ส่วนประชาสัมพันธ์ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า จากข่าวที่ลูกค้าธนาคารถูกถอนเงินจากบัญชีนั้น เป็นกรณีของ ATM Skimming คือ การที่คนร้ายเอาอุปกรณ์มาติดที่ตู้บริเวณที่เสียบบัตรเพื่อคัดลอกข้อมูลแถบแม่เหล็กเพื่อไปทำบัตรปลอม และนำไปถอนเงินในต่างประเทศ ซึ่งปกติเป็นแกงค์ต่างชาติ โดยครั้งนี้มีบัตรของธนาคารต่างๆที่ได้รับผลกระทบ 5 ธนาคาร ในส่วนของธนาคารกสิกรไทยเป็นจำนวนบัตรเดบิตที่ถูกทุจริต 117 บัตร ในจำนวนนี้ 38 ราย ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 270,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้ทั้งหมดธนาคารกสิกรไทยในฐานะธนาคารผู้ออกบัตรจะเป็นผู้รับผิดชอบชดเชยให้กับลูกค้า พร้อมกันนี้ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการนำภาพคนร้ายที่บันทึกได้จากตู้ ATM ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามต่อไป
เมื่อ 5 ปีที่แล้วก็เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซึ่งทุกธนาคารได้มีการติดเครื่องมือป้องกันแล้วโดยเรื่องนี้เป็นปัญหาของทุกธนาคาร ซึ่ง vendor ก็ต้องมีหน้าที่กลับไปหามาตรการหรืออุปกรณ์ในการป้องกันใหม่โดยทุกธนาคารก็มีข้อตกลงร่วมกันในการช่วยกันสอดส่องดูแลและแจ้งความเคลื่อนไหวทางบัญชีผ่าน SMS ดังนั้น หากลูกค้าพบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติให้รีบแจ้ง call center ของธนาคารเพื่ออายัดบัตร และแจ้งความทันที
ทุกธนาคารให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยธนาคารขอยืนยันและให้ความมั่นใจว่ากรณีเกิดความเสียหายในลักษณะดังกล่าวธนาคารเจ้าของบัตรจะเป็นผู้รับผิดชอบให้
สมาคมธนาคารได้เคยแจ้งเตือนให้ประชาชนที่มีบัตร ATM ให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้เพื่อป้องกันการถูกลักลอบขโมยข้อมูลบนแถบแม่เหล็กและรหัสประจำบัตร โดยกลุ่มมิจฉาชีพจะใช้วิธีการนำอุปกรณ์มาครอบช่องเสียบบัตร และใช้วิธีซ่อนกล้องถ่ายภาพขนาดเล็กไว้บริเวณใกล้ตู้ ATM หรือยืนด้านหลังผู้ที่กำลังทำรายการ
ดังนั้น ธนาคารขอแนะนำลูกค้าดังนี้คือ
1. ใช้มือบังแป้นคีย์บอร์ดขณะกดรหัส
2. ธนาคารขอแนะนำให้ลูกค้าสมัครบริการแจ้งความเคลื่อนไหวทางบัญชีผ่าน SMS ซึ่งธนาคารส่วนใหญ่มีให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถทราบความเปลี่ยนแปลงทางบัญชีได้อย่างรวดเร็ว
ข่าวเด่น