วงการดนตรีของโลกต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งเมื่อ ลู รีด ซึ่งเป็นทั้งนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลง เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 71 ปี เมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นที่สหรัฐอเมริกา หรือเช้ามืดวันจันทร์ของไทย สาเหตุการเสียชีวิตยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าเขาต้องเข้ารับการปลูกถ่ายตับเมื่อต้นปี

ลู รีด เกิดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ปี 1942 โดยมีชื่อตอนเกิดว่า ลูอิส อัลลัน รีด ที่บรูกลีน ซึ่งในสมัยวัยรุ่น เขาเคยถูกตำตัวไปรักษาด้วยไฟฟ้าเพื่อพยายามรักษาการเป็นไบเซ็กชัล ( การรักษาด้วยไฟฟ้าเป็นวิธีการรักษาชนิดหนึ่งสำหรับผู้ป่วยทางจิต ซึ่งตอนนั้นหลายคนยังมีความเข้าใจที่ผิดว่าการรักร่วมเพศรวมทั้งไบเซ็กซัล เป็นการป่วยทางจิต ) โดยประสบการณ์ครั้งนั้น เขานำมาแต่งเพลงชื่อ Kill Your Sons

รีด ได้รับการศึกษาที่ Syracuse University และได้ก่อตั้งวง Velvet Underground ซึ่งต่อมาวงนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากและถือเป็นวงดนตรีหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อวงการดนตรีสหรัฐมากที่สุด และเมื่อปี 1996 ได้รับการจารึกไว้ในหอเกียรติยศร็อคแอนด์โรล ซึ่งหลังจากแยกวง รีด ได้ย้ายไปตั้งรกรากที่ประเทศอังกฤษและมีผลงานเพลงเดี่ยวคั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษปี 1970 โดยมีเพลงฮิตอย่าง Walk On The Wild Side ผลงานล่าสุดของ รีด คือ Lulu เมื่อปี 2011 ซึ่งเป็นการร่วมงานกับวง Metalica
ก่อนหน้าเสียชีวิตไม่กี่นาที รีด ยังโพสต์รูปตัวเองที่ถ่ายคู่กับโปสเตอร์ที่ติดอยู่ที่ประตูลงเฟสบุ๊ค โดยในช่วงสุดท้ายของชีวิต รีด อยู่กับ ลอรี แอนเดอร์สัน ภรรยาของเขาที่แต่งงานกันเมื่อปี 2008
ทันทีที่ข่าวการเสียชีวิตของ รีด แพร่กระจายออกไป เหล่าคนในวงการบันเทิงหลายต่อหลายคนก็ได้เขียนข้อความไว้อาลัยในโลกไซเบอร์
จอห์น เคล หนึ่งในสมาชิกวง Velvet Underground เขียนข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ โลกได้สูญเสียนักร้องและกวี ผมสูญเสียเพื่อนรักคนนี้ของผมไป”
เดฟ นาวาร์โร นักกีตาร์ชื่อดัง เปิดเผยว่า “ ลู รีด ซึ่งเป็นฮีโร่และเพื่อนคนหนึ่งของผมได้จากโลกนี้ไปแล้ว ขอจงไปสู่สุคตินะ ลู”
ไมลีย์ ไซรัส นักร้องสาวชื่อดัง ส่งข้อความว่า “ ไม่ ต้องไม่ใช่ ลู รีด ที่จากไป”
แต่ถึงแม้ลู รีด จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ผลงานของเขาจะยังคงในใจของแฟนๆ และคนในวงการดนตรีไปอีกนานแสนนาน
ข่าวเด่น