กลุ่มเอไอเอแรงไม่ตก กวาดธุรกิจใหม่เอเชีย-แปซิฟิกพุ่ง แจงผลงาน 9 เดือน โกยเบี้ยรวม 1.29 หมื่นล้านดอลลาร์ โต 16% มั่นใจสดใสทุกประเทศ ด้านเอไอเอไทยไม่น้อยหน้า กวาดเบี้ยรวม 7 หมื่นล้านบาท แถมเข้าป้ายบริษัทผ่านเกณฑ์ธรรมาภิบาล โปร่งใส-ดูแลประโยชน์ลูกค้า
นายมาร์ค ทักเกอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เอไอเอ เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือน ของปี 2556 (สิ้นสุด 31 ส.ค. 2556) กลุ่มบริษัทเอไอเอ สามารถสร้างผลงานเบี้ยรับรวมได้สูงถึง 12,904 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 16% โดยในจำนวนนี้เป็นมูลค่าเบี้ยปีแรกถึง 2,366 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตแข็งแกร่ง 26%
การเติบโตที่ดีดังกล่าว เป็นผลจากการขยายตัวของธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องในทุกตลาด ตั้งแต่เอไอเอฮ่องกงและจีน ที่สามารถเติบโตได้ดีมาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรกแล้ว เช่นเดียวกับในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเกาหลี
เขากล่าวอีกว่า ช่องทางขายที่แข็งแกร่งถือเป็นหัวใจของการเติบโตของเอไอเอ โดยช่องทางขายผ่านตัวแทนยังคงเป็นกำลังสำคัญถึง 71% ในการสร้างธุรกิจใหม่ช่วงไตรมาส 3 และยังส่งผลไปถึงการเติบโตของธุรกิจโดยรวมด้วย โดยเฉพาะกลยุทธ์ "พรีเมียร์เอเจนซี่" ที่เป็นตัวแทนประกันชีวิตระดับสูงที่เป็นกำลังสำคัญทั้งการสร้างเบี้ยและพัฒนาตัวแทนรุ่นใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
"เรายังได้ปรับโครงสร้างผลประโยชน์สำหรับตัวแทนประกันชีวิตในประเทศไทยตามที่ได้ย้ำไว้ก่อนหน้านี้ในการประกาศผลประกอบการประจำครึ่งปีแรก ด้านช่องทางการจำหน่ายผ่านทางพันธมิตรธุรกิจมีการขยายตัวด้วยอานิสงค์จากผลการดำเนินงานอันแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายผ่านธนาคารและประกันกลุ่ม รวมไปถึงการปรับโครงสร้างในช่องทางไดเร็คต์มาร์เก็ตติ้งในเกาหลีอีกด้วย ซึ่งสะท้อนแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่องของธุรกิจประกันชีวิตในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก" นายทักเกอร์ กล่าว
สำหรับผลงานของ เอไอเอ ประเทศไทย ช่วง 8 เดือนแรก ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย รายงานว่า เอไอเอ ประเทศไทยสามารถสร้างเบี้ยรับรวมได้ 70,012 ล้านบาท เติบโต 8% แบ่งเป็นเบี้ยปีแรกได้ 11,546 ล้านบาท เติบโต 5% เบี้ยต่ออายุ 52,151 ล้านบาท เติบโต 4.7% เบี้ยชำระครั้งเดียว 6,316 ล้านบาท เติบโต 68%
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ทาง คปภ. มีนโยบายส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยเข้าร่วมขึ้นทะเบียนผู้กำกับดูแลการปฏิบัติงาน (Compliance) อย่างจริงจังภายในปีหน้า เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจประกันภัยดำเนินธุรกิจโดยตระหนักถึงความสำคัญของหลักจริยธรรม ซึ่งที่ผ่านมาได้มีบริษัทต่างๆ เข้าแจ้งความประสงค์เข้ามาเพื่อขอขึ้นทะเบียนผู้กำกับการปฏิบัติงานแล้ว 160 บริษัท แต่มีแค่ 12 บริษัท ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีธุรกิจประกันภัยเพียงบริษัทเดียว คือ บริษัท เอไอเอ (ประเทศไทย)
"เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ คปภ. ในฐานะหน่วยงานของรัฐทำหน้าที่กำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยให้มีประสิทธิภาพ และคุ้มครองประชาชนให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากการประกันภัยที่ครบถ้วน ฉะนั้น ก็ต้องส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยตระหนักถึงความสำคัญของธรรมาภิบาลและปฏิบัติตามแนวทางที่เป็นสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โปร่งใส และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในบทบาทสำคัญของ คปภ." นายประเวชกล่าว
ด้าน มล.จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เอไอเอ ประเทศไทย ได้กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับารดูแลปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด และถือว่าเป็นส่วนสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากการตระหนักถึงจริยธรรมในฐานะบริษัทประกันชีวิตนั้น จะผลักดันให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปด้วยความโปร่งใส ซื่อตรงกับลูกค้าและพันธมิตร ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาวด้วย
ข่าวเด่น