หลังจากเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ภายใต้แบรนด์ซันโว เข้ามาทำตลาดได้เพียง 9 เดือน แต่บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มเกลือแร่ภายใต้แบรนด์ ซันโว ก็สามารถกวาดยอดขายเข้ากระเป๋าได้แล้วถึง 32 ล้านขวด และคว้าส่วนแบ่งการตลาดมาครองได้แล้ว 10% ถึงเป้าหมายก่อนระยะเวลาที่วางไว้
จากนโยบายที่ต้องการให้เพิ่มไลน์สินค้ากลุ่มนอน-แอลกอฮอล์ สู่สัดส่วนยอดขาย 30% ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 12% เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ผ่านมาแล้ว 2 ปี ส่งผลให้บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ต้องเร่งเดินหน้าขยายสินค้าในกลุ่มนอน-แอลกอฮอล์ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเครื่องดื่มเกลือแร่ภายใต้แบรนด์ ซันโว ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จะชูเป็นสินค้าหลักในการเพิ่มยอดขายกลุ่มนอน-แอลกอฮอล์
ด้วยผลการตอบรับของการเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโว เข้ามาทำตลาด ส่งผลให้บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ออกมาประกาศเดินหน้าทำตลาดและสร้างแบรนด์สินค้าดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้ใช้งบกว่า 150 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมการตลาดและสร้างแบรนด์เครื่องดื่มเกลือแร่แบรนด์ซันโวไปแล้ว
สำหรับช่องทางหลักในการทำตลาดยังคงเน้นไปที่ช่องทางขายเดียวกับกลุ่มเบียร์ คือ จำหน่ายผ่านช่องทางเทรดดิชั่นนอลเทรด หรือ ร้านค้าทั่วไปอย่างยี่ปั๊ว ซาปั๊ว 70% และห้างโมเดิร์นเทรด 30% เพื่อให้สินค้ากระจายไปถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้ครอบคลุมเร็วขึ้น โดย บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ได้เพิ่มหน่วยรถกระจายสินค้ากว่า 200 คัน สำหรับส่งสินค้าภายในกรุงเทพฯและปริมณฑล
ปัจจุบันเครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโว ยังคงมีรสชาติสินค้าเข้าทำตลาดอยู่จำนวน รสชาติเหมือนกับต้นปีที่ผ่านมา คือ รสมิกซ์ฟรุต (สีเหลือง) และรสมิกซ์เบอร์รี (สีแดง) ในบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วขนาด 250 มิลลิลิตร ราคาขวดละ 10 บาท ขณะที่กลุ่มเป้าหมายหลักในการทำตลาดยังคงเน้นไปที่ที่เสียเหงื่อจากการใช้แรงงาน และผู้ที่เสียเหงื่อจากการเล่นกีฬา
นายรติ พันธุ์ทวี ผู้อำนวยการบริหาร ประจำสำนักงานกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอด บริวเวอรรี่ จำกัด กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะใช้งบอีกไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมการตลาดและสร้างแบรนด์เครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโว อย่างต่อเนื่อง เพราะแนวทางการดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มเกลือแร่ซัน โว ในช่วง 3 ปีแรกของการทำตลาดจะเน้นไปที่การสร้างแบรนด์เป็นหลัก เนื่องจากเป็นสินค้าน้องใหม่
ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าโฆษณาสินค้าผ่านสื่อต่างๆอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งในส่วนของพรีเซ็นเตอร์ที่จะนำมาเป็นตัวแทนสินค้ายังคงใช้นักมวยชื่อดังอย่าง “บัวขาว” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ภายใต้สโลแกน “เครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว ซันโวทุกโอกาส” เหมือนกับปีนี้ เนื่องจากคาเรคเตอร์ของตัวพรีเซ็นเตอร์ตรงกับภาพลักษณ์ของสินค้า
หลังจากออกมาเดินหน้าทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปีหน้า น่าจะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% และมีส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่า 15-20% ซึ่งหากมีส่วนแบ่งการตลาดในระดับดังกล่าวจะส่งผลให้เครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโว ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่แทนที่เอ็มสปอร์ต ที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 12-15%
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ดึงนำมาใช้ เพื่อกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปีควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นั่นก็คือ การเปิดตัวปฏิทินเซ็กซ์ซี่แจกฟรีเครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโว 2014 ให้กับลูกค้า หลังจากก่อนหน้านี้เคยประสบความสำเร็จสร้างความฮือฮาให้กับวงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาแล้วเมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมากับปฏิทินลีโอ แต่เนื่องจากกฎข้อห้ามของการทำกิจกรรมการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีมากขึ้น ส่งผลให้บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ไม่สามารถทำปฏิทินลีโอได้เหมือนที่ผ่านมา
สำหรับการเปิดตัวปฏิทินเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว เข้ามาสร้างสีสันให้กับวงการเครื่องดื่มเหลือแร่ในปีนี้ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ได้เลือก 5 สาวสุดเซ็กซี่อย่าง กิ๊บซี่-วนิดา, โย-ยศวดี, โบ-โชติมา, หยก -ธัญยกันต์ และ โม-อมีนา มาเป็นนางแบบถ่ายปฏิทินเครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโว ปีแรก ซึ่งหลังจากเปิดตัวปฏิทินอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าสร้างสีสันให้กับวงการเครื่องดื่มได้มากพอสมควร
แม้ว่าขณะนี้ทางบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จะยังไม่เริ่มแจกปฏิทินชุดดังกล่าวให้กับบรรดากลุ่มลูกค้า ซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่มยี่ปั๊ว ซาปั๊ว และตัวแทนรถจำหน่าย เนื่องจากอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและวางแผนการทำตลาด แต่เบื้องต้นบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น แย้มมาว่า น่าจะเป็นการนำฝาเครื่องดื่มซันโวมาแลก
นายรติ กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโว เข้าทำตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่าได้ผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ด้วยการมียอดขายมากถึง 32 ล้านขวด และมีส่วนแบ่งการตลาด 10% ส่งผลให้บริษัทมีแผนที่จะตอบแทนลูกค้าด้วยการผลิตปฏิทินเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว 2014 ออกมาขอบคุณลูกค้า
ทั้งนี้ ปฏิทินเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว 2014 ที่ผลิตออกมาแจกฟรีในครั้งนี้ นายรติ กล่าวต่อว่า เป็นการผลิตออกมาในจำนวนจำกัดในหลักหลายหมื่นชุด ลูกค้าที่ต้องการปฏิทินชุดดังกล่าวสามารถนำฝาเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโวจำนวน 10 ฝา มาแลกปฏิทินชุดดังกล่าวได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และรถจำหน่ายทั่วประเทศจนกว่าปฏิทินชุดดังกล่าวจะหมด ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มแจกปฏิทินดังกล่าวได้ประมาณกลางเดือน ธ.ค.นี้
นอกจากจะผลิตมาเพื่อสร้างสีสันให้กับวงการเครื่องดื่มเกลือแร่แล้ว บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ยังคาดว่าจะช่วยสร้างยอดขายให้กับเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว ในช่วงเดือน ธ.ค. ให้มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ เพราะจากประสบการณ์การผลิตปฏิทินในรูปแบบเซ็กซ์ซี่เข้ามาทำตลาดช่วงส่งท้ายปีจะได้ผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
สำหรับรูปแบบของปฏิทินเครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโวที่นำเข้ามาทำตลาดในปีนี้ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จัดทำขึ้นใน 2 รูปแบบ ทั้งแบบตั้งโต๊ะ และแบบแขวน โดยปฏิทินทั้ง 2 รูปแบบจะมี จำนวน 14 แบบ 14 สไตล์ เพื่อให้ปฏิทินมีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ของปฏิทินและเป็นกีฬาชนิดต่างๆ ซึ่งกำลังเป็นทีนิยมของผู้ชาย
นายรติ กล่าวต่อว่า หลังจากเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว เข้ามาทำตลาดถือว่าสร้างสีสันให้กับธุรกิจเกลือแร่ให้มีความคึกคักมากขึ้น จากเดิมตลาดสินค้าดังกล่าวค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากมีผู้เล่นรายหลักเพียง 2 คือ สปอนเซอร์ และเอ็มสปอร์ต ซึ่งผู้นำในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ยังคงเป็นของแบรนด์สปอนเซอร์ ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 70% ขณะที่เอ็มสปอร์ตมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 12-15%
ส่วนเรื่องที่จะมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังในปีหน้า ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีประมาณ 1-2 ราย นายรติ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลกับการแข่งขันที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้เล่นแต่ละแบรนด์มีจุดแข็งในการทำตลาดเป็นของตัวเอง ในทางตรงกันข้ามน่าจะเป็นการเข้ามาช่วยกระตุ้นให้ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่มีความคึกคักมากขึ้น และส่งผลให้ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ในปีหน้ามีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปัจจุบันตลาดรวมเครื่องดื่มเกลือแร่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4,400 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 10%
เช่นเดียวกับความคิดเห็นของ นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ บริษัท กระทิงแดง จำกัด ที่ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า กรณีที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น น่าจะเป็นการช่วยให้ตลาดรวมเครื่องดื่มเกลือแร่มีความคึกคักมากขึ้น แต่ก็ยอมรับว่าในช่วงแรกที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาทำตลาดอาจส่งผลกระทบต่อการทำตลาดไปบ้าง แต่ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากบริษัทหันมาปรับบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการรองรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า
กลยุทธ์ที่เจ้าตลาดอย่างบริษัท กระทิงแดง เลือกนำมาใช้รับน้องใหม่ คือ การหันมาพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์กระป๋องรูปแบบใหม่ภายใต้ชื่อ สปอนเซอร์ สลีค แคน หรือกระป๋องทรงสูงผอมขนาด 325 มล. เข้าทำตลาดแทนกระป๋องทรงอ้วน ซึ่งจะทยอยนำออกมาจากตลาดให้หมดภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งภายหลังจากเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่เข้ามาทำตลาด บริษัท กระทิงแดง คาดว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดี เนื่องจากราคาขายบรรจุภัณฑ์ใหม่ยังคงไว้ที่ราคาเดิมคือ 12 บาท เช่นเดียวกับบรรจุภัณฑ์แบบขวดแก้วขนาด 250 มล. ที่ยังคงราคาไว้ที่ 10 บาท และขวดพีอีทีขนาด 350 มล. คงราคาไว้ที่ 15 บาท
นอกจากนี้ บริษัท กระทิงแดง ยังมีแผนที่จะออกมาทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักและอยู่ในใจของผู้บริโภคมากขึ้น โดยจะเน้นไปที่การเข้าเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ เช่น จักรยานทางไกล และฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เป็นต้น
ค่ายไหนจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีกไม่กี่วันก็จะรู้ผลของปีนี้ แต่หลังจากก้าวเข้าสู่ปีใหม่คงต้องรอดูกันไปอีกพักใหญ่เลยทีเดียว.
ข่าวเด่น