จากจำนวนผู้เล่นในตลาดที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่เริ่มแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น จากเดิมจะมีผู้เล่นรายหลักเพียง 2 ราย คือ สปอนเซอร์ และเอ็มสปอร์ต แต่ปัจจุบันเริ่มมีผู้เล่นรายใหม่อย่างแบรนด์ ซันโว ของบริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น จำกัด และแบรนด์ วันฮันเดรตพลัส ของเอฟแอนด์เอ็น ในเครือบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ เข้ามาทำตลาด จึงทำให้ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่มีความคึกคัก
แม้ว่าผู้เล่นอีกหนึ่งราย คือ วันฮันเดรตพลัส ของเอฟแอนด์เอ็น จะยังไม่ออกมาทำตลาดอย่างจริงจังในปีนี้ แต่จากแผนการดำเนินธุรกิจของเอฟแอนด์เอ็นที่มีแนวโน้มว่าส่งจะสินค้าดังกล่าวเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังในปีหน้า ส่งผลให้ผู้นำตลาดอย่างแบรนด์สปอนเซอร์ต้องออกมาปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ เพื่อรับมือกับผู้เล่นรายใหม่ที่จะเข้ามาบุกตลาด
อีกปัจจัยที่ทำให้ แบรนด์สปอนเซอร์ ต้องออกมาปรับแผนการทำตลาดนอกจากตัวผู้เล่นรายใหม่ คือ กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ภายหลังได้รับปัจจัยลบจากปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง หลังจากก่อนหน้านี้กำลังซื้อของผู้บริโภคก็เริ่มชะลอตัว เพราะปัญหาค่าค่าครองชีพเพิ่มขึ้น จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นรอบด้าน จึงเป็นเหตุผลให้เจ้าตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่อย่างสปอนเซอร์ ต้องออกมาป้องบัลลังค์และเพิ่มยอดขายในกระเป๋า
นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ บริษัท กระทิงแดง จำกัด กล่าวว่า จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นในปีนี้บริษัท คาดว่าคงจะทำให้ยอดขายเครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์เติบโตได้เพียง 9% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 12% เนื่องจากเหลือระยะเวลาอีกเพียง 2 เดือนให้ทำตลาดในปีนี้ ซึ่งตอนนี้กำลังซื้อของผู้บริโภคได้ปรับลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับค่าครองชีพของผู้บริโภคก็ปรับเพิ่มสูงขึ้น เพราะมีภาระผ่อนรถคันแรก และใช้เงินส่วนหนึ่งไปกับการซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ เช่น มือถือ และแท็บเล็ต รวมถึงการที่ผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดที่เน้นใช้กลยุทธ์ราคา เพื่อสร้างแบรนด์และกระตุ้นยอดขาย จึงทำให้ยอดขายของบริษัทชะลอตัวไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่า ภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ในปีนี้อาจเติบโตไม่ถึง 2 หลักเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังจากก่อนหน้านี้ทุกปีตลาดเครื่องดื่มเหลือแร่จะมีอัตราการเติบโตมากว่า 10% ทุกปี ส่งผลให้ปัจจุบันตลาดรวมเครื่องดื่มเกลือแร่มีมูลค่ากว่า 4,400 ล้านบาท ซึ่งสปอนเซอร์ยังคงเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 80%
นายสานิต กล่าวว่า ในปีหน้าคาดว่าสถานการณ์ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่จะยังมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากจะผู้เล่นรายใหม่เข้าตลาดจริงจัง หนึ่งในนั้นคือ แบรนด์วันฮันเดรดพลัส ของเอฟแอนด์เอ็น นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีผู้เล่นอีกหลายรายให้ความสนใจเข้ามาทำตลาด ซึ่งจากการแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าวอาจส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่กลับมามีอัตราการเติบโตที่ดีอีกครั้ง
จากแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทกระทิงแดงต้องออกมาประกาศเกมรุก เพื่อรับมือน้องใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาด ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์การเปิดเกมรุก คือ การพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่เข้าทำตลาด เพื่อให้ก้าวทันตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่ ด้วยการเปลี่ยนโฉมเครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ใหม่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ใหม่ SLEEK CAN รูปทรงผอมเพียว เพื่อสร้างความพึงพอใจและสะดุดตาผู้ผู้บริโภครุ่นใหม่
นายสานิต กล่าวต่อว่า สปอนเซอร์ SLEEK CAN ถือเป็นนวัตกรรมของบรรจุภัณฑ์ประเภทกระป๋องแบบใหม่ล่าสุด สามารถลดปริมาณการใช้อลูมิเนียมได้น้อยลง เมื่อเทียบกับกระป๋องที่มีปริมาณเท่ากัน เนื่องจากมีการลดความหนาของอลูมิเนียมที่นำมาใช้ผลิตกระป๋อง สามารถช่วยลดขยะที่เกิดจากอลูมิเนียมได้ ซึ่งบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบดังกล่าวเครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ได้บุกเบิกนำมาทำตลาดในประเทศไทยเป็นรายแรก และเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่
นอกจากนี้ เครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ ยังเปิดเกมกระตุ้นการรับรู้ผลิตภัณฑ์รูปโฉมใหม่ ด้วยการใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท จัดกิจกรรมท้านักปั่นทั่วประเทศร่วมปั่นจักรยานทางไกลกรุงเทพฯ –หัวหิน และกิจกรรมประกวดงานศิลปะเชิงสร้างสรรค์ จากกระป๋องสปอนเซอร์ SLEEK CAN เพื่อชิงเงินรางวัลกว่า 100,000 บาท ซึ่งในส่วนของนักปั่นที่เข้าร่วมงาน หากนำกระป๋องสปอนเซอร์จำนวน 95 กระป๋องมาบริจาคในงาน จะได้รับชุดกิ๊ฟเซ็ตจากเครื่องดื่มสปอนเซอร์กลับบ้านไปด้วย
การหันมาสนับสนุนกีฬาจักรยานถือเป็นครั้งแรกของการทำกิจกรรมทางการตลาดของเครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ เนื่องจากก่อนหน้านี้จะเน้นการเป็นผู้สนับสนุนกีฬาฟุตบอลเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกีฬาฟุตบอล นายสานิต กล่าวว่า ยังคงให้การสนับสนุนเหมือนเดิม โดยเฉพาะการแข่งขันของฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งปัจจุบันบริษัทเข้าเป็นผู้สนับสนุนในทีมต่างๆ แล้วกว่า 50% จากจำนวนทีมแข่งขันทั้งหมด
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทนับจากนี้ จะหันมาพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง หลังจากล่าสุดได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์กระป๋องรูปแบบใหม่ SLEEK CAN ในขนาด 325 มล. เข้าทำตลาด ซึ่งในส่วนของราคาขายยังคงไว้ที่ราคาเดิมคือ 12 บาท ขณะที่บรรจุภัณฑ์แบบขวดแก้วขนาด 250 มล.ยังคงราคาไว้ที่ 10 บาท และขวดพีอีทีขนาด 350 มล. คงราคาไว้ที่ 15 บาท
ส่วนงบการทำตลาดในปีหน้า นายสานิต กล่าวว่า อยู่ระหว่างการดูสถานการณ์และวางแผน แต่คาดว่าจะใช้เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่ใช้ไปประมาณ 500 ล้านบาท เนื่องจากมีผู้เล่นในตลาดมากขึ้นส่งผลให้การแข่งขันรุนแรง ประกอบกับจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งในส่วนของบรรจุภัณฑ์และรสชาติใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 รสชาติ คือ รสดั้งเดิม รสมะนาว และรสส้ม
ขณะที่ผู้นำตลาดออกมาประกาศแผนเชิงรุก เชื่อว่าผู้เล่นรายรองคงเตรียมแผนเพื่อรับมือน้องใหม่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเอ็มสปอร์ต หรือซันโว ซึ่งในส่วนของเครื่องดื่มเกลือแร่ภายใต้แบรนด์ ซันโว ก่อนหน้านี้ได้ออกมาชูจุดขายด้วยรสชาติที่อร่อยถูกใจผู้บริโภคจำนวน 2 รสชาติ ที่ทดสอบแล้วพบว่ากว่า 80 % มีความชื่นชอบ และพร้อมที่จะซื้อเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรสมิกซ์ฟรุต (สีเหลือง) ที่มาพร้อมด้วยรสชาติของผลไม้รวมหลายชนิด สร้างความสดชื่นและถูกใจผู้บริโภคมากที่สุด หรือรสมิกซ์เบอร์รี่ (สีแดง) เป็นรสชาติและสีใหม่ในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ เป็นการรวมรสชาติของผลไม้ตระกูลเบอรี่ มีกลิ่นที่หอมหวาน ที่จะสร้างความสดชื่น ที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน
ทั้ง 2 รสชาติ ที่ บริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น ออกมาเปิดตัวเข้าทำตลาด การันตีด้วยการได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่าเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่ 100% ขณะที่กลุ่มเป้าหมายหลักที่ต้องการเข้าไปทำตลาดก็มีด้วยกัน 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มผู้เสียเหงื่อจากการทำงานในสถานที่อากาศร้อน หรือกลางแจ้ง คิดเป็นอัตราส่วน 70% และกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย คิดเป็นสัดส่วน 30%
นอกจากนี้ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ยังได้เลือกฮีโร่นักชกขวัญใจคนไทยและแฟนมวยทั่วโลกอย่าง “บัวขาว” สมบัติ บัญชาเมฆ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกให้กับเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว เพื่อสื่อถึงความเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่ พร้อมทั้งสร้างสีสันและความคึกคักให้แก่ตลาด ซึ่งหลังจากดึงบัวขาวมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น มั่นใจว่า บัวขาว จะสามารถนำสินค้าเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ที่เสียเหงื่อจากการทำงานในสถานที่ที่อากาศร้อนหรือกลางแจ้ง หรือผู้ที่นิยมการออกกำลังกาย รวมถึงผู้บริโภคทั่วๆ ไปที่ต้องการความสดชื่นเมื่อร่างกายสูญเสียน้ำ
นายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการสายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ นอน-แอลกฮอล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทนับจากนี้ จะให้ความสำคัญกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มนอน-แอลกอฮอล์มากขึ้น ด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้ลงทุนในส่วนของโรงงานสามเสนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อเพิ่มไลน์การผลิตเครื่องดื่มเกลือแร่ โดยมีกำลังผลิตอยู่ที่ 12 ล้านลิตรต่อปี เพราะเล็งเห็นโอกาสของตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ที่มีแนวโน้มเติบโตและมีคู่แข่งน้อย
การเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ “ซันโว” เข้าทำตลาด ถือเป็นการฉลองครบรอบ 80 ปีของสิงห์ และรองรับการเข้ามาทำตลาดของค่ายคู่แข่งอย่างเอฟแอนด์เอ็น ที่มีกระแสข่าวว่าจะนำผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนอน-แอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ “100 พลัส” เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ซึ่งหลังจากเปิดตัวเครื่องเกลือแร่ซันโวเข้าทำตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น คาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดในปีแรกอยู่ที่ประมาณ 20%
ขณะที่แต่ละผู้ประกอบการในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ต่างออกมาประกาศแผนเชิงรุก ในส่วนของเครื่องดื่มเกลือแร่ภายใต้แบรนด์เอ็มสปอร์ต ยังคงซุ่มทำตลาดแบบเงียบตามสไตล์ของบริษัทโอสถสภา แต่ถึงแม้ว่าจะทำการตลาดแบบไม่โจ่งแจ้ง แต่เครื่องดื่มเอ็มสปอร์ตก็สามารถยึดส่วนแบ่งการตลาดจากเครื่องดื่มสปอนเซอร์มาครองได้ถึง 15% ส่งผลให้ปัจจุบันสปอนเซอร์มีส่วนแบ่งการตลาดเหลือเพียง 80% ส่วนที่เหลืออีก 5% เป็นของแบรนด์เล็กๆ ในตลาด
จากการออกมาเปิดเกมรับน้องใหม่กันอย่างพร้อมเพรียง คาดว่าปีหน้าตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่คงมีความคึกคักมากกว่าปีนี้
ข่าวเด่น