อากาศยานไร้นักบิน"Super Quadrotor"แชมป์ Samart Innovation Award โครงการเถ้าแก่น้อยเทคโนโลยี 2013 รับทุนหนุนเป็นเถ้าแก่ 2 แสนพร้อมดูงานเกาหลีใต้กับทีมรองชนะเลิศอีก 2 ทีม สามารถ-สวทช.-ซิป้าประกาศเดินหน้าโครงการเถ้าแก่น้อยเทคโนโลยี 2014 ต่อเนื่อง 
 

บริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ร่วมกับศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ ภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) ค้นหานักเทคโนโลยีเลือดใหม่ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจผ่านโครงการเถ้าแก่น้อยเทคโนโลยี 2013 ปีที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Samart Innovation Award โดยปีนี้มีสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน)หรือ SIPA มาร่วมสนับสนุนด้วย เพื่อส่งเสริมเด็กและเยาวชนคิด พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆสู่การทำธุรกิจด้านเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นได้จริง

นายศิริชัย รัศมีจันทร์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัทสามารถฯเปิดเผยว่า ปีนี้นับว่าน่าพึงพอใจ เพราะได้นักคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อก้าวสู่การเป็นนักธุรกิจ ซึ่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญ ดังในรายงานการสำรวจที่นิตยสาร Havard Bussiness Review ฉบับเดือนเมษายน ที่เป็นการสำรวจบริษัทชั้นนำของโลก 24,000 แห่งพบว่า บริษัทที่ประสบความสำเร็จต้องมี3 อย่างคือ 1.ผลิตสินค้าและบริการที่แตกต่าง 2.มุ่งก่อให้เกิดรายได้จากการขายมากที่สุด ซึ่งดีกว่าการมุ่งลดต้นทุน และ3.ให้กลับไปดูข้อที่1.และ 2.

โครงการเถ้าแก่น้อยฯเป็นส่วนหนึ่งของSamart Innovation Award ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มุ่งให้ความรู้ ให้ทุนศึกษาวิจัยและให้รางวัล เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สร้างสรรค์ผลงานและนำมาต่อยอดธุรกิจ อันสอดพ้องกับเป้าหมายหลักของบริษัทสามารถฯที่ "ต้องการสร้างคนคุณภาพและสังคมคุณธรรม"

ในปีนี้บริษัทสามารถฯสนับสนุนเงินรางวัลเป็นมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งมีผลงานที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้นมากกว่า 90 ผลงาน ผ่านการสัมภาษณ์รอบแรกเข้ามา 61 ผลงาน ผ่านการอบรมมาอย่างเข้มข้นก่อนคัดเลือกเหลือ 25 ทีมสุดท้ายที่ได้รับทุนทีมละ 20,000 บาท และในที่สุดได้ทีมชนะเลืศเป็น "สุดยอดนักคิด นักพัฒนานวัตกรรมต้นแบบ" รับเงินรางวัล 200,000 บาท ได้แก่ ทีมเจ้าของผลงาน "Super Quadrotor" อากาศยานไร้นักบิน นวัตกรรมทร่สามารถนำมาใช้ถ่ายภาพนิ่งหรือวีดีโอจากมุมสูง ใช้งานด้านความมั่นคงและด้านการเกษตร

ส่วนรางวัลรองชนะเลิศมี 2 รางวัลได้รับรางวัลละ 70,000 บาทได้แก่ ผลงาน Smart NFC และ LookME รางวัลชมเชยได้รับรางวัลละ 30,000 บาทมี 2รางวัล รางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศทั้ง2 ทีมยังมีโอกาสไปชมงาน Seoul Internayional Invesment Fair (SIIF)ที่เกาหลีใต้

นายศิริชัยกล่าวต่อว่า หลังจากจบการแข่งขันแล้ว ทางสามารถฯยังคงให้การสนับสนุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท

สำหรับปีหน้า โครงการ 2014 เงินรางวัลจะปรับเพิ่มอีกเป็นประมาณ 1.2 ล้านบาท รางวัลชนะเลิศ 200,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ปรับเป็น 100,000 บาท อันดับ2 ปรับเป็น 50,000 บาทส่วนผู้ผ่านเข้ารอบยังได้รับทุนสนับสนุนทีมละ 20,000 บาทเหมือนเดิม

ซึ่งเริ่มเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม ปี 2557