EA รุกลงทุนต่อเนื่อง ปี 57 เตรียมลงทุน 8-9 พันล้านบาท ในโครงการพลังงานทดแทน จากแสงอาทิตย์และลม พร้อมคาดกำไรโตกระก้าวกระโดด เตรียมเล็งเข้าร่วมลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนจำนวนมาก ทั้งจากประเทศในยุโรป และประเทศจีน พร้อมศึกษาระดมทุนผ่านกองทุน อินฟราสตรัคเจอร์
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานทดแทน กล่าวว่า ปี 2557 บริษัทยังขยายลงทุนต่อเนื่อง ได้ตั้งงบลงทุนในปี 57 ที่ระดับ 8-9 พันล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนโครงการพลังงานทดแทน ทั้งโซล่าฟาร์มและลม ตามแผนลงทุนระยะ 2 ปี (ปี 2557-2558) จะใช้เงินลงทุนราว 2.5 หมื่นล้านบาท ในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 180 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์
แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อยู่ที่จังหวัดลำปาง 90 เมกะวัตต์ และจังหวัดพิษณุโลก 90 เมกะวัตต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนธันวาคม 2557 - ธันวาคม 2558 ตามลำดับ ใช้เงินลงทุนราว 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมจะอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช 2 โครงการ ,จ.สงขลา 1 โครงการ กำลังผลิตรวม 126 เมกะวัตต์ คาดใช้เงินลงทุนราว 9 พันล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่ากำไรสุทธิปีหน้าจะเติบโตก้าวกระโดดจากราว 200 ล้านบาทในปีนี้ ตามรายได้ที่ขยายตัว โดยปีหน้าบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตอย่างน้อย 40% จากปีนี้ จึงหนุนกำไรสุทธิให้เติบโตมากตามไปด้วย โดยเฉพาะการรับรู้รายได้ จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 90 เมกะวัตต์ ที่ จ.นครสวรรค์ เข้ามาเต็มปี ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดว่าจะมีรายได้ ประมาณ 1.5 พันล้านบาท และมีกำไร 900 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักลงทุนจากต่างประเทศสนใจเข้าร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ และพลังงานลมจำนวนมาก ทั้งจากประเทศในยุโรป และประเทศจีน ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ โดยที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีความคืบหน้าและชัดเจนมากยิ่งขึ้นปีหน้า และการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งในการลงทุนโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาร่วมในด้านเงินทุน (Financial investment) หรือพันธมิตรที่มีประสบการณ์และความรู้ (Know how) โดยด้านแหล่งเงินลงทุนทุนนั้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีกระแสเงินสดกว่า 1 พันล้านบาท และยังมีเงินที่เหลือจากการระดมทุน IPO อีกพันกว่าล้านบาท นอกจากนี้ก็อาจจะมีการพิจารณากู้จากสถาบันการเงินหรือใช้เครื่องมือในการระดมทุนอื่นๆ
นายสมโภชน์ กล่าวต่อว่า บริษัทยังมีแผนที่จะศึกษาการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund : IFF) เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งช่องทางการระดมทุนที่น่าสนใจ แต่ต้องศึกษาถึงความเหมาะสมในการใช้เงินทุนให้เหมาะสม และดูภาวะตลาดในแต่ละช่วงก่อนว่าเอื้อต่อการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งโดยหลักการแล้วบริษัทจะเน้นรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นหลัก
“เราอยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ต้องดูความเหมาะสมความจำเป็น และความคุ้มด้วย ในสภาวะตลาดแบบนี้จะเอื้อหรือไม่ ที่สำคัญจะไดลูทมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ไหม เพราะเราต้องรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นหลัก” นายสมโภชน์กล่าว
ข่าวเด่น