“เอ็มเค เรสโตรองต์” เตรียมสรุปดีลซื้อกิจการต้นปี 2557 คาดใช้เงิน 1-2 พันล้านบาทปั๊มวอลุ่มโตก้าวกระโดด ยอมรับเติบโตปกติลดเพียง 10-15 % เท่านั้น ส่วนปี หน้าหวังโกยรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท ยอมรับรายได้ปีนี้โตต่ำเป้าเพียง 10 % จากเป้าเดิมหวัง 10-15 % กดราคาหุ้นลงต่ำกว่าราคาไอพีโอ อัดแคมเปญช่วยปลายปีกระตุ้นยอด
นายประวิทย์ ตันติวศินชัย รองกรรมการผู้จัดการสายการบัญชีและการเงิน บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (M) เปิดเผยว่า ปี 2557 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 10 % จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 10 % หรือประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ไม่รวมโอกาสเติบโตจากดีลซื้อกิจการในประเทศไทยคาดว่าจะมีความชัดเจนต้นปีหน้า หากดีลประสบความสำเร็จมีโอกาสเติบโตมากขึ้น
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะใช้เงินในการซื้อกิจการครั้งนี้ประมาณ 1-2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงและมีความคุ้มค่าในการขยายสาขาเพิ่ม ซึ่งในรายละเอียดสำหรับจำนวนสาขาที่บริษัทสนใจซื้อกิจการมีอยู่ประมาณ 30-40 สาขา ยอดขายเฉลี่ย ประมาณ 1 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งหากดีลเจรจาสำเร็จบริษัทมีศักยภาพในการเพิ่มยอดขายไปได้ถึงระดับ 4-5 พันล้านบาทต่อปี นอกจากนี้บริษัทก็ยังมีแผนจะซื้อกิจการในต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย
ดังนั้นช่องทางการเติบโตของบริษัทที่มีฐานใหญ่ขึ้น การเติบโตพียงระดับ 10-15 % จากการขยายสาขาปกติเท่านั้น แต่หากบริษัทต้องการเติบโตมากขึ้น จากการซื้อกิจการก็ยิ่งสร้างโอกาสเติบโตที่มากขึ้นและเร็วได้ ซึ่งบริษัทมีกระแสเงินสดประมาณ 8 พันล้านบาท ถือว่าเพียงพออยู่แล้วหลังจากการระดมทุนโดยการออกหุ้นไอพีโอ ทั้งการใช้เงินเพื่อขยายสาขาเพิ่มอีกในระยะ 3-5 ปีข้างเฉลี่ยปีละ 600-700 ล้านบาท เช่นในปีหน้าที่บริษัทมีแผนขยายสาขาอีก 64 สาขาทั้งเอ็มเค สุกี้ และยาโยอิ ใช้เงินลงทุนประมาณ 600-700 ล้านบาท เงินลงทุนเพื่อปรับปรุงสาขาประมาณ 100-200 ล้านบาท และเปิดสาขาสแตนอโลน หรือสาขาเดี่ยวไม่อยู่ในห้างสรรพสินค้าจำนวน 1 แห่ง มูลค่า 100 ล้านบาทย่านพัฒนาการบนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่
สำหรับราคาหุ้น ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2554 อยู่ที่ 47 บาทต่อหุ้น ต่ำกว่าราคาไอพีโอที่ 49 บาทต่อหุ้น ยอมรับว่าเป็นผลจากจากผลประกอบการที่ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นั่นเอง รวมทั้งไตรมาส4/2556 ยังได้รับผลกระทบจากการชะตัวของเศรษฐกิจและภาวะการเมืองทำให้ส่งผลกระทบต่อยอดขายลดลงอีก เนื่องจากบริษัทมีสาขาที่อยู่ในจุดเสี่ยง คือ เซ็นทรัลเวิลด์ 3 สาขา และสยามพารากอน 1 สาขา ทำให้บริษัทต้องจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอด ช่วง 2 เดือนสุดท้าย(พ.ย.-ธ.ค.)คือ “ลุ้นรวยแสนทุกวัน” ทองคำมุลค่า 1 แสนบาท จำนวน 63 รางวัล และไอโฟน 5s จำนวน 63 เครื่อง และ “ลุ้นรวยล้าน” ทุกเดือน ทองคำมูลค่า 1 ล้านบาท จำนวน 2 รางวัล
"ไตรมาส 4 เราจะมีแคมเปญเข้ามากระตุ้นยอดขาย ซึ่งจะเป็นแคมเปญ แจกแสนทุกวัน แจกล้านทุกเดือน ซึ่งจะเข้ามาช่วยให้ยอดขายของเราปรับตัวดีขึ้น และส่งเสริมให้ผู้บริโภคเข้ามาทานอาหารมากขึ้น ซึ่งในส่วนนี้เราคาดหวังว่าทั้งปีจะมียอดผู้ใช้บริการประมาณ 4 ล้านคน"นายประวิทย์ กล่าว
ข่าวเด่น