ยังคงเดินหน้าเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องสำหรับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น นอกจากจะปักธงยึดทำเลของตามแหล่งชุมชนไว้ได้ทั้งหมดแล้ว ยังเดินหน้ายึดทำเลทองของคอนโดมิเนียมชื่อดัง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอีกด้วย
ปัจจัยที่ทำให้ร้านเซเว่นฯหันมาให้ความสำคัญกับการเปิดสาขาใหม่ทำทำเลคอนโดมิเนียมชื่อดัง ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มของคอนนโดมิเนียมที่นับวันจะมีคอนโดเกิดใหม่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดโดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้า
จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าตลาดคอนโดมิเนียมกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงที่เหลือปี 2556 ผู้ประกอบการยังคงแผนการลงทุนโครงการใหม่ต่อเนื่อง โดยคาดว่าทั้งปี 2556 นี้จะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่เข้าสู่ตลาดประมาณ 62,500 – 65,500 หน่วย เพิ่มขึ้น 4.9-9.9% จากปี 2555
ขณะที่จำนวนคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จในกรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 2556 จะมีจำนวนประมาณ 80,000-85,000 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีประมาณ 78,391 หน่วย และคาดว่าในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า จำนวนคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจะยังทยอยเข้าสู่ตลาดในระดับสูง
แนวโน้มการขยายตัวดังกล่าวจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมล่าสุด บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ถึงได้ตัดสินใจจับมือกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) นำร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เข้าไปเปิดให้บริการภายในโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะ เบส” ของบริษัท แสนสิริ
นายธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น กล่าวว่า การจับมือร่วมกับบริษัท แสนสิริ เพื่อนำร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเข้าไปเปิดให้บริการในครั้งนี้ ถือเป็นการอำนวยความสะดวกและตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตให้แก่ลูกบ้านในโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะ เบส”
สำหรับโครงการนำร่องที่จะนำร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเข้าไปเปิดให้บริการ คือ โครงการ “เดอะ เบส สุขุมวิท77” และมีแผนจะทยอยเปิดตัวในคอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะ เบส ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล หลังจากนั้นจะนำร้านเซเว่นฯ เข้าไปเปิดในโครงการต่างจังหวัด
ก่อนหน้าที่บริษัท ซีพี ออลล์ จะปักธงนำร้านเซเว่นอีเลฟเว่นบุกคอนโดมิเนียมของบริษัท แสนสิริ ก็เคยจับมือร่วมกับบริษัทบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) นำร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเข้าไปเปิดให้บริการภายในโครงการคอนโดมิเนียมของแอลพีเอ็นมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา
หลังจากบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) กับบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือกันเมื่อปีที่ผ่านมาก็นำร้านเซเว่นเข้าลุยในคอนโดมิเนียมโครงการต่างๆ ทันที
นอกจากนี้ ขยายความร่วมมือให้ซีพีออลล์บริหารพื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์ภายในโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น ลุมพินี พาร์ค ทำเลสุขสวัสดิ์ ลุมพินีทาวน์ชิพ รังสิตคลอง 1 และลุมพินีเพลส ยูดี-โพศรี จังหวัดขอนแก่น ซึ่งจะมีการกันพื้นที่เพื่อก่อสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ขนาด 4-5 ไร่ และในแต่ละโครงการยังจะใช้เป็นทำเลขยายร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งนอกจากจะบุกคอนโดมิเนียมโครงการใหม่แล้วบริษัท ซีพี ออลล์ยังมีแผนที่จะยึดคอนโดมิเนียมโครงการเก่าของบริษัท แอล.พี.เอ็น. เพื่อนำร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเข้าไปเปิดให้บริการอีกด้วย
จากการขยายตัวของโครงการคอนโดมิเนียมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าบริษัท ซีพี ออลล์คงส่งทีมเข้าไปศึกษาเตรียมยึดเป็นทำเลต่อไปในการนำร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเข้าไปเปิดให้บริการอีกหลายโครงการ อย่างน้อยในปี 2557 น่าจะเห็นบริษัท ซีพี ออลล์ จับมือกับพันธมิตรอีก 1 โครงการ
สำหรับภาพรวมแผนการลงทุนเชิงรุกของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ในปีนี้บริษัท ซีพี ออลล์ ได้เตรียมงบไว้กว่า 6,500 ล้านบาท เพื่อใช้เปิดสาขาใหม่ประมาณ 550 สาขา เพิ่มขึ้นจากทุกปีที่ผ่านมาที่จะเปิดร้านใหม่เพียง 500 สาขา เป็น 550 สาขา
นอกจากนี้ ยังจะใช้งบส่วนหนึ่งในการปรับปรุงสาขาเก่า ก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้า (ดีซี) 2 แห่งที่จังหวัดชลบุรีและสมุทรสาคร ไม่นับรวมการสร้างศูนย์ย่อยทั่วประเทศ และยกเครื่องระบบไอที เพื่อรองรับจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอีก 7 ปีข้างหน้า บริษัท ซีพี ออลล์ วางเป้าหมายจะขยายสาขาร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ให้ครอบคลุมทั้งหมด 691 อำเภอ จากทั้งหมด 928 อำเภอ หรือคิดเป็น 75% ของพื้นที่ชุมชนทั่วประเทศ
ทั้งนี้ หากนำร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมาเทียบกับประเทศในเครือข่ายแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่นทั่วโลก จำนวน 48,097 สาขา ประเทศที่มีจำนวนสาขามากสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย ญี่ปุ่น 14,579 สาขา สหรัฐอเมริกา 7,558 สาขา ไทยอยู่ในอันดับ 3 จำนวน 6,822 สาขา ตามด้วยเกาหลีใต้ 6,621 สาขา และไต้หวัน 4,830 สาขา
ในด้านของจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ปัจจุบันร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในประเทศไทย มีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการสูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ 1,426 คนต่อร้านต่อวัน รองลงมาได้แก่ ญี่ปุ่น 1,052 คนต่อร้านต่อวัน ไต้หวัน 990 คนต่อร้านต่อวัน สหรัฐอเมริกา 920 คนต่อร้านต่อวัน และเกาหลีใต้ 344 คนต่อร้านต่อวัน
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นตลอดระยเวลา 25 ปีที่ผ่านมา มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ เพราะสามารถขยายสาขาได้อย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับการขยายตัวของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในประเทศอื่น ๆ
จากจำนวนสาขาที่ปัจจุบันสามารถขยายได้มากกว่า 7,000 แห่ง ส่งผลให้ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นอันดับ 3 รองจากญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และจากจำนวนสาขาที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องส่งผลให้บริษัท ซีพี ออลล์ จะขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ได้ในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน
สำหรับแผนการลงทุนในอีก 3 ปี นับจากนี้ บริษัท ซีพี ออลล์ วางเป้าหมายไว้ว่าจะขยายสาขาให้ครบ 10,000 สาขา โดยมีจุดแข็งอยู่ที่ความแข็งแกร่งของทีมผู้บริหาร และการศึกษาทำเลที่มีศักยภาพ เพื่อจับจองพื้นที่และเข้าไปทำการเปิดสาขา
การออกมาเปิดแผนยึดทำเลทองขยายไปยังช่องทางต่างๆ เชื่อว่ายังคงจะมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเม็ดเงินลงทุนที่หนา ส่งผลให้บริษัท ซีพีออลล์ สามารถเข้าไปจับจองทำเลศักยภาพไว้ได้ก่อน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการบล็อคคู่แข่งฝ่ายตรงกันข้ามไม่ให้เข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาด
จากจำนวนคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบคอนวีเนียนสโตร์เป็นกลุ่มธุรกิจเดียวในปีนี้ที่มีการขยายตัวดีที่สุด เมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกประเภทอื่นๆ ที่ค่อนข้างชะลอตัว ยิ่งพากันออกแคมเปญสะสมสแตมป์ สติ๊กเกอร์ยิ่งทำให้ธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์มีความคึกคักมากขึ้น
ข่าวเด่น