การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ "กนง." ครั้งสุดท้ายของปีนี้ กนง.ได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน โดยกรรมการ 6 ต่อ 1 มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี จากเดิม 2.5% เหลือ 2.25%

โดยคณะกรรมการ 1 ท่านที่เห็นต่าง เนื่องจากมองว่าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ผ่อนปรนอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่กรรมการส่วนใหญ่ สนับสนุนให้ปรับลดดอกเบี้ย เพราะคณะกรรมการฯ ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้เดิม และมีความเสี่ยงสูงขึ้นกว่าการประชุมครั้งก่อน ภายใต้แรงกดดันด้านราคาที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่สินเชื่อภาคครัวเรือนมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงบ้างแล้ว นโยบายการเงินจึงสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยง และสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

                                                               ผลประชุม กนง.ปี 2556

                                                           9 ม.ค. คงดอกเบี้ยที่ 2.75%

                                                         20 ก.พ. คงดอกเบี้ยที่ 2.75%

                                                           3 เม.ย. คงดอกเบี้ยที่ 2.75%

                                                         29 พ.ค. ลดดอกเบี้ย   0.25% มาอยู่ที่ 2.50% 

                                                        10 ก.ค. คงดอกเบี้ยที่ 2.50%

                                                        21 ส.ค. คงดอกเบี้ยที่ 2.50%

                                                        16 ต.ค. คงดอกเบี้ยที่ 2.50%

                                                        27 พ.ย. ลดดอกเบี้ย   0.25%  มาอยู่ที่ 2.25%

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี หนึ่งในคณะกรรมการ กนง. บอกว่า การที่ กนง.ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เกิดจากการพิจารณาอย่างรอบด้านว่า เศรษฐกิของประเทศอยู่ในภาวะชะลอตัว การลดดอกเบี้ยจะช่วยในด้านการกระตุ้นการจับจ่ายของประชาชนได้อีกทางหนึ่ง ในช่วงที่นโยบายการคลังยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และเชื่อว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ จะมีผลให้เงินทุนไหลออกจากประเทศเพิ่มไม่มาก

ส่วนมุมมองของภาคเอกชน หลังการปรับลดดอกเบี้ย กนง. นางสาวโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ ยอมรับว่า ผิดจากที่คาดการณ์ไว้ เพราะเดิมคาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม แต่เชื่อว่าการที่ กนง.ปรับลดดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังชะลอตัว

และสอดคล้องกับมุมมองของวงการธนาคาร นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK บอกถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย กนง.ลงว่า เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่ กนง.ปรับการลดอัตราดอกเบี้ยลง แต่อาจเป็นเพราะ กนง. เป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจและการส่งออกลดลงต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ แต่ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารจะมีทิศทางอย่างไรจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง 

ขณะที่ นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย บอกว่า บรรยากาศทางการเมืองกดดันความเชื่อมั่นของประชาชนจนชะลอการใช้จ่าย ทำให้ กนง.ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนี้

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยที่ชะลอ ยังได้รับการตอกย้ำจากการวิเคราะห์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ที่ประเมินว่า การขยายสินเชื่อในปีนี้จะต่ำกว่าเป้าหมาย ทำให้กสิกรไทยปรับลดประมาณการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศทั้งปี 2556 ลงมาที่ระดับ 10% จากคาดการณ์เดิมที่ 11% เนื่องจากความต้องการเบิกใช้สินเชื่อภาคธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2556 อาจชะลอตัวลง ทั้งในส่วนของสินเชื่อเพื่อการค้าและการลงทุน ตลอดจนสินเชื่อเพื่อเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรอดูความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย และเสถียรภาพของการเมืองในประเทศ