ปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ การเมืองที่ยังคงรุมเร้า กระทบกำลังซื้อผู้บริโภค ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดภายใต้แบรนด์เคเอฟซีรับยอดขายชะลอตัว ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “เคเอฟซี ไก่อบนุ่ม”สู้
ปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังคงรุมเร้าอยู่ในขณะนี้ คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกธุรกิจล้วนได้รัลผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น แต่จะกระทบมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจว่ามีความจำเป็นมากหรือน้อยต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดภายใต้แบรนด์เคเอฟซี ถือเป็นสินค้าอีกหนึ่งกลุ่มมีเริ่มยอดขายชะลอตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมไปถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลง เพราะปัญหาหนี้สินในครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น
นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเคเอฟซี บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมรายได้ของร้านเคเอฟซีในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 10% ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ว่าจะเติบโตที่ 12% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบจากปัจจัยลบเศรษฐกิจโลก และกำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวลดลง
แม้ว่าภาพรวมยอดขายจะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ แต่นายธันยเชษฐ์ ก็ยังออกตัวว่าเป็นอัตราการเติบโตที่ดี เพราะถ้าหากนำมาเปรียบเทียบกับภาพรวมตลาดร้านอาหารบริการด่วน ซึ่งปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตเพียง 7% เท่านั้นหรือมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยมูลค่าดังกล่าวเป็นร้านอาหารประเภทไก่ประมาณ 15,000 ล้านบาท
จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ร้านเคเอฟซีต้องออกมาทำกิจกรรมสร้างเสริมการขายและเปิดตัวสินค้าเมนูใหม่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า เพราะปัจจุบันพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากการขยายตัวของเมืองใหญ่ ทำให้วิถีชีวิตมีความเร่งรีบ และเต็มไปด้วยข้อจำกัดด้านเวลา
แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการบริโภคอาหาร ผู้บริโภคยังพิถีพิถันเรื่องการเรับประทานอาหารที่ให้ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและมีความหลากหลาย ด้วยเหตุนี้ร้านเคเอฟซี จึงต้องมุ่งเน้นที่จะตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
จากกลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลให้ล่าสุดได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “เคเอฟซี ไก่อบนุ่ม” เมนูสุดพิเศษที่มีความโดดเด่นด้านรสชาติ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เคเอฟซีสร้างสรรค์เมนูไก่อบนุ่มสูตรใหม่นี้อบพิเศษในฟอยล์ลิเชียส ราดซอสเทกซัสบาร์บีคิว รสชาตินุ่มละมุน พร้อมการปรุงเมนูไก่ด้วยเทคนิคพิเศษ โดยกรีดชิ้นเนื้อไก่ให้เปิดออกก่อนหมัก ทำให้ได้รสชาติซึมลึกถึงเนื้อใน
หลังจากนั้นก็ราดซอสเทกซัสบาร์บีคิวอีกครั้งก่อนอบ จนได้ไก่อบร้อนๆ เนื้อนุ่ม ชุ่มเนื้อ อร่อยเข้มข้นรสบาร์บีคิว เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์ใหม่ทั้งในด้านรสชาติ คุณภาพ ความสะดวกรวดเร็ว และราคา ที่จะเริ่มต้นจำหน่ายเป็นชุดเมนูต่างๆ ประกอบด้วย เคเอฟซี ไก่อบนุ่ม 2 ชิ้น พร้อมข้าว ในราคา 79 บาท, ชุดไก่อบนุ่ม 99 บาท สำหรับไก่อบนุ่ม 1 เสิร์ฟ ข้าวสวย และเป๊ปซี่ 1 แก้ว และชุดไก่อบนุ่ม 1 เสิร์ฟ, ไก่ทอด 2 ชิ้น เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย ทูน่า คอร์น สลัด และเป๊ปซี่ 2 แก้วในราคา 189 บาท เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ในการสื่อสารทางการตลาด เพื่อโปรโมทให้ผู้บริโภคได้รู้จักกับเมนูเคเอฟซี ไก่อบนุ่ม มากยิ่งขึ้น เน้นปูพรมสื่อสารผ่านสื่อออฟไลน์และออนไลน์ และจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษให้ลูกค้าเคเอฟซีได้สัมผัสประสบการณ์ลิ้มลองไก่อบนุ่มฟรีก่อนใคร ซึ่งหลังจากเปิดตัวเมนู เคเอฟซี ไก่อบนุ่ม เข้าทำตลาด ร้านเคเอฟซีมั่นใจว่าจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี และสามารถตอกย้ำให้ร้านเคเอฟซีเป็นผู้นำแบรนด์ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน โดยมีเป้าหมายขยายส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% ในปี 2557
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีหน้า นายธันยเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะใช้งบประมาณ 2,200 ล้านบาท ในการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี แบ่งเป็นงบทำกิจกรรมการตลาดและโปรโมชั่น 650 ล้านบาท และงบอีกประมาณ 1,550 ล้านบาท จะใช้ไปกับการเปิดร้านใหม่ประมาณ 50 สาขา ซึ่งในจำนวนสาขาดังกล่าวจะเป็นร้านรูปแบบไดร์ฟทูประมาณ 10 สาขา ภายหลังทดลองเปิดสาขาแรกที่ถนนศรีนครินทร์ พบว่าได้ผลการตคอบรับเป็นอย่างดี
หลังจากออกมาเปิดเกมรุกในปีหน้าอย่างต่อเนื่อง ร้านเคเอฟซี มั่นใจว่าสิ้นปี 2557 น่าจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เนื่องจากเชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจของโลกและของประเทศไทยจะปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะประเทศไทย เนื่องจากมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี
จากความมั่นใจที่มีต่อเศรษฐกิจและและเศรษฐกิจในประเทศไทย ส่งผลให้ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) ออกมากางแผนธุรกิจในเครือยาวไปถึง 8 ปี ด้วยการเดินหน้าขยายสาขาร้านเคเอฟซีและพิซซ่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ภายในปี 2563 ร้านเคเอฟซีมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ระมาณ 750 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ 493 สาขา
ขณะที่ร้านพิซซ่าฮัท คาดว่าจะมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการในปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 250 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ 78 สาขา ซึ่งในส่วนของร้านเคเอฟซีปีนี้ได้มีการเปิดสาขาใหม่จำนวน 43 สาขา ส่วนร้านพิซซ่าฮัท มีการเปิดสาขาใหม่อยู่ที่ 13 สาขา ภายใต้งบลงทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท
นอกจากจะเร่งเปิดร้านให่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจแล้ว เม็ดเงินลงทุนยังใช้ไปกับการปรับปรุงร้านเก่า การปรับปรุงระบบไอที การทำการตลาด และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ร้านอาหารทั้ง 2 แบรนด์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เช่นเดียวกับปีหน้าที่ยังคงเดินหน้าทำตลาด เปิดสาขาใหม่ ปรับปรุงสาขาเก่า ปรับปรุงระบบไอที และโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แบรนด์ของร้านเคเอฟซี และพิซซ่าฮัท เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
สำหรับกลยุทธ์ที่เคเอฟซีต้องงัดออกมาใช้สู้ศึกเหมือนกับคู่แข่งในตลาด ซึ่งปัจจุบันแข่งขันกันอย่างดุเดือดนั่น คือกลยุทธ์การปรับราคาอาหาร เพราะจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ การยุทธ์การลดราคาสินค้า ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำแล้วได้ผลมากที่สุด
ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวร้านเคเอฟซี จึงต้องออกมาประกาศกลยุทธ์ ปรับลดราคาอาหารประมาณ 10% ในร้านเคเอฟซีดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพของผู้บริโภค ขณะเดียวกันยังถือเป็นการช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาแห่งการขายสินค้า
จากการออกมาปรับแผนธุรกิจทั้งการเปิดสาขาใหม่ ออกสินค้าใหม่ และออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าคงจะช่วยกระตุ้นให้เคเอฟซีกลับมามียอดขายเติบโตตามเป้าหมายอีกครั้ง เริ่มต้นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้น
แม้ว่าจะคาดการณ์กันว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น แต่จากปัจจัยลบภายในโดยเฉพาะความวุ่นวายทางการเมืองที่ยังคงรุมเร้า ทำให้ยังต้องจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะปัจจัยดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบที่ส่งผลต่อจิตวิทยาผู้บริโภค
ข่าวเด่น