การตลาด
สกู๊ป : "แบรนด์" ขนดาราดัง "ขายกระเช้าของขวัญ" กู้ยอดส่งท้ายปี


                       

 

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้เริ่มส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจในประเทศไทย  เพราะจากการออกมาประกาศผลประกอบการของหลายธุรกิจ ส่วนใหญ่ล้วนแต่มีผลประกอบการที่ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้  แต่จะต่ำกว่าเป้าหมายมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการในธุรกิจนั้นๆ จะออกมากระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายนี้อย่างไร

ก่อนหน้าที่เหล่าบรรดาธุรกิจในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางการเมือง ตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมาเริ่มมีสัญญาณผู้บริโภคกำลังซื้อลดลงให้เห็น และเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเมื่อก้าวสู่ไตรมาสที่ 3  เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับผู้บริโภคมีหนี้สินต่อครัวเรือนมากขึ้น ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเหล่าผู้ประกอบการธุรกิจก็คาดหวังว่าเมื่อก้าวเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการขาย น่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง  และส่งผลให้ภาพรวมสิ้นปีมีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

แต่เมื่อการเมืองมีความครุกรุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เหล่าผู้ประกอบการเริ่มทำใจว่าภาพรวมรายได้สิ้นปีนี้อาจพลาดเป้าหมายที่วางไว้  เช่นเดียวกับ บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด  เจ้าของผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่และแบรนด์รังนก แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจยังคงต้องเดินต่อไป เนื่องจากช่วงปลายปีเป็นช่วงเวลาแห่งการมอบความสุข จึงทำให้บริษัท เซเรบอส  กลับมาฮึดสู้อีกครั้ง  ด้วยการโหมขายกระเช้าปีใหม่สินค้าในเครือเพื่อกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี

 

 

น.ส.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า ภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคในขณะนี้ยอมรับว่าปรับตัวลดลง เนื่องจากมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง รวมไปถึงปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ จึงส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงปลายปีนี้ลดลงไปเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัท เซเรบอส ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 11% ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้เล็กน้อย เนื่องจากต้นปีที่ผ่านมาวางไว้ว่าจะเติบโตได้ที่ 15% ซึ่งจากผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องออกมาทำกิจกรรมทางการตลาดและเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค

ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายนี้ น.ส.ลักขณา กล่าวว่า จะเน้นการทำตลาดกระเช้าปีใหม่เป็นหลัก  เนื่องจากเป็นช่วงของการจับจ่ายใช้สอยและเป็นหน้าขายกระเช้าของขวัญ ซึ่งในปีนี้ได้เพิ่มแบบกระเช้าของขวัญประมาณ 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคและให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด ด้วยเหตุนี้ราคากระเช้าของขวัญของผลิตภัณฑ์แบรนด์จึงมีความหลากหลาย คือมีตั้งแต่ราคาไม่ถึง 500 บาท ถึงสูงสุดกว่า 2,000 บาท 

 

 

นอกจากนี้  บริษัท เซเรบอส ยังได้มีการทำโปรโมชั่นเพื่อตอบแทนลูกค้าในช่วงเทศกาลส่งมอบความสุข  เช่น ซื้อแบรนด์ซุปไก่สกัด สูตรต้นตำรับ 12  ขวด/กล่อง พิเศษซื้อ 3 กล่อง ลดเหลือ 1,090  บาท จาก 1,332 บาท ซื้อแบรนด์รังนก สูตรน้ำตาลกรวด  12 ขวด/กล่อง พิเศษ 1 กล่องราคา 1,060  บาท จาก 1,188  บาท และซื้อแบรนด์ซุปไก่สกัด สูตรต้นตำรับ  และแบรนด์รังนก สูตรน้ำตาลกรวด  12  ขวด/กระเช้า จำนวน 2 กระเช้า พิเศษราคา 1,544 บาท  จากราคา 1,680 บาท เป็นต้น

ทั้งนี้  รายได้จากการขายกระเช้า น.ส.ลักขณา กล่าวว่า ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับโครงการ “ให้แบรนด์...แทนที่สุดของความรู้สึกเพื่อมูลนิธิขาเทียมฯ”  ซึ่งเกิดขึ้นจากความตั้งใจของแบรนด์ที่จะช่วยเหลือผู้พิการขาขาดทั่วประเทศ ผ่านทางมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยเริ่มแรกได้จัดตั้งเป็นโครงการ “ฝาแบรนด์ สร้างขาเทียม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี” ตั้งแต่ปี 2543 – 2547 เพื่อเปิดรับบริจาคฝาแบรนด์ซึ่งขณะนั้นเป็นฝาที่ผลิตจากอะลูมิเนียม เพื่อนำไปหลอมผลิตเป็นอุปกรณ์ประกอบขาเทียม มอบให้แก่ผู้พิการขาขาดที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทั่วประเทศโดยไม่คิดมูลค่า

น.ส. ลักขณา กล่าวต่อว่า เมื่อฝาแบรนด์สามารถเปลี่ยนจากฝาอลูมิเนียมมาเป็นฝาพลาสติก บริษัทจึงปรับเปลี่ยนรูปแบบของโครงการใหม่ จัดเป็นโครงการ “ให้แบรนด์...แทนที่สุดของความรู้สึกเพื่อมูลนิธิขาเทียมฯ” จัดกิจกรรมรณรงค์หารายได้สมทบทุนมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างขาเทียม โดยแคมเปญนี้จะจัดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ระหว่างเดือนพ.ย. 2556 – ม.ค. 2557 ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่จะนำเงินส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่จากแบรนด์ทุกกระเช้า เพื่อร่วมสมทบทุนมูลนิธิขาเทียมฯ เป็นการส่งต่อการให้ไปยังผู้พิการขาขาดทั่วประเทศต่อไป

สำหรับโครงการ “ให้แบรนด์...แทนที่สุดของความรู้สึกเพื่อมูลนิธิขาเทียมฯ” เป็นเสมือนตัวแทนบอกเล่าและถ่ายทอดเรื่องราวที่สุดของความรู้สึก ทั้งความรู้สึกรักและความผูกพันในครอบครัว ความรู้สึกขอบคุณในความเอื้ออาทร และการให้โอกาสของลูกน้องต่อเจ้านาย ความรู้สึกจริงใจและอยู่เคียงข้างของเพื่อนที่มอบให้กับเพื่อน ซึ่งทุกความรู้สึกเราสามารถ “ให้แบรนด์...แทนที่สุดของความรู้สึกได้” นอกจากจะได้มอบกระเช้าผลิตภัณฑ์แบรนด์เป็นของขวัญปีใหม่ที่ถูกใจผู้รับแล้ว ท่านยังมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้พิการขาขาดให้กลับมาเดินได้เหมือนคนปกติ

 

 

พร้อมกันนี้ เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคให้มาซื้อกระเช้าผลิตภัณฑ์แบรนด์ บริษัท เซเรบอส จึงได้ออกมาเปิดตัวโฆษณาแบรนด์เนื่องในโอกาสฉลองปีใหม่ 2557 ด้วยการขนพรีเซ็นเตอร์ของแต่ละผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มาเป็นตัวแทนและสื่อกลางในการส่งมอบความสุขด้วยกระเช้าปีใหม่ของผลิตภัณฑ์แบรนด์ ประกอบด้วย  "ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต" เป็นตัวแทนการมอบกระเช้าส่งความสุขในส่วนของผลิตภัณฑ์แบรนด์วีต้า  ขณะที่ โอปอล์ ปาณิสรา,พีช พชร, นิชคุณ และ วง Room 39  เป็นตัวแทนกระเช้าแบรนด์ซุปไก่สกัด

นอกจากนี้ บริษัท  เซเรบอส ยังได้ใช้งบ 30 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมการตลาดผ่านแคมเปญ "แบรนด์รังนก คุณภาพระดับ เวิลด์คลาส ซีเลคชั่น" เพื่อตอกย้ำคุณภาพของแบรนด์รังนกและกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้าย พร้อมกับเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ภายใต้ชื่อ “ของขวัญปีใหม่” ถ่ายทอดเรื่องราวความรัก ความเคารพ และความผูกพันระหว่าง แอฟ ทักษอร  เตชะณรงค์  แบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์รังนก และ ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรี เฉลิมยุคล ที่ไม่ใช่มีความผูกพันแค่ผู้กำกับกับดารา แต่เป็นความผูกพันระหว่างอาจารย์กับลูกค้าศิษย์ภายหลังได้ร่วมงานแสดงภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

 

 

หลังจากออกมาทำกิจกรรมการตลาด  เพื่อกระตุ้นยอดขายกระเช้าของขวัญปีใหม่อย่างต่อเนื่อง บริษัท เซเรบอส คาดว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยสัดส่วนยอดขายหลักประมาณ 60% คาดว่าจะมาจากยอดขายกระเช้าซุปไก่สกัด ส่วนที่เหลืออีก 40% คาดว่าจะมาจากกระเช้าแบรนด์รังนก  เนื่องจากกระเช้าซุปไก่จะมีราคาขายที่ถูกว่ารังนก คือ มีราคาขายเริ่มต้นที่กว่า 400 บาท  ขณะที่รังนกมีราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 800 บาท จึงทำให้สัดส่วนยอดขายซุปไก่สูงกว่ารังนก    

น.ส. ลักขณา กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดอาหารเสริมมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นไปตามความเจริญของประชากรที่มีการศึกษามากขึ้น รวมถึงการมีความใส่ใจในสุขภาพของตัวเองเพิ่มขึ้น โดยตลาดเครื่องดื่มซุปไก่สกัด ยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตมากที่สุด ซึ่งปัจจุบันแบรนด์เป็นผู้นำในตลาดดังกล่าว ด้วยการมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 90%  ขณะที่แบรนด์รังนก มีส่วนแบ่งการตลาด อยู่ที่ประมาณ  58-60% และแบรนด์วีต้า ส่วนแบ่งตลาด 75-80%  

สำหรับแผนการทำตลาดในปีหน้า บริษัท เซเรบอส  มีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดไม่ต่ำกว่า 2-3 รายการ ทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยการทำตลาดต่างประเทศปัจจุบัน บริษัทมีการส่งออกไปแล้วประมาณ 17 ประเทศ ใช้ฐานการผลิตที่ไทยส่งออกเป็นหลัก ขณะที่โรงงานที่ผลิตสินค้ามีทั้งหมด 3 แห่ง คือ ไทย, ไต้หวัน และมาเลเซีย  ซึ่งในส่วนของโรงงานที่ไต้หวัน และมาเลเซีย จะมีการเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตลาดในอนาคต โดยเฉพาะโรงงานที่มาเลเซียมีการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 เท่า เพื่อส่งไปขายในกลุ่มประเทศมุสลิม เป็นต้น

แม้ว่าปีนี้ภาพรวมรายได้ของบริษัท เซเรบอส  จะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้  คือ  ทำรายได้เติบโตจากปีที่ผ่านมาได้เพียง 11%  จากเป้าหมายทั้งปีที่คาดว่าจะเติบโต 15% แต่หลังจากวางแผนรุกอีกครั้งในปีหน้า บริษัท เซเรบอส มั่นใจว่าจะสามารถกลับมามียอดขายเติบโตอีกครั้งได้ที่ 15% หากไม่มีปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจและการเมืองเกิดขึ้น 

ปัจจุบัน บริษัท เซเรบอส มีสัดส่วนยอดขายที่มาจากตลาดต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 50% ในประเทศไทย 50%  ซึ่งในส่วนของปีหน้ายังคงคาดว่าสัดส่วนรายได้ยังคงเป็นเช่นนี้ เพราะทุกอย่างยังคงดำเนินการไปตามปกติ แต่ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจที่แน่ชัดในปีหน้า ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีปัจจัยลบให้ต้องจับตามอง โดยเฉพาะการเมือง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแนวโน้มของบทสรุป

 

 


LastUpdate 07/12/2556 20:09:58 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 10:38 pm