พอก้าวเข้าสู่ช่วงปลายปีธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เริ่มมีความคึกคัก สังเกตได้จากการที่ผู้ประกอบการแต่ละรายเริ่มออกมาทำกิจกรรมการตลาดกันมากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ต้องกุมขมับกันพักใหญ่ภายหลังกรมสรรพามิตออกมาประกาศขยับการเก็บภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคต่างแตกตื่นจะขายกันราคาเท่าไหร่และต้องซื้อกันในราคาเท่าไหร่
เมื่อปัญหาทุกอย่างเริ่มคลี่คลายตัวเลขของการเก็บอัตราภาษีสรรพสามิตมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีออกมาประกาศโครงสร้างภาษีสุราใหม่เมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของตลาดเบียร์ปรับให้มีการเก็บภาษีตามมูลค่าเพดานสูงสุดไม่เกิน 60% ส่งผลให้ราคาขายปลีกจะปรับเพิ่มขึ้นจากราคาเดิมเฉลี่ยที่ประมาณ 3-7 บาท
การปรับราคาขายปลีกขึ้นมาดังกล่าวหากมองในมุมของผู้ดื่มคงไม่ส่งผลกระทบอะไรมาก เพราะไม่ว่าราคาจะปรับอย่างไรผู้ดื่มยังคงบริษัทโภคเหมือนเดิม และยิ่งเป็นช่วงหน้าขายปลายปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองยิ่งทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นที่ต้องการของเทศกาลเฉลิมฉลองมากขึ้น
แต่สิ่งที่น่าจับตามองในปีนี้คือ นอกจากผู้ประกอบการในตลาดเบียร์จะเริ่มออกมาทำกิจกรรมการตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะกลยุทธ์ผ่านมิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ปีนี้แต่ละค่ายยังตบเท้ากันออกมาจัดงานมหกรรมแสดงสินค้าในเครือของตัวเองอย่างคึกคัก ที่เห็นเป็นบิ๊กโปรเจ็กต์คงจะหนี้ไม่พ้น 2 ค่ายน้ำเมายักษ์ใหญ่อย่าง สิงห์ และช้าง
นายพลิศร์ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเบียร์ภายใต้แบรนด์สิงห์ และลีโอ กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีแอลกอฮอล์ อาจส่งผลให้ภาพรวมตลาดเบียร์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ตกลงไป แต่ภาพรวมยอดขายเบียร์ของบริษัทสิ้นปีนี้คาดว่าจะยังคงเติบโตได้ที่ประมาณ 8% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักประมาณ 70% จะมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอีก 30% มาจากเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์
หนึ่งกลยุทธ์ที่ค่ายสิงห์ จะงัดขึ้นมาเพื่อสร้างแบรนด์สินค้าในเครือให้อยู่ในใจของผู้บริโภคนับจากนี้คือ การจัดงาน "สิงห์เวิลด์ 2013 " ในวันที่ 2-3 พ.ย. นี้ บริเวณลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ภายในงานจะมีการรวบรวมสินค้าของเครือบริษัท บุญรอด ประมาณ 29 แบรนด์มาแสดงและจำหน่าย
ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าว ค่ายสิงห์ ได้แบ่งพื้นที่การจัดงานออกเป็น 7 โซน ประกอบด้วย 1.Singha Corporate และ CSR เป็นโซนที่บอกเล่าความภาคภูมิใจร่วมกันกับสิงห์ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและคู่ค้า 2.ส่วนส่งเสริมการขาย โซนสนับสนุนการจำหน่าย และนำเสนอนวัตกรรมสุดล้ำของสิงห์ 3.Trade Zone โซนเจรจาการค้าสำหรับคู่ค้าเดิมและคู่ค้าใหม่
4.Singha Shop โซน Idea Shop สำหรับคู่ค้า รวมทั้งการจำหน่ายสินค้าในเครือบุญรอดสำหรับผู้บริโภคทั่วไป 5.Singh Products โซนแนะนำ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผลิตภัณฑ์ในเครือบุญรอด 6.Singha Food โซนแนะนำร้านอาหารในเครือบุญรอด ที่สำคัญโซนนี้ยังมีการจำหน่ายอาหารในราคาพิเศษเพื่อให้คู่ค้าได้ลองลิ้มชิมรสความอร่อยที่บริษัทบรรจงนำเสนอด้วย และ 7.Stage Show โซนกิจกรรมการแสดงทั้งสาระและบันเทิง
นายพลิศร์ กล่าวต่อว่า การจัดงาน สิงห์ เวิลด์ 2013 เป็นงานที่จัดขึ้น เพื่อโชว์ศักยภาพสินค้าและบริการของสิงห์ และบริษัทในเครือทั้งหมด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มร้านค้าปลีก ค้าส่ง เอเย่นต์ ตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่ในภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคอีสานในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
จากความสำเร็จดังกล่าว ค่ายสิงห์ เลยต่อยอดจัดงาน สิงห์ เวิลด์ 2013 ขึ้นมาต่อเนื่องเลยทันที ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการจัดกิจกรรมส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ ในเขตพื้นที่ภาคกลาง เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม นนทบุรี และปทุมธานี
นอกจากนี้ ยังถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรและลูกค้า เพราะภายในงานจะมีการโชว์ศักยภาพขององค์กร สินค้า และบริการของสิงห์ ให้ผู้ที่เข้าร่วมงานได้รับรู้ พร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสทุกแง่มุมของบริษัท บุญรอด อย่างใกล้ชิด ซึ่งสินค้าที่สร้างชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน ประกอบด้วย เบียร์สิงห์ เบียร์ลีโอ เครื่องดื่มเสริมสุขภาพบีอิ้ง เครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว ข้าวสารตราพันดี สาหร่ายมาชิตะ และธุรกิจแฟชั่น สิงห์ ไลฟ์ เป็นต้น
ขณะที่ค่ายสิงห์กำลังเตรียมจัดงานยักษ์ สิงห์ เวิลด์ 2013 ในเดียวกับที่ค่ายสิงห์ประกาศจัดงาน ค่ายช้างก็ออกมาประกาศจัดงาน “ไทยเบฟ เอ็กซ์โป 2013” เช่นกัน เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีบริษัทในเครือจำนวนมาก จึงทำให้สถานที่ที่จัดแสดงสินค้าต้องมีขนาดใหญ่กว่าค่ายสิงห์ พอสมควร ซึ่งสถานที่ที่ค่ายช้างเลือกจัดงาน คือ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจเบียร์ภายใต้แบรนด์ ช้าง กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมจัดงานแสดงสินค้าภายใต้ชื่อ “ไทยเบฟเอ็กซ์โป 2013” ซึ่งเป็นการจัดมหกรรมสินค้าในเครือไทยเบฟอย่างเต็มรูปแบบครั้ง ซึ่งงานดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3 พ.ย. นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานจะมีการนำผลิตภัณฑ์ในเครือไทยเบฟ โออิชิ เสริมสุข และ F&N
ในส่วนของรูปแบบการจัดงานค่ายช้าง ยังคงเน้นไปที่ความอลังการของพาวิลเลียนขนาดใหญ่ภายใต้แนวคิด “ไทยเบฟ 360 องศา” ที่จัดแสดงศักยภาพระดับโลกและนวัตกรรม เพื่อความสุขของทุกคนผ่านมัลติมีเดียล้ำสมัยแบบ 4 มิติ บอกเล่าความยิ่งใหญ่ความสำเร็จ และการขยายอาณาจักรไทยเบฟตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และหากสนใจลงทุน ค่ายช้าง ก็มีการจัดผู้เชี่ยวชาญมาให้ข้อมูลด้านการลงทุนเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ หากสนใจที่จะร่วมงานกับทางบริษัท ไทยเบฟ บริษัท โออชิ บริษัท เสริมสุข หรือบริษัท เอฟแอนด์เอ็น ก็สามารถสมัครงานได้ภายในงาน กับโซน Job Fair ซึ่งจะมีตำแหน่งงานน่าสนใจมากมาย พร้อมกันนี้ ยังจัดแสดงอาณาจักรเครื่องดื่มระดับโลกในกลุ่มไทยเบฟ ที่ระดมมาจัดแสดง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ในเครือไทยเบฟ บริษัท โออิชิ บริษัท เสริมสุข หรือบริษัท เอฟแอนด์เอ็น
ขณะที่โซน Trade Fair จะเป็นพื้นที่ของการ ช็อป ชม แบบชิลล์ๆ กับผลิตภัณฑ์มากมาย เริ่มจาก โออิชิ ที่นอกจากจะนำ โออิชิ ทั้งกรีนที และแบล็คที มาจำหน่ายในราคาพิเศษแล้ว ยังเตรียมโปรโมชั่นสุดจี๊ดของ เกี๊ยวซ่า ปูอัด คามาโบโกะ และสาหร่ายโอโนริ เอาใจนักช็อป ด้าน เสริมสุข ก็ไม่น้อยหน้านำ เอส น้ำดื่มคริสตัส และแรงเยอร์ มาลดราคาแบบถูกสุดๆ ส่วน เอฟแอนด์เอ็น บริษัทน้องใหม่ในเครือไทยเบฟระดมเครื่องดื่มแบรนด์ดังทั้ง นมสเตอริไลซ์ และนมยูเอชทีตราหมี นมตราหมีโกลด์ ครีมเทียม นมตราคาเนชั่น นมทีพอท กาแฟเอฟแอนด์เอ็นครีเอชั่น ส้มตราฟรุตทรีเพรช นมคืนรูปแมกโนเลีย
แต่ที่เห็นจะแตกต่างและสร้างความคึกคักให้กับการจัดงานครั้งนี้ของค่ายช้าง น่าจะเป็นการมอบโชคให้กับผู้ที่เข้าร่วมงาน เมื่อซื้อเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์ครบ 199 บาท รับคูปองพร้อมร่วมลุ้น IPhone 5 รวม 20 เครื่อง หรือซื้อสินค้าครบ 2,500 บาท รับกระเป๋าเดินทางไทยเบฟสุดเก๋ กลยุทธดังกล่าวถือเป็นการสร้างความจดจำแบรนด์สินค้าเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคอีกหนึ่งแนวทาง
พร้อมกันนี้ ค่ายช้าง ยังขอเพิ่มความคึกคักด้วยการความบันเทิงเตรียมตื่นเต้นไปกับการเต้นแบบไร้ขีดจำกัดจากผู้เข้าแข่งขันรายการ Thailand Dance Now! เต้น…สุดขั้ว! และมินิคอนเสิร์ตของ 2 ศิลปินจากเวทีเดอะสตาร์ อย่าง รุจ-ศุภรุจ เตชะตานนท์ และกัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ มาสร้างความคึกคักให้กับการจัดงานครั้งนี้
หลังจากออกมาทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ค่ายช้างมั่นใจว่าไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ซึ่งถือว่าเป็นช่วงหน้าขายน่าจะกลับมามียอดขายเป็นบวก และส่งผลให้ภาพรวมยอดขายของ 2556 น่าจะอัตราการเติบโตได้ที่ประมาณ 4-5% หากไม่มีปัจจัยลบในประเทศ อย่างเช่น การเมือง และผู้บริโภคยังคงใช้เงินในการจับจ่ายใช้สอยช่วงปลายปีเป็นปกติเหมือนในทุกปี ซึ่งบริษัทจะมีการทำการตลาดตามแผนที่วางไว้อย่างต่อเนื่องด้วย
ส่วนแผนการทำตลาดนับจากนี้ไป ค่ายช้าง ยังคงเดินหน้าขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนมากกว่าในไทย ทั้งกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ และกลุ่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้สัดส่วนยอดขายของกลุ่มกลุ่มนอนแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นจาก 20% ในปัจจุบัน เป็น 30% ภายใน 1-2 ปีนับจากนี้ ซึ่งสินค้ากลุ่มนอนแอลกอฮอล์ของบริษัท อาทิ โซดา, น้ำดื่มช้าง, โออิชิ ,เอฟแอนด์เอ็น เป็นต้น
สำหรับโครงสร้างรายได้รวมของค่ายช้าง หรือกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ หลักๆมาจาก 4 บริษัทใหญ่ คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ,บริษัท เสริมสุข ,บริษัท โออิชิ กรุ๊ป และบริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ จำกัด หรือ เอฟแอนด์เอ็น โดยปี 2555 ที่ผ่านมามียอดขายกว่า 1 แสนล้านบาท ไม่นับรวมยอดขายจากการควบรวมกิจการเอฟแอนด์เอ็นที่ไทยเบฟเวอเรจเข้าถือหุ้นประมาณ 28% ซึ่งจะรวมบัญชีรายได้ในปี 2557 โดยเอฟแอนด์เอ็นมีรายได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท เมื่อรวมกันแล้วคาดว่าจะทำให้รายได้รวมของกลุ่มไทยเบฟเวอเรจเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1.1 แสนล้านบาท
หลังจากจบการจัดงานแสดงสินค้าของทั้ง 2 ค่ายน้ำเมาระหว่างวันที่ 2-3 พ.ย. ต่อมาอีกไม่กี่สัปดาห์ ผู้ประกอบการเบียร์ก็ต้องเตรียมตัวระเบิดศึกลานเบียร์บริเวณลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แม้ว่าปีนี้การจัดงานจะมีความล่าช้ากว่าทุกปีไปเล็กน้อย แต่ก็คงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ เพราะทุกค่ายพร้อมแล้วที่จะทำการสู้ศึกลานเบียร์ สังเกตุได้จากการเตรียมจัดสถานที่จำหน่ายเบียร์บริเวณลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่เริ่มก่อสร้างกันแล้ว
ข่าวเด่น