เอสเอ็มอี
ก.วิทย์ ร่วมสภาอุตฯ เปิดโครงการคูปองนวัตกรรม 5,000 ล้าน ตั้งเป้ายกระดับเอสเอ็มอีไทยใน 3 ปี


 

 

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดตัว “โครงการคูปองนวัตกรรม 5,000 ล้าน” หวังมุ่งเน้นการสร้างความสามารถด้านนวัตกรรมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเอสเอ็มอีไทยพร้อมรองรับการก้าวสู่เออีซี

 

 

ดร. พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า “ในปี 2558 นี้ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น การสร้างขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และภาคการผลิตของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยนั้นจะเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ดังนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผลักดันการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาใช้ให้เกิดการลงทุนธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสร้างขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ให้ก้าวทันต่อการแข่งขันในประชาคมอาเซียน ซึ่งการดำเนินโครงการคูปองนวัตกรรมนี้จะเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะเกิดเครือข่ายความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมและต่อเนื่องของทวิภาคีที่สำคัญ คือ สนช. และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการร่วมรังสรรค์การพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมให้เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศ นอกจากนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังมีหน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาอีกหลายหน่วยงานที่พร้อมจะเป็นเครือข่ายสนับสนุนกระบวนการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมของผู้ประกอบการในอนาคต”

 

 

ดร. พรชัย รุจิประภา ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า “โครงการคูปองนวัตกรรม เป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาให้เกิดระบบพัฒนาโครงการนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย โดยจะกระตุ้นให้เกิดการร่วมรังสรรค์ระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย และผู้ให้บริการงานนวัตกรรม เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาโครงการนวัตกรรมที่มีความพร้อมสมบูรณ์ทั้งในแง่เทคโนโลยีและการตลาด และยังส่งผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในอนาคต ซึ่งโครงการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการดำเนินโครงการนวัตกรรม รวมถึงจะก่อให้เกิดการพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรมในทุกระดับอุตสาหกรรมทั้งระดับจังหวัด ภูมิภาค และประเทศ และยังจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ให้บริการงานนวัตกรรม และหน่วยงานจากภาครัฐฯ ในลักษณะของการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั่วประเทศอีกด้วย สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของโครงการคูปองนวัตกรรมในระยะที่ 1 ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2554 -มกราคม 2556 นั้น พบว่าประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในแง่การขยายการดำเนินงานด้านการพัฒนาและสนับสนุนโครงการนวัตกรรมของผู้ประกอบการทั่วประเทศซึ่งทำให้ สนช. ได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในโครงการคูปองนวัตกรรมจำนวนทั้งสิ้น 277 โครงการ แบ่งเป็น การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ จำนวน 37 โครงการ และการสร้างต้นแบบ จำนวน 240 โครงการ สามารถสร้างผู้ให้บริการงานนวัตกรรม ได้ทั้งสิ้น 832 ราย ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ประมาณ 10,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี”

 

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการคูปองนวัตกรรมเพื่อพัฒนาขีดความสามารถเอสเอ็มอีไปสู่ประชาคมอาเซียนระยะที่ 2 เพื่อสร้างให้เกิดความต่อเนื่องของการพัฒนานวัตกรรมของเอสเอ็มอีไทย ด้วยการเชื่อมโยงผลงานวิจัยที่มีอยู่ในประเทศไทยสู่กระบวนการทางการค้า เพื่อยกระดับขีดความสามารถเอสเอ็มอีไทย โดยการทำงานในโครงการระยะที่ 2 นี้ จะขยายขอบเขตให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านเงินทุน รูปแบบการดำเนินงาน กลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ประกอบการ มีระยะเวลาดำเนินงานครอบคลุม 3 ปี งบประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายในการสามารถสร้างธุรกิจนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ โดยบูรณาการภาครัฐและเอกชนตามศักยภาพพื้นที่ จำนวน 2,670 โครงการ สร้างมูลค่าเพิ่มจากภูมิปัญญาไทยสู่ระบบเศรษฐกิจและขยายฐานผู้เสียภาษีเงินได้ เป็นมูลค่า 150,000 ล้านบาท และสามารถพัฒนาขีดความสามารถเอสเอ็มอีไทยสู่เออีซี จำนวน 200 ราย รวมถึงการสร้างให้เกิดผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของระบบนวัตกรรม อาทิ เอสเอ็มอีไทยจำนวนไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม และร้อยละ 20 ของเอสเอ็มอีไทยสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดเชิงพาณิชย์เข้าสู่ตลาดในอาเซียนและระดับสากล มีการจ้างงานบุคลากรที่จะเข้าสู่กิจกรรมด้านนวัตกรรมเพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า 21,300 คน พร้อมทั้งมีผู้ให้บริการด้านนวัตกรรม ในระบบนวัตกรรมของภูมิภาคไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในภาคอุตสาหกรรม จำนวนไม่ต่ำกว่า 2,670 ผลิตภัณฑ์ภายใน 3 ปี”

 

 

นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่า “การดำเนินโครงการคูปองนวัตกรรมในระยะที่ 2 นี้จะมุ่งเน้นการสร้างความสามารถด้านนวัตกรรมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเอสเอ็มอีไทยพร้อมรองรับการก้าวสู่เออีซี ภายใต้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ การสนับสนุนในรูปแบบคูปองนวัตรรม (Innovation Coupon) จำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ การลงทุนใหม่ ตลาดใหม่ บริการใหม่ และการต่อยอดเทคโนโลยี การสร้างเครือข่ายนวัตกรรมและระบบการจับคู่ธุรกิจ (Innovation Service Provider Network) จำนวน 270 ล้านบาท ระหว่างผู้เชี่ยวชาญบริการงานนวัตกรรมที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้วกับ สนช. และ ส.อ.ท. และการแสวงหานวัตกรรมที่มีอยู่แล้วจากต่างประเทศ (Innovation Acquisition Service) จำนวน 130 ล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยงในการทำนวัตกรรม ลดต้นทุนด้านเวลาและการลงทุน ซึ่งทั้ง 3 กิจกรรมจะก่อให้เกิดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ ไทย ในการค้นหาและพัฒนาโครงการนวัตกรรมได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบมากขึ้น เพราะแนวทางนี้จะเน้นให้เกิดการใช้นวัตกรรมแบบเปิด และการสร้างเครือข่ายของผู้เชี่ยวชาญบริการนวัตกรรม เพื่อให้เกิดการพัฒนาโครงการนวัตกรรมได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น”

 


LastUpdate 07/11/2556 15:30:52 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 10:09 pm