ในวันที่ผมเขียนบทความนี้คือ วันที่ 9 ธันวาคม 2556 มีเหตุการณ์ทางการเมือง 2 เรื่องที่สำคัญคือ
1. การเดินของผู้ที่เห็นต่างและต่อต้านรัฐบาล
2. การประกาศยุบสภาของนายกรัฐมนตรี

จนถึงเวลานี้ทุกท่านรวมทั้งตัวผมก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องราวต่างๆ จะ "จบลงได้หรือไม่" ขณะที่ท่านผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้กล่าวให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนว่า

"หากสถานการณ์การเมืองยังไม่คลี่คลาย ก็ห่วงว่าปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)อาจจะเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เมื่อขายของไม่ได้เพราะผู้คนไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะซื้อของ สภาพคล่องของ SME จะลดลงได้ ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาการผ่อนชำระหนี้ได้ ธปท.จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด"  ผู้บริหาร ธปท.แสดงความเห็นว่าปัญหาการเมืองควรจะได้ข้อยุติให้เร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

แม้ตลอดช่วงการชุมนุมที่ผ่านมายังไม่เห็นผลกระทบต่อการขยายตัวประเภทสินเชื่อหรือประเภทธุรกิจใดให้ลดลงเป็นพิเศษ แต่หากสถานการณ์การเมืองยังไม่คลี่คลายในระยะอันใกล้ จะกระทบการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค
           

ข้อมูลของในเดือน ตุลาคม 2556 ระบุว่า การขยายตัวของสินเชื่อยังมีแนวโน้มชะลอลงตามทิศทางเศรษฐกิจ โดยสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 10.6% ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 11.2%ตามการชะลอลงของสินเชื่อที่ปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจ ทั้งภาคการเงินและประกันภัย ภาคการผลิต ภาคการขายส่งขายปลีกส่วนสินเชื่อที่ปล่อยให้กับภาคครัวเรือนค่อนข้างทรงตัว อันเป็นผลมาจากปัจจัยความกังวลเรื่องหนี้ครัวเรือนและการเข้มงวดการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน การยกระดับเรื่องการให้ความคุ้มครองผู้บริโภค

และอีกประการหนึ่งคือสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากเดือนตุลาคม 2556 นี้อยู่ที่ระดับ 95% ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าสะท้อนถึงสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ที่ตึงตัวต่อเนื่อง
           

การเมืองจึงยังคงเป็นปัจจัยหลักต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่เช่นเดิม และมีผลกระทบมากด้วยดังนั้นปัญหาการเมืองของประเทศต้องจบด้วยการแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ และที่สำคัญต้องแก้ให้จบด้วยวิธีการและทางออกเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ให้ได้ ไม่งั้นปัญหาเดิม เรื่องเดิม ความเสียหายแบบเดิม แต่มีผลกระทบมากกว่าเดิมจะกลับมาเยือนและจะยังคงอยู่ไม่จบไม่สิ้นสิ้น

ผมขอจบบทความนี้ด้วยเพลงชาติไทยที่เราได้ฟังกันทุกวัน ลองอ่านและตั้งใจฟัง ให้เข้าไปในหัวใจของเราทุกคนอีกครั้งนะครับ

ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกส่วน
อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล ด้วยไทยล้วนหมาย รักสามัคคี
ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี เถลิงประเทศชาติไทยทวี มีชัย ชโย

************************************************************************************
สุรพล โอภาสเสถียร
ผู้จัดการใหญ่
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด