ธนาคารออมสินชวนประชาชนร่วมงาน “วันออมแห่งชาติ ปี 2556” วันที่ 31 ตุลาคม 2556 โดยเปิดบัญชีใหม่หรือฝากเงิน 200 บาทขึ้นไป รับของที่ระลึกเป็น “กระปุกออมสินถุงเงิน” พร้อมมอบรางวัลการออมดีเด่นแก่หลายภาคส่วน ตั้งแต่ระดับเยาวชนจากธนาคารโรงเรียนธนาคารออมสิน จนถึงภาคประชาชนฐานรากตัวจริงจากโครงการธนาคารประชาชน ชี้ผลประกอบการยังแกร่งแม้เผชิญภัยธรรมชาติและเศรษฐกิจชะลอตัว คาดกำไรโตตามเป้าที่ 7.5%
นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีถือเป็นวันแห่งการประหยัดและการออมโลก เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของการออม สำหรับประเทศไทยได้กำหนดให้เป็นวันออมแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2542 โดยธนาคารออมสินในฐานะที่เป็นสถาบันเพื่อการออมได้ดำเนินกิจกรรมด้านการออมมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อกระตุ้นการออมในวันสถาปนาธนาคารออมสิน วันที่ 1 เมษายนของทุกปี รวมถึงได้จัดกิจกรรมในวันออมแห่งชาติตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา
สำหรับปี 2556 นี้ธนาคารออมสินจัดกิจกรรมพิเศษสำหรับวันออมประจำปีอีกเช่นเคย โดยจัดของที่ระลึกชิ้นพิเศษคือ “กระปุกออมสินถุงเงิน” แก่ผู้ฝากเงินหรือเปิดบัญชีเงินฝากประเภทใดก็ได้ ตั้งแต่ 200 บาทขึ้นไป เฉพาะในวันออมแห่งชาติ 31 ตุลาคม 2556 เพียงวันเดียวเท่านั้น ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่และสาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้กระปุกออมสินถุงเงินที่แจกนี้จัดทำขึ้นภายใต้แนวคิดความเป็นสัญลักษณ์การออม โดยจำลองมาจาก “ถุงเงินแดง” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 กระปุกออมสินในปีนี้จึงสื่อถึง ความหวังของธนาคารออมสินที่มุ่งให้คนไทยรู้จักตระหนักและเห็นคุณค่าการออม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินแก่ตนเองและเป็นแหล่งทุนที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ
นอกจากนี้กิจกรรมด้านการออมที่มีการจัดอย่างต่อเนื่องในปี 2556 ได้แก่ การมอบรางวัลการออมดีเด่น เช่น ธนาคารโรงเรียนธนาคารออมสินส่งเสริมการออมดีเด่นประจำปี 2556 รางวัลส่งเสริมวินัยทางการเงินแก่สมาชิกสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน รวมถึงพิธีมอบทุนการศึกษาแก่บุตรสมาชิกโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตครู ข้าราชการพลเรือน ทหาร เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อหน่วยงานดังกล่าว ในการสร้างวินัยทางการเงินอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป
ผู้ที่ได้รับรางวัล เป็นสมาชิกของแต่ละโครงการที่ธนาคารออมสินได้คัดเลือกมาโดยพิจารณาคุณสมบัติที่สอดคล้องกับการส่งเสริมการมีวินัยในการออม เช่น โครงการธนาคารประชาชนจะพิจารณาสมาชิกที่มีประวัติการชำระหนี้และมีวินัยการเงินที่ดี ประกอบอาชีพด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ประพฤติดี เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนทั่วไป ส่วนโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ เช่น กลุ่มครู ทหาร จะพิจารณาสมาชิกที่มีการออมอย่างสม่ำเสมอ มีคุณธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกและคนอื่น ๆ ส่วนกรณีทุนการศึกษาแก่บุตรสมาชิก โดยพิจารณาสมาชิกที่เป็นผู้ปกครองด้วย
ในโอกาสเดียวกันนี้นายวรวิทย์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยด้วยว่า ในปีนี้ธนาคารฯตั้งเป้ามีเงินฝากและสินเชื่อเติบโตที่ 7-7.5% หรือเพิ่มขึ้นสุทธิที่ประมาณ 120,000 ล้านบาทเท่ากัน ซึ่งอาจจะมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่ต้องตั้งไว้ให้สมดุลย์กัน ซึ่งในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา มียอดสูสีกัน โดยสินเชื่อปล่อยไปแล้วราว 97,000 ล้านบาท ด้านเงินฝากมียอดราว 99,000 บาท คิดแล้วมีการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 12,000 ล้านบาทต่อเดือน เหลือเวลาอีก 2 เดือนเชื่อว่า จะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอนทั้งสองอย่าง
สำหรับการดูแลสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan : NPL) หรือ หนี้เสีย แม้จะเพิ่มขึ้นบ้างเล็กน้อยจากเมื่อสิ้นปี 2555 แต่ธนาคารออมสินยังสามารถควบคุมดูแลไว้ได้
ส่วนรายได้อาจจะลดลงไปบ้างเนื่องจากมีปัญหาด้านภัยน้ำท่วม ภัยธรรมชาติและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงไป แต่เชื่อว่า จะไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคารออมสินแต่อย่างใดและยังเป็นไปตามเป้าหมายทุกตัวชี้วัด เนื่องจากธนาคารมีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตามสถานการณ์ เช่น ปรับเกณฑ์การให้สินเชื่อตามความสามารถในการจ่ายของบุคคลหรือปรับสูตรการคิดคำนวณใหม่ ซึ่งสามารถปรับได้ตลอดเวลาเป็นต้น โดยผลกำไรในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 17,000 ล้านบาท คาดว่าจะถึงเป้าที่ตั้งไว้ 21,000 ล้านบาทได้หรือเติบโต 7.5%
ส่วนในปีหน้า 2557 คาดว่าจะมีการเติบโตไม่น้อยกว่าปี 2556 นี้ ซึ่งการดำเนินงานจะเน้นใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการออม ด้านเศรษฐกิจฐานรากและด้านสินเชื่อโครงการของภาครัฐ ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ไม่มีความเสี่ยง
ข่าวเด่น