หุ้นทอง
ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตบริษัท น้ำประปาไทย ที่ระดับ "AA-"


 

 

 
ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ
“คงที่”

 

 


ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งการคงอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นผู้ให้บริการน้ำประปาเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตลอดจนกระแสเงินสดที่แน่นอนจากสัญญาขายน้ำขั้นต่ำระยะยาว และความสม่ำเสมอของความต้องการน้ำประปา โดยที่ธุรกิจน้ำประปามีความเสี่ยงในการดำเนินงานในระดับต่ำและมีอุปสรรคในการเข้าสู่ธุรกิจในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการที่บริษัทมีภาระหนี้จำนวนมากและความเสี่ยงจากการมีการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เป็นลูกค้าหลักเพียงรายเดียว

 

 

ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานภาพในการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งและคงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเอาไว้ได้ ทั้งนี้ หากมีการลงทุนใน
อนาคตที่มีการก่อหนี้ในระดับสูงก็จะส่งผลกระทบในด้านลบต่อฐานะทางการเงินและอันดับเครดิตของบริษัท

ณ เดือนสิงหาคม 2556 บริษัทน้ำประปาไทยมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประกอบด้วย บริษัท มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (26%) บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (20.2%) และบริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) (19%)

ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ให้บริการน้ำประปาเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยกำลังการผลิตทั้งสิ้น 876,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน และให้บริการบำบัดน้ำเสียซึ่งมีกำลังการบำบัด 18,000 ลบ.ม./วัน นอกจากนี้ บริษัทยังถือหุ้นในสัดส่วน 25% ใน บริษัท ซี. เค. พาวเวอร์ จำกัด ด้วย โดยบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ถือหุ้น 54.8% ใน บริษัท เซาท์อีส
เอเซีย เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ด้วยกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า 615 เมกะวัตต์

บริษัทประกอบกิจการโรงผลิตน้ำประปา 3 โรง และเป็นผู้ให้บริการน้ำประปาในพื้นที่ 3 เขต คือเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐม-สมุทรสาคร เขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน บริษัทให้บริการน้ำประปาแก่ กปภ. ภายใต้สัญญาซื้อขายน้ำประปาอายุ 25 ปีซึ่งจะหมดสัญญาในปี 2566 และอายุ 30 ปีซึ่งจะหมดสัญญาในปี 2577 กปภ. มีพันธะในการรับซื้อน้ำประปาจากบริษัทในปริมาณขั้นต่ำจำนวน 660,000 ลบ.ม./วัน

ทั้งนี้ สูตรการคำนวณอัตราค่าน้ำจะเป็นไปตามดัชนีราคาผู้บริโภค นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับสิทธิในการดำเนินการผลิต จำหน่าย และให้บริการน้ำประปา รวมทั้งให้บริการบำบัดน้ำเสียในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินระยะเวลา 30 ปีด้วย โดยสิทธิดังกล่าวจะหมดอายุในปี 2582 บริษัทยังคงมีความเสี่ยงจากการมี กปภ. เป็นลูกค้ารายใหญ่เพียงรายเดียวซึ่งสร้างสัดส่วนราย
ได้ให้แก่บริษัทถึง 98% ของรายได้รวมในปี 2555 กระนั้น สถานะความน่าเชื่อถือของ กปภ. ก็อยู่ในระดับที่รับได้เนื่องจากมีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ

ฐานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทได้รับแรงหนุนจากการมีความเสี่ยงจากการดำเนินงานที่อยู่ในระดับต่ำและมีอุปสรรคในการเข้าสู่ธุรกิจในระดับสูง แม้ว่าการผลิตน้ำประปาจะใช้เทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน แต่ธุรกิจผลิตน้ำประปาก็ใช้เงินลงทุนสูงในกรณีที่ต้องสร้างโครงข่ายระบบส่งและจ่ายน้ำประปา บริษัทเป็นเจ้าของท่อน้ำประธานและท่อจ่ายน้ำในพื้นที่ให้บริการบางส่วนซึ่งเป็นอุปสรรคต่อผู้ต้องการเข้ามาเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว แหล่งน้ำที่มีเพียงพอและคุณภาพของน้ำดิบเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตน้ำประปา

ทั้งนี้ แหล่งน้ำที่สำคัญในการผลิตน้ำประปาของบริษัทมาจากแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่มีปริมาณน้ำเพียงพอ แม้แหล่งน้ำแต่ละแห่งจะมีคุณภาพน้ำที่แตกต่างกัน แต่บริษัทก็สามารถนำน้ำไปผลิตเป็นน้ำประปาคุณภาพสูงได้เช่นเดียวกัน

บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเนื่องจากการมีโครงสร้างสัญญาซื้อขายน้ำที่ดีกับ กปภ. อีกทั้งยังมีความต้องการน้ำที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2555 ยอดขายน้ำประปาของบริษัทเพิ่มขึ้นเพียง 7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าจากการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำหลังเหตุอุทกภัยในปลายปี 2554 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดนครปฐม-สมุทรสาคร การเพิ่มขึ้นของปริมาณจำหน่ายน้ำประปาและการปรับราคาน้ำประปาตามดัชนีผู้บริโภคส่งผลให้บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็น 4,925 ล้านบาท

สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทมีรายได้รวม 3,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐม-สมุทรสาครและเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยมีสัดส่วน 64% และ 33% ของรายได้ทั้งหมดตามลำดับ ส่วนรายได้ที่เหลือส่วนใหญ่มาจากเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน

ทริสเรทติ้งคาดว่า บริษัทจะสามารถดำรงสถานะการเงินที่แข็งแกร่งต่อไปได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายคาดว่าจะอยู่ในระดับสูงกว่า 77% บริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 3,397 ล้านบาทในปี 2555 เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนหน้า และอยู่ที่ระดับ 2,596 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 หรือเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้ง คาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 3,000-3,400 ล้านบาทต่อปีในระยะ 3 ปีข้างหน้าซึ่งเพียงพอสำหรับแผนการลงทุน
และการจ่ายเงินปันผลของบริษัท โดยบริษัทมีแผนลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,300 ล้านบาทในระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยแผนการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มประลิทธิภาพการผลิตและจ่ายน้ำประปาในพื้นที่จังหวัดนครปฐม-สมุทรสาคร ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลประมาณ 2,200-2,400 ล้านบาทต่อปีในระยะ 3 ปีข้างหน้า

ในแง่ของงบดุล บริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมที่ระดับ 55% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556 คาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากการชำระคืนหนี้ตามแผนของบริษัท บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจพลังงานสะอาด แต่นอกเหนือจากการลงทุนในบริษัท ซี. เค. พาวเวอร์ แล้ว บริษัทก็ยังไม่มีแผนการที่ชัดเจนในการขยายการลงทุนในระยะอีก 2 ปีข้างหน้า


บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) (TTW)
อันดับเครดิตองค์กร: AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TTW142A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557   AA-
TTW162A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559   AA-
TTW192A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562   AA-
TTW222A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565   AA-
แนวโน้มอันดับเครดิต:        Stable


LastUpdate 17/12/2556 13:23:29 โดย : Admin
23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 8:51 am