
ความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองเป็นเรื่องดี แต่ถ้าข้ามเส้นไปเป็นความหลงตัวเองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ ทีมฟุตบอลชายทีมชาติอังกฤษ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นนักเตะ ผู้จัดการทีม หรือผู้บริหาร มั่นใจหรือพยายามมั่นใจว่าพวกเขาเก่งในระดับลุ้นแชมป์ฟุตบอลโลก ซึ่งไม่ใช่เพิ่งเป็นในศึกฟุตบอลโลก 2014 แต่เป็นมาตลอดตั้งแต่มีทีมชาติอังกฤษ โดยเฉพาะนับตั้งแต่ที่พวกเขาคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 1966 ซึ่งตัวเองเป็นเจ้าภาพ (แถมยังได้แชมป์โลกแบบมีข้อกังขาอีกต่างหาก) นับจากนั้นมาพวกเขาก็ไม่เคยเฉียดเข้าใกล้ถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกอีกเลย เพราะแม้แต่รอบชิงชนะเลิศก็ไม่เคยไปถึงอีก แต่คนอังกฤษยังมีความเชื่อฝังดีเอ็นเอว่าทีมชาติของพวกเขาคือทีมที่ยิ่งใหญ่ ที่ไม่ได้แชมป์โลกเพราะโชคร้ายเท่านั้น
ยิ่งพวกเขามีลีกที่ประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ยิ่งทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นว่าจะประสบความสำเร็จในระดับทีมชาติ ทั้งที่น่าจะเป็นในทางตรงข้าม เพราะในลีกสูงสุดของอังกฤษตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 มาจนถึงปัจจุบันเต็มไปด้วยผู้เล่นต่างชาติ นักเตะอังกฤษระดับสุดยอดมีให้เห็นไม่มาก ผู้เล่นระดับเยาวชนแทบไม่มีโอกาสได้เจริญเติบโต
นอกประเทศอังกฤษมีไม่มากนักที่เชื่อน้ำยาทีมสิงโตคำราม เพราะไม่เคยทำผลงานให้น่าประทับใจ หรือแสดงให้เห็นว่ามีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเลย แต่ดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบความเชื่อมั่น (หลงตัวเอง) ของแฟนบอลอังกฤษ
งานนี้คงเป็นเรื่องที่นักเตะและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับทีมชาติอังกฤษจะต้องพิสูจน์ว่าในฟุตบอลโลกปี 2014 พวกเขาจะทำได้ดีแค่ไหน แต่ต้องขอบอกว่าความเชื่อมั่นของชาวอังกฤษที่จะคว้าแชมป์โลกไม่ต่างอะไรจากความเชื่อมั่นว่ามีเลขเด็ดที่จะถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง
ข่าวเด่น