"กรุงเทพประกันภัย" วาง 4 กลยุทธ์หลัก สั่งรุกรายย่อยกระจายเสี่ยง-รักษาฐานต่ออายุ-เพิ่มบริการ-ลุยจับลูกค้าโตทุกกลุ่ม กางแผนดันเบี้ยปี ’57 โต 16% กวาดเบี้ย 1.8 หมื่นล้าน
นายพนัส ธีรวณิชย์กุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย เปิดเผยว่า แผนการเติบโตในปี 2557 ของบริษัท ด้วยกลยุทธ์การเติบโตหลัก 4 ด้าน คือ การมุ่งเน้นตลาดลูกค้ารายย่อย ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่บริษัททำอย่างต่อเนื่องตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเติบโตขึ้นราว 10-15% ทุกปี และยังเป็นตลาดที่สร้างกำไรได้ดี เพราะความเสี่ยงกระจายตัว จึงเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทยังวางแผนทำตลาดต่อเนื่อง ซึ่งปีหน้าจะยังเน้นขยายตลาดรายย่อยในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นด้วย
ต่อมาคือ การรักษาฐานลูกค้าเดิมให้ต่ออายุให้ได้อย่างน้อย 70% เพราะการหาลูกค้ารายใหม่ๆ แข่งขันกันมากขึ้นทุกวัน ต้นทุนจึงสูงขึ้นในขณะที่ราคากลับต่ำลง บริษัทจึงเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้เป็นหลัก
สอดคล้องมาถึงกลยุทธ์ที่ 3 คือ บริการที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ โดยเฉพาะกลุ่มที่เคยมีประสบการณ์ด้านการเคลมแล้ว มั่นใจว่าลูกค้าจะเห็นความแตกต่างของบริการ ซึ่งปีหน้ามีแผนจะขยายจำนวนอู่และยกระดับอู่ซ่อมให้เพิ่มขึ้น หลังจากปีนี้มีปัญหาเรื่องการซ่อมนาน เนื่องจากจำนวนอู่เพิ่มไม่ทันกับจำนวนรถ
สุดท้าย บริษัทจะพยายามรักษาระดับการเติบโตในทุกกลุ่มอย่างสมดุล เพื่อกระจายน้ำหนักของงานไม่ให้เน้นหนักไปที่กลุ่มใดมากเกินไป จึงผสมกันทั้งประกันภัยรายย่อย ลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี ลูกค้าธุรกิจรายย่อย รวมถึงงานโครงการรัฐ ซึ่งบริษัทมีจุดแข็งด้านความสามารถรับประกันภัยรายใหญ่ได้ค่อนข้างมาก
“ปีหน้าเรามั่นใจว่าน่าจะเติบโตได้ประมาณ 16% หรือคิดเป็นมูลค่าเบี้ยประกันไม่น้อยกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ถือว่าเติบโตสูงกว่าตลาดเล็กน้อยที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 12-13% โดยเรามองว่าเป็นการเติบโตที่เหมาะสม ไม่ต้องเร่งมากเกินไป ไม่เข้าไปแข่งเรื่องราคา แต่เน้นคุณภาพงานที่รับประกันแล้วต้องอยู่ได้ มีกำไรเหมาะสมด้วย” นายพนัส กล่าว
ด้าน นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย กล่าวว่า การรุกตลาดรายย่อยในปีหน้า นอกจากช่องทางตัวแทน/นายหน้าที่เป็นฐานหลักแล้ว บริษัทจะมุ่งเติบโตในช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์ที่ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ ซึ่งมีกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ ที่จะเริ่มขายประกันภัยรถยนต์เข้าไปด้วย พร้อมกับประกันอุบัติเหตุที่จะปรับเพิ่มความคุ้มครองให้รวมถึงการเจ็บป่วยด้วย
ขณะที่ช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้ง ก็มีแผนจะปรับปรุงสินค้าใหม่เข้ามาสู้กับตลาดที่แข่งขันกันมากขึ้น โดยเฉพาะลูกเล่นเรื่อง no claim bonus หรือการคืนค่าเบี้ยบางส่วนให้เมื่อลูกค้าไม่มีเคลม
นอกจากนี้ยังมีแผนจะขยายช่องทางใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยมีความร่วมมือกับพันธมิตรหลายแห่ง ทั้งเทสโก้ โลตัส ที่มีห้างค้าปลีกขนาดใหญ่กว่า 300 แห่ง และร้านสะดวกซื้อกว่า 1,200 แห่ง ไปรษณีย์ไทย ที่มีสาขาเกือบ 1,250 แห่ง และเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่มีบริการในร้านสะดวกซื้อราว 8,000 แห่งทั่วประเทศ
“เรามองว่าช่องทางใหม่ๆ นี้ จะเป็นโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยในต่างจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะเริ่มต้นด้วยประกันอุบัติเหตุและประกัน พ.ร.บ. รถยนต์ โดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยเรื่องการรับ-ส่งข้อมูล และสามารถเริ่มความคุ้มครองได้ทันที เสริมจากช่องทางสาขาที่ปีหน้าจะเปิดเพิ่มอีก 5 แห่ง เพื่อปูทางเตรียมไว้รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในอีก 2 ปีข้างหน้าด้วย” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ข่าวเด่น