“กันไว้ ดีกว่าแก้” เป็นสุภาษิตเก่าแก่ ที่มีความหมายชัดเจนอยู่ในตัวว่า ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท รู้จักการป้องกันไว้ก่อน ย่อมดีกว่าการตามแก้ไขหลังจากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว
เช่นเดียวกับการเกิดโรคร้ายที่ หากเราดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและใส่ใจตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ย่อมหมายถึง ความสามารถป้องกันได้หรือหากเป็นโรค ก็จะพบได้เร็ว ซึ่งจะมีผลต่อประสิทธิภาพในการรักษาให้มีโอกาสหายได้ อันจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่จะตามมาและเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในการดำเนินชีวิตอยู่ต่อไป
ดูแลโดยแพทย์เฉพาะทาง-แพทย์ทางเลือก
“โรงพยาบาลนครธน” ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนพระรามที่ 2 (ใกล้กับเซ็นทรัล พระราม 2) นับเป็นโรงพยาบาลที่ให้ความสำคัญและยึดการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรคเป็นโจทย์หลักและหลังจากเดินหน้าพัฒนาศูนย์การแพทย์หลายอย่างและเทคโนโลยีการบำบัดรักษาให้สมบูรณ์พร้อมยิ่งขึ้น
โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโรงพยาบาลนครธนได้เปิดศูนย์หลายแห่ง ทั้งศูนย์หัวใจ ศูนย์ทันตกรรม ศูนย์เด็กหลอดแก้ว ศูนย์หูคอจมูกดวงตา รถโมบาย CCU 1 คัน ภายในมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตเหมือนโรงพยาบาลเคลื่อนที่และศูนย์ CCU เป็นต้น
นพ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร (กลาง)
ล่าสุดได้เปิดตัว “ศูนย์สุขภาพนครธนอายุวัฒนา” ที่เน้นการดูแลสุขภาพให้ดีไม่ต้องรอเจ็บป่วยด้วยการแพทย์แบบองค์รวมอย่างครบวงจรในหนึ่งเดียว หรือแบบ One Stop Service
ทั้งนี้การดูแลสุขภาพแบบ One Stop Service ในที่นี้มาจากการยกชั้น 11 ทั้งชั้นของโรงพยาบาลให้กับศูนย์แห่งนี้ ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 1,500 ตารางเมตร โดยใช้งบประมาณเพื่อปรับปรุง ซื้ออุปกรณ์เครื่องมือและคัดสรรบุคลากรผู้เชี่ยวชาญรวม 26 ล้านบาท
จุดเด่นของศูนย์สุขภาพนครธนอายุวัฒนา คือ การบริการตรวจสุขภาพแบบบูรณาการ ครบครันทุกขั้นตอน ทั้งการตรวจวินิจฉัย ให้คำปรึกษาและแนะนำทั้งก่อนและหลังการตรวจ ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์เฉพาะทางซึ่งเป็นแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือกผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เพื่อหาความเสี่ยงการเกิดโรคในเบื้องต้นรวมเรียกว่า “การแพทย์ทางร่วม” เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถป้องกัน หลีกเลี่ยง หรือรักษาโรคร้ายได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ยังมีการตรวจสุขภาพแบบเจาะลึกถึงระดับพันธุกรรมเฉพาะบุคคลที่ให้ผลแม่นยำและละเอียดมากยิ่งขึ้น
รศ.ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริหารของโรงพยาบาลฯ เปิดเผยว่า “ เชื่อมั่นว่า การป้องกัน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน มากกว่าเน้นรักษาเมื่อเกิดโรค ซึ่งจะช่วยลดสถิติการเสียชีวิตโดยรวมและลดต้นทุนการรักษาพยาบาลได้ในระยะยาว”
ศูนย์สุขภาพครบวงจรแห่งแรกในย่านฝั่งธนบุรี
นพ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน เปิดเผยว่า “การตั้งศูนย์นี้ขึ้นเพื่อต้องการให้ประชาชนได้มีโอกาสได้รับการดูแลรักษาสุขภาพที่ดี ๆ ซึ่งเป็นการบริการตรวจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรแห่งแรกในย่านฝั่งธนบุรี ขณะเดียวกันยังเป็นศูนย์ที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพ เป็นศูนย์สุขภาพ ไม่ใช่ศูนย์ตรวจสุขภาพ
ศูนย์แห่งนี้จะช่วยสร้างการรับรู้แก่ประชาชนว่า ยังมีศาสตร์การแพทย์ทางเลือกอื่น ๆ ที่สามารถช่วยให้มีสุขภาพดีขึ้น ทำให้เจ็บป่วยน้อยลงได้ ไม่ใช่เฉพาะการรับประทานยาหรือผ่าตัดรักษาเท่านั้น ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำ มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า
“ที่สำคัญการไม่เจ็บป่วย ไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ”
นพ.วิโรจน์เล่าว่า กว่าจะมาเป็นศูนย์สุขภาพฯเริ่มต้นจากการเปิดบริการ Thai Medical Spa มาก่อน ประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการผสมผสานด้านการแพทย์กับสปา มีการบำบัดด้วยน้ำ นวดน้ำมัน แพทย์แผนไทยจีน จนใน 1 ปีที่ผ่านมามีการพิจารณาเพื่อนำการแพทย์ทางร่วมนี้มารวมอยู่ในโรงพยาบาล จึงลงทุนด้วยการซื้อเครื่องมือเพิ่ม แยกต่างหากจากการตรวจแบบเดิม มีครบทั้งตาหูคอจมูกฟัน ตรวจมะเร็งเต้านม สูตินรีเวช
นอกจากนี้ยังมีศาสตร์อื่น ๆ อีกมากมายที่ทางศูนย์ฯนำรวมอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า การแพทย์ทางร่วม อาทิ การฟื้นฟูหลอดเลือดโดยเทคนิคคีเลชั่น(Chelation) หรือการใช้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ การระบายน้ำเหลืองด้วยการนวด การสวนล้างลำไส้ กลิ่นบำบัดให้สอดคล้องกับกรุ๊ปเลือด ภวังค์บำบัด(Hypnotherapy) คล้ายสะกดจิต การแพทย์พลังจิต
โฮมิโอพาธีย์(Homeopathy) ศาสตร์ที่เป็นการนำสิ่งที่ก่อโรคมาบำบัดโรค การบำบัดจากดอกไม้ การเคาะไล่สารพิษ อัญมณีบำบัด เรกิและพลังจักรวาลบำบัด ดนตรีบำบัด ร้องเพลงบำบัด โยคะบำบัด นฤมิตรสีน้ำบำบัดและระฆังบำบัด
คาดปีนี้ผลดำเนินการทะลุเป้า โต20%
นพ.วิโรจน์เปิดเผยว่า ในเวลานี้นับว่า ศูนย์สุขภาพฯได้รับความสนใจมีผู้มาใช้บริการมากพอสมควร ไม่ได้หมายถึงเฉพาะคนป่วย โดยนพ.วิโรจน์กล่าวว่า มีผู้มาใช้บริการศูนย์สุขภาพฯ ประมาณ 100 คนต่อวัน แต่เป้าหมายต้องการให้ถึง 200 คนต่อวันภายใน 1 ปี
สำหรับการเติบโตของธุรกิจโรงพยาบาลในภาพรวมนั้น คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตที่ 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ด้วยศักยภาพที่มีแพทย์ทำงานประจำเต็มเวลาประมาณ 60 คน แพทย์ทำงานไม่เต็มเวลาประมาณ 200 คนและพนักงานมีมากกว่า 800 คน ซึ่งเน้นให้บริการประชาชนที่เป็นคนไทยเป็นหลักราว 90% โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวม 1,250 ล้านบาท
เป็นไปได้ว่า ในอนาคตยอดผู้มาใช้บริการจะเพิ่มขึ้นได้อีก ภายหลังจากเปิดศูนย์สุขภาพฯเพิ่มมาอีกแห่งอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะมาที่โรงพยาบาลนี้ที่เดียวเหมือนได้ครบทั้งหมด ทั้งการตรวจรักษาโรคปรกติทั่วไป มีศูนย์สำหรับผู้ต้องการตรวจและรักษาเฉพาะโรค
แม้แต่ผู้ไม่ได้ป่วย ก็มาใช้บริการตรวจสุขภาพและดูแลสุขภาพให้แข็งแรงขึ้นได้ด้วยการแพทย์องค์รวม...มาแล้วอาจจะติดใจ กลายเป็นคนชอบมาโรงพยาบาล ทั้งที่ไม่ได้เป็นโรคเลยก็เป็นได้ ........
ข่าวเด่น