรนด์ ซูเปอร์สปอร์ต และการเป็นตัวแทนจำหน่ายแฟชั่นสปอร์ตแบรนด์ชั้นนำอย่าง คร็อคส์, นิวบาลานซ์, ฟิล่า, อัมโบร, และ แบรนด์ไทยชั้นนำ เอฟบีที และ ดีแอนด์พี
ในด้านของการลงทุนในจังหวัดภูเก็ต หลังจากชิมลางด้วยการเข้ามาลงทุนห้างค้าปลีก เมื่อปี 2538 ด้วยการเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าโรบินสัน โอเชี่ยน ภูเก็ต ห้างใจกลางเมืองแห่งแรกจนเป็นที่รู้จัก ต่อมาปี 2547 ได้เริ่มพัฒนาและเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัลภูเก็ต ศูนย์การค้าที่ใหญ่และทันสมัยที่สุด บนพื้นที่กว่า 1.2 แสนตร.ม. เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสเม็ดเงินหมุนเวียนในภาคธุรกิจกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี
จากความสำเร็จในธุรกิจค้าปลีกที่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต ส่งผลให้ 2 ปีต่อมา เซ็นทรัล ตัดสินใจเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จังซีลอน และขยายเซ็นทรัล เฟสติวัลภูเก็ตอีสท์ เฟส 2 ในปี 2551 และปี 2555 ได้ทุ่มงบอีก 200 ล้านบาท เปิดโฮมเวิร์คและเพาเวอร์บายภูเก็ต การลงทุนเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต เฟส 3 ด้วยงบกว่า 10,000 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนที่มากที่สุดของกลุ่มเซ็นทรัลในภูเก็ตเลยทีเดียว
ล่าสุดในปี 2556 เซ็นทรัล ได้ออกมาประกาศทุ่มงบมากถึง 20,000 ล้านบาท เปิดเกมรุกขยายอนาจักรค้าปลีกในจังหวัดภูเก็ต เพื่อผลักดันให้เป็นเมืองท่องเที่ยวสุดหรูระดับไฮเอนที่ดึงนักท่องเที่ยวระดับโลกเข้ามาใช้บริการ ด้วยการชูกลยุทธ์ชิงทำเลทองจังหวัดภูเก็ตทุกโซน เพื่อขยายธุรกิจครอบคลุมทุกเซกเม้นต์
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือซีอาร์ซี กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลจะเพิ่มเงินลงทุน ใน 3 พื้นที่ไพรม์ โลเคชั่น กว่า 200 ไร่ ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้าง 3 ศูนย์การค้า, 3 โรงแรม, คอนเวนชั่นฮอลล์, คอนโดมิเนี่ยม, อาคารสำนักงาน ร้านค้าสเปเชียลตี้สโตร์ และศูนย์พักผ่อนและความบันเทิง ให้ครอบคลุมพื้นที่บนเกาะภูเก็ต รวมพื้นที่โครงการกว่า 630,000 ตารางเมตร ด้วยการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนประกอบด้วย
1.โซนทางเหนือ ซึ่งใกล้กับสนามบิน เป็นเกตเวย์ที่เชื่อมต่อไปยังเส้นทางสายหลักมุ่งสู่ทุกจุดหมายของภูเก็ต และต่อเนื่องไปถึงบริเวณเขาหลัก จะเนรมิตให้มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบทันสมัยที่สุด 2.โซนตะวันตก จะเป็นมีวิลล่ามูลค่า 1-3 ล้านเหรียญสหรัฐ จำนวนมากที่สุดของภูเก็ต จะสร้างเป็นรีสอร์ททาวน์ขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งจะมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันในศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต
3. โซนใจกลางจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ตั้งของ เซ็นทรัล เฟสติวัลภูเก็ต เฟส 1 และ เฟส 2 นำโดย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และร้านค้าสินค้าแฟชั่นทั้งแบรนด์ของไทยและต่างประเทศที่ทันสมัย และพร้อมจะขยาย เซ็นทรัล เฟสติวัลภูเก็ต เฟส 3 ให้เป็นลักชัวรี่มอลล์ระดับโลกที่ครบครันที่สุดในภาคใต้ ที่โดดเด่นด้วย โรงแรมสไตล์บูติคหรูหรา, คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุด, ร้านอาหารนานาชาติชั้นเลิศ รวมถึงโรงภาพยนตร์ที่มีจอฉายขนาดใหญ่ที่สุดและดีที่สุดในภาคใต้
นายทศ กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง ในการเข้าไปลงทุนในระยะยาว บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล ได้ตัดสินใจลงทุน ด้วยความตั้งใจ ที่จะพลิกโฉมจังหวัดภูเก็ต ให้เป็นจุดหมายในฝันระดับโลก ที่ทุกคนต้องมาเยือนและกล่าวขวัญถึง โดยจะเข้ามาช่วยเติมเต็มธุรกิจทุกเซกเม้นต์ พร้อมกับสร้างประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ไฮเอนแบบใหม่ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งโรงแรมหรูหรา, ศูนย์การค้าลักชัวรี่ที่ทันสมัย, อาคารสำนักงาน, แหล่งบันเทิงระดับเวิลด์คลาส, ร้านอาหารชั้นนำ, และสถานที่ Hang-out ยามค่ำคืน
หลังจากใช้งบก้อนโตลงทุนถึง 20,000 ล้านบาท ซีอาร์ซีคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเสร็จทั้งหมดภายใน 5-7 ปี ซึ่งถือเป็นการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูงมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต
ปัจจุบันบริษัทในกลุ่มเซ็นทรัลได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตหลายธุรกิจ ประกอบด้วย ห้าง สรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาภูเก็ต, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 2 สาขา คือสาขาภูเก็ตและสาขาจังซีลอน, รวมถึงร้านโฮมเวิร์ค, เพาเวอร์บาย, ซูเปอร์สปอร์ต, บีทูเอส, และ ท็อปส์
ส่วนด้านธุรกิจโรงแรม กลุ่มเซ็นทารา ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีโรงแรม 7 แห่งในจังหวัดภูเก็ตภายใต้ชื่อ เซ็นทารา แกรนด์, เซ็นทารา วิลล่า, เซ็นทารา และ เซอร์วิส อพาร์ทเม้น วอร์เตอร์ฟร้อนท์ สวีท ภูเก็ต บาย เซ็นทารา และวางแผนจะเปิดเพิ่มอีก 3 แห่ง ภายใน 5-7 ปี เพื่อสนองตอบต่อทุกความต้องการอย่างสมบูรณ์แบบแก่นักท่องเที่ยว ทั้งในปัจจุบันและที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ขณะที่ธุรกิจในประเทศกำลังขยับก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของธุรกิจต่างประเทศก็ก้าวเดินไปพร้อมด้วย ซึ่งประเทศเวียดนามถือเป็นประเทศล่าสุดที่ได้เข้าไปทำธุรกิจค้าปลีก โดยการก่อตั้ง บริษัท ซีอาร์ซี สปอร์ต เวียดนาม ขึ้น เพื่อบุกตลาดค้าปลีกประเภทอุปกรณ์กีฬาจำนวน 2 ประเภท คือ ค้าปลีก ภายใต้แบรนด์ ซูเปอร์สปอร์ต และผู้จัดจำหน่ายสินค้าภายดังแต่เพียงผู้เดียวให้กับแบรนด์ คร็อคส์ , นิวบาลานซ์ , ฟิล่า , อัมโบร , และ แบรนด์ ชั้นนำจากประเทศไทยอย่าง เอฟบีที และ ดีแอนด์พี
สำหรับการขยายสาขาในปี 2556 นี้ ซีอาร์ซี มีแผนที่จะเปิดร้านกีฬาทั้งหมด 11 สาขา ภายใต้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านซูเปอร์สปอร์ต 6 สาขา ร้าน คร็อคส์ 4 สาขา และ ร้านนิวบาลานซ์ 1 สาขา ขณะที่ปี 2557 มีแผนที่จะใช้งบอีกกว่า 100 ล้านบาท ในการทำการตลาดและเปิดสาขาใหม่อีก 12 สาขา แบ่งเป็นร้านซูเปอร์สปอร์ต 5 สาขา ร้านคริคส์ 5 สาขา และร้านนิวบาลานซ์ 2 สาขา
ในส่วนของแผนการทำตลาด ซีอาร์ซี มีแผนที่จะทำกิจกรรมการตลาดและการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมถึงการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย ตามเทศกาลสำคัญต่างๆ เป็น Seasonal Campaign และมีการใช้สื่อ Social Media เพื่อสร้างสีสรรทางการสื่อสารให้กับกลุ่มลูกค้าตลอดทั้งปีผ่านเว็ปไซต์ http://supersportsvietnam.com และ หน้า facebook
หลังจากเดินหน้าบุกตลาดเวีดนามอย่างต่อเนื่อง นายทศ กล่าวทิ้งท้ายว่า ด้วยศักยภาพของ ซีอาร์ซี ที่ได้จับมือทำธุรกิจร่วมกับพันธมิตรทางการค้าที่ดี บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถปักธงให้ ซูเปอร์สปอร์ต เป็นผู้นำด้าน สปอร์ต รีเทล อันดับหนึ่งของเวียดนามในอนาคตอันใกล้นี้ได้อย่างแน่นอน
ข่าวเด่น