ซีเอสอาร์-เอชอาร์
นศ.กฎหมาย-อาสายุวกาชาดเยี่ยมน้องบ้านมหาเมฆ


 

 

 

ผู้บริหาร พนักงาน และนักศึกษา ฝึกงานสำนักงานกฎหมายสากลสยามพรีเมียร์ พร้อมกลุ่มอาสายุวกาชาด ร่วม 20 ชีวิตทำกิจกรรมมอบสื่อสำคัญทางการศึกษา คือ หนังสือให้กับน้องๆผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา ณ สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ จำนวนประมาณ 100คน

 

 
ผู้บริหาร พนักงาน และนักศึกษา ฝึกงานของ บริษัท สำนักงานกฎหมายสากลสยามพรีเมียร์ จำกัด ได้ร่วมทำกิจกรรมและมอบสื่อสำคัญทางการศึกษา คือ หนังสือหลากประเภท ให้กับน้องๆผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา ณ สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เมื่อวันเสาร์(26ต.ค.) รวมทั้งเล่น ร้องเพลง พร้อมอาหารว่างและไอศกรีม  สร้างความสุขให้กับน้องๆประมาณ 100 ชีวิต โดยมีกลุ่มอาสายุวกาชาดมาร่วมกิจกรรมด้วย รวมผู้ทำกิจกรรมทั้งสิ้นราว  20  ชีวิต
 
 
 
 
สถานสงเคราะห์เด็กชายฯแห่งนี้มีประวัติความเป็นมามายาวนาน เริ่มจากกรมประชาสงเคราะห์ (เดิม) ได้เริ่มดำเนินงานบริการสงเคราะห์เด็กมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2484 โดยอาศัยอำนาจและหน้าที่  พ.ร.บ. ควบคุมเด็กและนักเรียน พ.ศ. 2481 สถานสงเคราะห์แห่งเดียวในขณะนั้น คือโรงเรียนประชาสงเคราะห์ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีได้รับเด็กไว้ในความอุปการะหลายประเภท มีทั้งเด็กกำพร้า อนาถา เร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง (ตกอยู่ในสภาพขาดที่พึ่ง) เนื่องจากปัญหาความเดือนร้อนในครอบครัว เช่นหัวหน้าครอบครัวต้องโทษคุมขัง วิกลจริต เจ็บป่วยเรื้อรังฐานะยากจนขัดสนหรือพิการทางร่างกาย จนหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวไม่ได้ เป็นต้นตลอดจนเด็กที่ประพฤติตนไม่สมควรแก่วัย เช่น หลบหนีการเรียน กระทำตนเป็นที่รบกวนหรือก่อความเดือดร้อน หรือโน้มเอียงไปในทางที่จะกระทำผิด 
 


ดังนั้นเพื่อให้การสงเคราะห์อุปการะเด็กเป็นไปโดยความเหมาะสมตามลักษณะเด็กแต่ละประเภทกรมประชาสงเคราะห์ จึงได้พิจารณาจัดตั้งสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆแยกออกจากโรงเรียนประชาสงเคราะห์ปากเกร็ดเพื่อให้เป็นสถานสงเคราะห์สำหรับเด็กที่กำพร้า อนาถา ไร้ที่พึ่ง แต่มีความประพฤติดีมีความมานะพยายามบากบั่นในการเรียน และมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีโดยเฉพาะสถานสงเคราะห์แห่งนี้ ได้รับเงินงบประมาณให้ดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2497 และเริ่มดำเนินการรับเด็กเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2497  เป็นต้นมา
 
 
นายพิสุจธิ์ เดชะ ไกศยะ กรรมการผู้จัดการสำนักงานกฎหมายสากลสยามพรีเมียร์ จำกัด เปิดเผยว่า เพิ่งเริ่มจัดทำกิจกรรมเพื่อสังคมนี้เป็นปีที่ 2  โดยก่อนหน้าจัดขึ้นช่วงต้นเดือนพฤษภาคม จัดที่บ้านสงเคราะห์คนพิการซ้ำซ้อนบางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานสงเคราะห์ผู้หญิง ส่วนสถานสงเคราะห์ฯที่นี่เป็นเด็กผู้ชาย
นายพิสุจธิ์กล่าวต่อว่า เป้าหมายของการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมนี้มีขึ้นเพื่อให้นักศึกษาฝึกงานด้านกฎหมายหรือเป็นทนายความได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน คิดร่วมกันว่าจะบริหารจัดการอย่างไร เรียนรู้การทำงานร่วมกัน  เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันบุคลากรภายในองค์กร ทำให้เกิดความรักและความสามัคคีในหมู่คณะ ขณะเดียวกันยังมุ่งส่งเสริมให้มีจิตใจ เมตตากรุณา มีคุณธรรมเพื่อนำวิชาชีพกฎหมายไปใช้ในทางที่ถูกต้อง ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักศึกษาวิชากฎหมายมาฝึกงานรวม  4 เดือน  2 รุ่น ๆ ละ 2 เดือน รวมประมาณ 20 คน
 
 
ปัญหาเด็กด้อยโอกาสมีทุกประเทศ เราต้องดูแลพวกเขา ให้ด้านการศึกษา ให้ความรู้ ความอบอุ่นตามสมควร จึงอยากให้ภาครัฐเน้นงบประมาณด้านการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสมาก ๆ
ทางด้านเด็ก ๆ จะได้ประโยชน์ในแง่ของขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตในสังคมในภายภาคหน้า นอกจากนี้กิจกรรมนี้ยังเพื่อเสริมสร้างนิสัยรักการอ่านและส่งเสริมพัฒนาการความรู้ ให้กับน้องๆผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งชี้ให้เห็นความสำคัญของการอ่านหนังสือ
 
 
 
 
นายฮิโรมิ โคยาม่า นักศึกษาปริญญาโท คณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่มาฝึกงานเปิดเผยว่า มาอยู่เมืองไทย 9 ปีแล้ว แต่มาทำงานก่อนที่บริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนมาศึกษาต่อปริญญาโทและมาฝึกงานกับทางสำนักงานกฎหมายเป็นเวลา 3 สัปดาห์ สำหรับการมาร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมนี้นับเป็นครั้งแรก ทำให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย  เดิมสงสัยว่า มาทำจะมีประโยชน์อะไรบ้าง แต่ทำแล้วรู้สึกดี ดีใจที่เห็นเด็ก ๆ เล่นกันสนุกสนาน   ทุกบริษัทนาจะมีกิจกรรมแบบนี้
 
 
                                                                                                  
 

LastUpdate 27/10/2556 15:37:09 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 3:37 am