บลจ.ธนชาต ชี้ทิศทางหุ้นไทยผันผวนหลายปัจจัย แนะกระจายลงทุนหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะกองทุนเปิดธนชาต Global Equity Fund มีความยืดหยุ่นสร้างผลตอบแทนดี ขณะเดียวกันเสนอขาย 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 6M44 (TFI6M44) ระยะเวลาลงทุนประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.00% เสนอขายครั้งเดียวระหว่างวันนี้ – 18 พฤศจิกายน 2556 และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#3 (TFIX-3M#3) รอบการลงทุนประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 2.75% ต่อปี รับคำสั่งซื้อ – ขาย วันที่ 13 - 15 พฤศจิกายน 2556
นายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เผยถึงมุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นว่า ช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเกิดความผันผวน ขณะที่ตลาดหุ้นในต่างประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น การเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่ง บลจ. ธนชาต มองว่าหุ้นต่างประเทศจะดีขึ้นเรื่อยๆ จากระดับผลตอบแทนต่ำมากมาเป็นระดับผลตอบแทนปกติ และที่สำคัญความเสี่ยง ความผันผวนลดลงด้วย จากระดับสูงมากหลายปีก่อน จากความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจแบบแรงๆ มาเป็นแบบคลี่คลายลง ความกังวลลดลง ความเชื่อมั่นดีขึ้น หุ้นต่างประเทศแนวโน้มผลตอบแทนเฉลี่ยจะยกตัวสูงขึ้นกว่าในอดีต ขณะที่ความผันผวนหรือความเสี่ยงลดลง
สำหรับการลงทุนในหุ้นไทยจากผลตอบแทนที่ในระดับสูงมากๆ หลายปีก่อน กำลังมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ความเสี่ยง หรือความผันผวนที่ต่ำในช่วงตลาดดีเปลี่ยนมาเป็นความผันผวนสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม บลจ.ธนชาต จึงอยากแนะนำผู้ลงทุนว่า การลงทุนหุ้นในระยะยาวถือว่ายังลงทุนต่อไปได้ แต่อยากให้กระจายการลงทุนไปต่างประเทศมากขึ้น จะช่วยคานผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีขึ้น และหุ้นไทยกับหุ้นต่างประเทศสัมพันธ์กันน้อยลงกว่าช่วงที่เศรษฐกิจโลกวุ่นวาย ซึ่งดีเพราะจะยิ่งช่วยกระจายความเสี่ยง
"มุมมองเชิงบวกตลาดหุ้นไม่เปลี่ยนไปจากเดิม หุ้นยังเป็น Asset class ที่ดีที่สุดเทียบกับสินทรัพย์อย่างอื่น แต่อาจไม่ได้ให้ผลตอบแทนสูงมากๆ ประเภท 20-30% ต่อปี แต่ดีพอประมาณในช่วง 5-15% แล้วแต่ตลาด" นายตระกูลจิตร กล่าว
นายตระกูลจิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยเกิดความผันผวน ไม่ใช่แค่ปัญหาการเมืองในประเทศมากระทบ แต่โมเมนตั้มเศรษฐกิจของเรามันชะลอลง สิ่งดีๆ แต่มีอีกหลายตลาดที่แม้ไม่ได้ดีมาก แต่มีแนวโน้มดีขึ้นหรือมีเสถียรภาพมากขึ้น หรือมีราคาหุ้นต่อผลกำไรที่ถูกลง ก็มีโอกาสจะดึงเม็ดเงินลงทุนจากตลาดเราได้มากขึ้น
บลจ.ธนชาต จึงขอแนะนำกองทุนเปิดธนชาต Global Equity Fund (T-GlobalEQ) ที่ลงทุนในต่างประเทศมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งกองทุนดังกล่าวสามารถไปลงทุนภูมิภาคไหนก็ได้ที่มีโอกาส อยู่ที่มุมมองของ บลจ.ธนชาต มันจึงยืดหยุ่นมากพอที่จะลงทุนไปเรื่อยๆ ในระยะยาว
ทั้งนี้ กองทุนเปิดธนชาต Global Equity Fund รวมไปถึงกองทุน T-GlobalEQRMF ซึ่งอยู่ในระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งกองทุนจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยมีลักษณะการลงทุนกองทุนตราสารทุนและกองทุนรวม ETF ต่างประเทศที่มีการกระจายไปในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โดยมีแนวคิดการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ หรือกองทุนรวม ETF ตราสารทุนต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยสามารถลงทุนได้ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก หรือในบางช่วงเวลาอาจเน้นลงทุนเฉพาะประเทศ กลุ่มประเทศ ภูมิภาค หรือกลุ่มธุรกิจก็ได้ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 กองทุนเปิดธนชาต Global Equity Fund ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนที่ 4.37%, YTD 19.35% และตลอดทั้งปี 2555 ผลตอบแทนย้อนหลังที่ 12.54%
ล่าสุด บลจ.ธนชาต จะทำการเสนอขาย กองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 6M44 (TFI6M44) ระยะเวลาลงทุนประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี มีเป้าหมายลงทุนในเงินฝากของ Bank of China / First Gulf Bank ประมาณ 22% ลงทุนในเงินฝากของ Abu Dhabi Commercial Bank / Union National Bank ประมาณ 20% ลงทุนในหุ้นกู้ระยะสั้นของ ธ.เกียรตินาคิน / ธ.ทิสโก้ ประมาณ 24% ลงทุนในตั๋วแลกเงินของ บจ.ลีสซิ่ง ไอซีบีซี (ไทย) / หุ้นกู้ระยะสั้นของ บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส ประมาณ 24% และลงทุนในตั๋วแลกเงินที่ออกโดย บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง / บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง ประมาณ 10% อายุประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนรวมของตราสารประมาณ 3.2578% ต่อปี โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.2578% ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุนจะป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนสำหรับมูลค่าตราสารหนี้ต่างประเทศที่กองทุนลงทุน โดยกองทุนจะเสนอขายครั้งเดียววันนี้ - 18 พฤศจิกายน 2556
และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#3 (TFIX-3M#3) รอบการลงทุนประมาณ 3 เดือน และสามารถลงทุนได้ต่อเนื่องประมาณ 3 เดือนต่อรอบ ผลตอบแทนประมาณ 2.75% ต่อปี มีเป้าหมายลงทุนในตั๋วแลกเงิน / เงินฝากประจำ ธ.ไอซีบีซี (ไทย) / เงินฝากประจำ ธ.ออมสิน ประมาณ 20% ลงทุนในตั๋วแลกเงิน / เงินฝากประจำ ธ.ทิสโก้ / ธ.ธนชาต ประมาณ 24% ลงทุนในหุ้นกู้ระยะสั้น ธ.กรุงศรีอยุธยา / ตั๋วแลกเงิน บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ ประมาณ 24% ลงทุนในตั๋วแลกเงิน บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส / บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) ประมาณ 24% ลงทุนในหุ้นกู้ระยะสั้น บจ.ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) / บจ.โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ประมาณ 7.90% และลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศประมาณ 0.10% อายุประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนรวมของตราสารประมาณ 2.9085% ต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.1585% ต่อปี รับคำสั่งซื้อ–ขาย วันที่ 13 - 15 พฤศจิกายน 2556
ข่าวเด่น