ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตระดับ “BBB+” ให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันอายุ 3 ปีของ บริษัท อีซี่บาย ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กร รวมทั้งหุ้นกู้ไม่มีประกันและหุ้นกู้มีการค้ำประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ด้วยเช่นกัน
ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตระดับ “BBB+” ให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันอายุ 3 ปีของ บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กร รวมทั้งหุ้นกู้ไม่มีประกันและหุ้นกู้มีการค้ำประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ อันดับเครดิตองค์กร สะท้อนถึงฐานเงินทุน ฐานะทางการเงิน และคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2551 ถึงครึ่งแรกของปี 2556 ซึ่งรวมถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากความเสี่ยงของกลุ่มลูกค้าที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจจำกัดการเติบโตทางธุรกิจและการทำกำไรของบริษัท รวมถึงอาจทำให้คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทถดถอยลงในอนาคต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันสะท้อนถึงผลประกอบการของบริษัทที่ดีขึ้นอันเป็นผลมาจากคุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ระมัดระวัง โดยบริษัทสามารถทำกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2553 จนถึงช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 ซึ่งทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเติบโตและอันดับเครดิตของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้ การบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่ดีและเงินทุนที่เข้มแข็งของบริษัทช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจและการดำเนินงานในอุตสาหกรรมสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค
อันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันสะท้อนถึงฐานะการเงินที่อ่อนแอลงของ ACOM Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทให้สินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ของบริษัท โดยฐานะการเงินของ ACOM อ่อนแอลงตั้งแต่ปี 2552 เนื่องจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นทั้งสำหรับรองรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และชำระคืนลูกค้าที่จ่ายดอกเบี้ยไว้เกินตามผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบตามกฎหมาย “Money Lending Business Law” ในประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจน้อยลงก็ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของ ACOM ด้วยเช่นกัน ปัจจุบัน ACOM ได้รับอันดับเครดิตจาก Standard & Poor’s ที่ระดับ “BB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่”
แนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” สำหรับอันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทอีซี่ บายสะท้อนถึงฐานะทางการเงินของ ACOM ที่เข้มแข็งขึ้นในปีงบประมาณ 2555 และแนวโน้มอุตสาหกรรมการให้สินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของประเทศญี่ปุ่นที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ แรงกดดันต่อผลประกอบการทางการเงินก็ลดลงเนื่องจากแนวโน้มที่ลดลงของค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองทั้งสำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และการคืนเงินให้แก่ลูกค้าที่จ่ายดอกเบี้ยไว้เกิน การทบทวนอันดับเครดิตหุ้นกู้อาจมีการพิจารณาใหม่
เมื่อทริสเรทติ้งเห็นการเปลี่ยนแปลงของการสนับสนุนที่ ACOM ได้รับจาก Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
ตามเงื่อนไขสัญญาการค้ำประกันที่กำหนดภายใต้กฎหมายของประเทศญี่ปุ่น บริษัทแม่ผู้ค้ำประกันจะให้การค้ำประกันเต็มจำนวนแก่หุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตดังกล่าวอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้หากบริษัทอีซี่ บายไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ในกรณีที่บริษัทถูกฟ้องล้มละลายและมีการจ่ายคืนหนี้แก่ผู้ถือหุ้นกู้แต่หนี้นั้นถูกเรียกคืน ภาระการชำระหนี้ดังกล่าวจะตกเป็นของบริษัทผู้ค้ำประกันและจะมีผลในการชำระหนี้ทันที
นอกจากนี้ หาก ACOM มีการควบรวมกิจการ บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการจะต้องรับภาระผูกพันในการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวด้วย หาก ACOM ไม่สามารถจ่ายชำระได้ตามกำหนดหลังจากได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้ว ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สามารถดำเนินการตามกฎหมาย ณ ศาลพาณิชย์ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อฟ้องร้องเรียกเงินที่ผิดนัดชำระคืนได้ ภาระผูกพันของผู้ค้ำประกันภายใต้สัญญาการค้ำประกันนี้จะมีลำดับของสิทธิเรียกร้องเท่าเทียมกับหนี้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่น ๆ ของผู้ค้ำประกัน
ฐานะทางการเงินของ ACOM ค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 (เมษายน 2554 - มีนาคม 2555) สำหรับปีงบประมาณ 2556 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2556) ACOM รายงานผลกำไรสุทธิทั้งสิ้น 21 พันล้านเยนเนื่องจากการลดลงอย่างมากของการกันสำรองเพิ่มจากการที่ผู้กู้สามารถขอดอกเบี้ยที่จ่ายเกินคืนได้และการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน แม้ว่าบริษัทจะมีพอร์ตสินเชื่อและอัตราผลตอบแทนลดลง แต่บริษัทก็ยังสามารถรักษาระดับกำไรสุทธิที่ใกล้เคียงกับระดับในปีงบ
ประมาณ 2555 ได้
บริษัทมีการกระจายตัวไปสู่ธุรกิจการค้ำประกันสินเชื่อโดยการเป็นพันธมิตรธุรกิจร่วมกับธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่น จึงมีผลให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจค้ำประกันสินเชื่อต่อรายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนไม่ถึง 5% ในปีงบประมาณ 2553 เป็น 13% ในปีงบประมาณ 2556
ณ เดือนมีนาคม 2556 สินเชื่อรวมของบริษัทอีซี่ บายมีจำนวน 84 พันล้านเยน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 9.5% ของสินเชื่อรวมของ ACOM บริษัทอีซี่ บายเป็นบริษัทย่อยแห่งแรกในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของ ACOM และมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับ ACOM ในการเป็นผู้ประกอบการให้สินเชื่อเพื่อการบริโภครายสำคัญในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ ACOM ยังมีพันธะสัญญาที่เหนียวแน่นกับบริษัทในการให้การสนับสนุนทั้งในด้านการเงินและธุรกิจ อันได้แก่การถ่ายทอดเทคโนโลยีและความรู้ทางธุรกิจที่ใช้ในทางปฏิบัติด้วย
การมีประสบการณ์มากกว่า 15 ปีในธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยส่งผลให้บริษัทอีซี่ บายมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี ในขณะที่การสนับสนุนทางการเงินและธุรกิจอย่างต่อเนื่องจาก ACOM เป็นปัจจัยช่วยส่งเสริมฐานะทางการตลาดและการเติบโตของบริษัทในอนาคต แม้ว่าลักษณะของธุรกิจจะมีการกระจายความเสี่ยงอยู่แล้วจากการปล่อยสินเชื่อต่อรายในจำนวนไม่มากให้แก่ลูกค้ารายย่อยจำนวนมาก แต่บริษัทก็ยังคงมีความเสี่ยงทางด้านเครดิตเนื่อง
จากลูกค้าส่วนใหญ่มีความเสี่ยงมากกว่ากลุ่มลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ บริษัทยังมีความเสี่ยง
ด้านกฎระเบียบเนื่องจากภาครัฐให้ความสำคัญในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคมากขึ้น
ตั้งแต่ปี 2551 คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อค้างชำระมากกว่า 3 เดือนต่อสินเชื่อรวมลดลงจาก 5.62% ในปี 2550 เป็น 2.08% ในปี 2555 และ 2.04% ณ เดือน มิถุนายน 2556 ในทางตรงข้าม สัดส่วนเฉลี่ยของอุตสาหกรรมกลับเพิ่มขึ้นเป็น 3% ณ เดือนธันวาคม 2555 และเดือนมิถุนายน 2556 จาก 2.75% ในปี 2554 เนื่องจากบริษัทได้ปรับฐานลูกค้าจากกลุ่มผู้ทำงานในโรงงานมาเป็นกลุ่มผู้ทำงานในสำนักงานตั้งแต่ปี 2552 จึงทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจเพียงบางส่วน บริษัทได้นำความรู้ใน
การดำเนินธุรกิจและเครื่องมือบริหารความเสี่ยงต่าง ๆ จาก ACOM มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพตลาดของไทย ไม่ว่าจะเป็นแบบจำลองการให้คะแนนความน่าเชื่อถือของลูกค้า (Credit Scoring) ที่ทันสมัย การบริหารร้านค้าเครือข่าย และฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงมาตรฐานและขั้นตอนการติดตามจัดเก็บหนี้เพื่อใช้ควบคุมคุณภาพสินทรัพย์
บริษัทมีฐานะทางการเงินที่เข้มแข็งขึ้นหลังปี 2550 จนเริ่มกลับมามีกำไร โดยในปี 2551 บริษัทมีกำไรสุทธิ 310 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 326 ล้านบาทในปี 2552 เป็น 925 ล้านบาทในปี 2553 และเป็น 1,310 ล้านบาทในปี 2554 สำหรับปี 2555 รายได้สุทธิทำสถิติสูงสุดที่ระดับ 1,984 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 51% จากปี 2554 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 กำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ระดับ 1,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จาก 1,010 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ อาทิ การขยายจำนวนสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง การควบ
คุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และการปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำลง
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2555 บริษัทได้จัดสรรกำไรสะสมจำนวน 3,600 ล้านบาทให้แก่ผู้ถือหุ้นในรูปของหุ้นปันผล ซึ่งมีผลทำให้เงินทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 3,900 ล้านบาท จาก 300 ล้านบาท ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว บริษัทมีเงื่อนไขที่จะต้องดำรงเงินทุนให้เพียงพอ เพื่อให้หนี้สินของบริษัทมีสัดส่วนเท่ากับหรือไม่เกิน 7 เท่าของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วของบริษัท อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นจาก 5.70% ในปี 2550 เป็น 10.58% ในปี 2553 เป็น 14.56% ในปี 2554 เป็น 18.57% ในปี 2555 และเป็น 20.79% ณ เดือนมิถุนายน 2556 ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทก็ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน โดยเพิ่มจาก 14 เท่าในปี 2551 เป็นประมาณ 4 เท่าในปี 2555 ณ เดือนมิถุนายน 2556 อัตราส่วนดังกล่าวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.7 เท่า
บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) (EASY BUY)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
อันดับเครดิตตราสารหนี้มีการค้ำประกัน:
EB13DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 BBB+
EB14DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 BBB+
EB152A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
EB15DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
EB156A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,020 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
EB162A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB+
EB162B: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
อันดับเครดิตตราสารหนี้ไม่มีประกัน:
EB152B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 340 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
EB156B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 480 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
EB163A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB+
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559 BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
ข่าวเด่น