สถานการณ์การเมืองที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา และยังไม่มีท่าทีที่จะยุติลงได้ ทำให้แวดวงการเงินเริ่มห่วงว่า ปัญหาการเมือง จะฉุดการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้และปีหน้า
โดย นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปีนี้ จากที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5แต่จะเติบโตเหลือเพียงร้อยละ 2-3 เท่านั้น ส่งผลให้ทั้งปีเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้อย่างมากไม่เกินร้อยละ 3.5-4 และยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของต่างประเทศจนทบทวนการลงทุนจากเดิมที่จะลงทุนในไทยไปประเทศอื่น เหมือนกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่นักลงทุนบางส่วนเลือกไปลงทุนที่ฟิลิปปินส์แทนไทย จากที่ไทยมีเหตุการณ์รุนแรงทางการเมือง
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีหน้า หากปัจจัยการเมืองยังยืดเยื้อ จะกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโตร้อยละ 25-27 ต้องสูญเสียโอกาสจากการยกเลิกการเดินทางมาเที่ยวในไทยช่วงไฮซีซั่นจะไม่ได้กำไรในส่วนนี้ เพราะประเทศต่างๆ จะทยอยประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนเข้ามาท่องเที่ยวในไทย และยังส่งผลกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ ประกอบกับสหรัฐจะประกาศชะลอการอัดฉีดสภาพคล่อง จะส่งผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุน อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเอเซียรวมถึงประเทศไทย
ขณะที่รัฐบาลไม่อาจเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท เพราะต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาการเมืองให้นิ่ง ตลาดหุ้นจะผันผวนตามกระแสข่าวต่างๆ ดังนั้นจึงคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2557 จากที่เคยคาดว่า จะเติบโตได้ในระดับร้อยละ 5 จะเติบโตลดลงประมาณร้อยละ 1-1.5 เหลือ ร้อยละ 3.5-4
ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวในวงกว้าง รัฐบาลน่าจะรับฟัง โดยเห็นว่าถ้าหากวุฒิสภาไม่ผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของไทย แต่ถ้ายืดเยื้อออกไปต่างชาติก็จะเริ่มจับตามอง และอาจกระทบกับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของไทยได้ ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีหน้าคาดว่า จะเติบโตได้กว่าร้อยละ 4 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศทั้ง สหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวชัดเจน
ขณะที่ บีเอ็นพี พาริบาส์ วาณิชธนกิจชั้นนำของยุโรป ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์เศรษฐกิจและการเมืองไทย ขณะนี้ว่า การผ่านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหมือนประเด็นอ่อนแอทางการเมืองครั้งล่าสุด ซึ่งตอกย้ำส่งผลกระทบความรู้สึกของ นักลงทุนและผลที่เกิดขึ้นตามมากับเศรษฐกิจไทยนับตั้งแต่ปี 2543 และร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในวุฒิสภาขณะนี้ และแม้ว่าร่างพ.ร.บ.อาจยังไม่ได้ผ่านเป็นร่างกฎหมายในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า แต่ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้นำไปสู่การประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงเทพมหานคร พร้อมทำให้ตลาดหุ้นไทยตกลง เพราะร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวจะเปิดทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ลี้ภัยในต่างประเทศกลับสู่ประเทศไทยได้ ซึ่งผลที่ตามมาคือมีเสียงคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อต้านการผ่านร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว การเข้ามาของนักท่องเที่ยวลดลงต่ำกว่า มาตรฐานที่เคยทำได้ และอาจทำให้คาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้หายไป 0.2% และคาดการณ์การเติบโตจีดีพีปีหน้าหายไป 0.5%
ข่าวเด่น