แบงก์-นอนแบงก์
ออมสิน 100 ปี ฉลองครบ 1,000 สาขา


 

 
 
ในบรรดาธนาคารของประเทศไทย “ธนาคารออมสิน” นับว่าเป็นธนาคารที่รู้จักคุ้นเคยกันดี หรือบ้างก็เเรียกว่า เป็นธนาคารประชาชน ธนาคารขวัญใจของเด็ก ๆ ทั้งประเทศ ธนาคารแห่งนี้มีอายุเก่าแก่ครบ 100 ปีแล้ว มีการขยายสาขามากมายทั่วประเทศ ล่าสุดเพิ่งเปิดบริการครบ 1,000 สาขาและยังพร้อมที่จะเติบโตในฐานะเป็นธนาคารของประชาชนระดับฐานรากต่อไป ตั้งเป้าปีหน้าการเติบโตของสินเชื่อและเงินฝากอยู่ที่ 7%   
 
 
 
 
ครบรอบ100 ปี มีสาขาครบ 1,000 สาขา
 
ธนาคารออมสินถือกำเนิดโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชทานจัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นสถานที่เก็บรักษาทรัพย์และส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศวัยและสาขาอาชีพประหยัดและรู้จักเก็บออมอย่างถูกวิธีมาตั้งแต่ปี  2456 จนถึงครบรอบ 100 ปี
ปัจจุบันธนาคารออมสินเป็นสถาบันการเงินของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ส่งเสริมด้านการออมและการลงทุน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนระดับฐานราก เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน โดยได้พัฒนาธุรกิจและบริการ พร้อมทั้งขยายช่องทางการให้บริการด้วยการเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ เพื่อการให้บริการได้อย่างทั่วถึง
 
 
 
 
ล่าสุดมีพิธีเปิดสาขาที่ 1,000 อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี(19ธ.ค.)ได้แก่ “สาขาเซ็นทรัลพลาซา บางนา”  โดยมี นางชูจิรา กองแก้ว ประธานกรรมการธนาคารออมสิน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ผู้บริหารและลูกค้าธนาคารออมสินเข้าร่วมงาน
นางชูจิรา ประธานกรรมการธนาคารออมสินเปิดเผยในนามของพนักงานธนาคารออมสินว่า “มีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้สนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โดยคำว่า “ออมสิน” หมายถึง เพื่อให้คนไทยได้เก็บออม ซึ่งเงินของพี่น้องประชาชนนี้ได้ถูกนำไปใช้พัฒนาประเทศโดยผ่านรัฐบาลแต่ละยุคสมัย แต่ละปีราษฎรภาคไหนเดือดร้อน ก็นำเงินตรงนี้ไปลงทุน ใช้จ้างพี่น้องประชาชนทำงาน ทำให้มีรายได้และนำเงินไปฝากธนาคาร
ต่อมามีการพัฒนาจากภาคเกษตรไปทำธุรกิจและไปฝากธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ที่เติบโตตามมาภายหลัง แต่ธนาคารออมสินไม่ได้ย่อท้อ หันมามุ่งเน้นที่เด็กและเยาวชนเพื่อปลูกฝังนิสัยการเก็บออม ทำให้เกิดธนาคารโรงเรียนขึ้นมา เมื่อเติบโตขึ้น มีบางส่วนไม่ได้ไปศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย ไปทำงานค้าขายตามตลาด ออมสินก็ยังตามไปบริการเพื่อส่งเสริมการเก็บออม มีธนาคารของตลาดคือ การดูแลเอสเอ็มอี ส่วนข้าราชการ ออมสินดูแลโดยให้กู้ยืมเงินเพื่อปรับปรุงความเป็นอยู่โดยไม่ต้องค้ำประกัน อย่างไรก็ดีโดยส่วนใหญ่หรือ 90% ของธนาคารออมสินจะดูแลประชาชนที่ประกอบอาชีพปรกติทั่วไป ไม่ใช่นักธุรกิจรายใหญ่ ๆ การมาเปิดที่เซ็นทรัลจะช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนกลุ่มนี้ได้มาใช้บริการ “
 
 
โปรโมชั่นพิเศษ “เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 100+1 วัน ดอกเบี้ย 4%
 
ทั้งนี้เพื่อฉลองการเปิดสาขาที่ 1,000 ได้มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเป็นเวลา 3 วันระหว่างวันที่ 19-21 ธันวาคม 2556 ณ ลานกิจกรมโซนสถาบันการเงิน ชั้น 4 ห้างเซ็นทรัลพลาซา บางนา โดยเฉพาะการเปิดบริการ “เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 100+1 วัน” อัตราดอกเบี้ยสุดพิเสษ 4%ต่อปี (เทียบเท่าเงินฝาก 4.70%ต่อปี) ซึ่งเป็นบริการสำหรับกลุ่มลูกค้าธรรมดาที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยได้รับการยกเว้นภาษีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก เปิดบัญชีขั้นต่ำ 50,000 บาท ฝากได้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ฝากได้ 1 ครั้ง ผู้ฝาก 1 รายเปิดได้ 1 บัญชี
ผู้ที่จะได้รับสิทธิจากเงินฝากพิเศษดังกล่าวนี้ได้แก่ ลูกค้าที่มาเปิดบัญชีในวันที่ 19 ธันวาคม 2556 ที่สาขาน้องใหม่นี้เพียงสาขาเดียวเท่านั้น ซึ่งเดิมกำหนดที่ 1,000 รายแรก แต่เนื่องจากมีประชาชนให้ความสนใจมาเปิดบัญชีเป็นจำนวนมากจึงมีการขยายจำนวนเพิ่มอีกประมาณ 1,000 รายรวมเป็น 2,000 ราย
ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ภายในเวลา 3 วันถึงวันที่ 21 ธันวาคม ยังรวมถึง การเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้ง “เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 5 เดือน” อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.60 ต่อปี(เทียบเท่าเงินฝากประจำร้อยละ 3.05 ต่อปี) “เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 11 เดือน” อัตราดอกเบี้ยร้อยละ3.15 ต่อปี(เทียบเท่าเงินฝากประจำร้อยละ 3.70) รวมทั้ง “เงินฝากสงเคราะห์ชีวิต GSB Life” ในเทศกาลลดหย่อนภาษีและ “สินเชื่อเคหะ” อัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ 3% คงที่ 2 ปี ปีที่ 3 เป็นต้นไป MLR-0.5% ต่อปี  
 
พร้อมเติบโตต่อ-ปีหน้าตั้งเป้าสินเชื่อโต 7%
 
ด้านนายวรวิทย์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่าในปี 2556 นี้เป็นปีที่ธนาคารออมสินเปิดบริการมาครบ 100 ปี ซึ่งในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาธนาคารฯมีการเติบโตมาได้อย่างยั่งยืน มั่นคงและเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยเฉพาะพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการรายย่อย ๆที่อยู่ตามต่างจังหวัดและในเมืองและออมสินยังตั้งเป้าที่จะเติบโตต่อไป
“เรายืนยันว่าจะมุ่งมั่นพัฒนาธนาคารออมสินให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืนต่อไปและเป็นแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการรายย่อย แหล่งที่สามารถจะระดมเงินฝาก สร้างวินัยทางการเงิน การออมให้กับเด็ก ๆ และเยาวชนไทยต่อไป”
ทั้งนี้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาธนาคารออมสินมีการเติบโตอย่างทุกมิติ มีสินทรัพย์ขยายตัว 100% สินเชื่อเติบโตถึง 300% และเงินฝากขยายตัวมากกว่า 150% การขยายตัวที่น่าสนใจคือ ณ เดือนพฤศจิกายน ปี 2556 สินทรัพย์รวมได้ขยายตัวมากกว่า 2 ล้านล้านบาท สินเชื่อรวมอยู่ที่ 1.65 ล้านล้านบาทและมีเงินฝากถึง 1.76 ล้านล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2556 นี้ ในรอบ 11 เดือนที่ผ่านมา มีผลการดำเนินการค่อนข้างเป็นไปตามเป้าหมาย แต่อาจจะต่ำกว่าเป้าหมายอยู่บ้างในเรื่องเกี่ยวกับสินเชื่อ เนื่องจากในปีนี้มีการตั้งเป้าสินเชื่อภาครัฐไว้ที่ประมาณ  20% จากเป้าสินเชื่อรวม 110,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้นสินเชื่อของภาครัฐจะต้องมีการเบิกจ่ายไม่ต่ำกว่า 30,000-40,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากมีการชะลอโครงการของภาครัฐไปบ้าง ทำให้การเบิกจ่ายสินเชื่อของภาครัฐอาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่สินเชื่อบุคคลอื่น ๆ สินเชื่อเคหะ สินเชื่อธุรกิจเป็นไปตามเป้าหมายทุกประการ
ในส่วนของกำไรสุทธิก็เป็นไปตามเป้าหมาย เกินเป้าเล็กน้อย โดยในรอบ 11 เดือนที่ผ่านมา มีกำไรประมาณ 21,000 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ 21,800 ล้านบาท ในเดือนสุดท้ายคิดว่า น่าจะอยู่ประมาณ 22,000 ล้านบาท ถึงแม้สินเชื่อจะลดไปบ้าง แต่เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่าย ต้นทุนต่าง ๆซึ่งจะทำให้กำไรไปถึงเป้าหมาย สำหรับเอ็นพีแอลอยู่ในระดับลดลงจากต้นปีที่ 1.35-1.36 % มาอยู่ที่ 1.33%
ส่วนแผนการดำเนินงานในปีหน้า 2557 นั้นเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงมีการตั้งเป้าอัตราการเติบโตของสินเชื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศหรือตัวเลขจีดีพี โดยคาดว่า จะมีการเติบโตของสินเชื่อและเงินฝากประมาณ 1.5 เท่าของจีดีพี ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า จีดีพีของไทยปีหน้าน่าจะอยู่ที่ 4.5-5% เป้าการเติบโตของสินเชื่อและเงินฝากที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 6.5-7%  
“ถ้าจีดีพีมากกว่านี้ เราก็ปรับเพิ่มไป แต่ถ้ามีปัญหาเศรษฐกิจชะลอลงไป เราก็สามารถที่จะทบทวนตัวเลขได้ แต่ในเบื้องต้นตั้งไว้ที่ 7%”
 
ดูแลผู้มีรายได้น้อยเหมือนเดิม-ขยายเพิ่ม 30 สาขา
 
นายวรวิทย์กล่าวต่อว่า ในด้านนโยบายการให้สินเชื่อจะยังคงเน้นการให้สินเชื่อกับรายย่อยเช่นเดิม สำหรับพ่อค้า แม่ค้า โครงการธนาคารประชาชน ผู้ประกอบการโอท็อป สินเชื่อเอสเอ็มอีและผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ทั้งนี้ดังที่กล่าวมาว่า อาจมีการชะลอโครงการภาครัฐ ซึ่งจะต้องดูความชัดเจนในส่วนของโครงการภาครัฐอีกครั้ง โดยจะประสานกับกระทรวงการคลังอีกครั้ง หากมีการชะลอโครงการไป อาจจะปรับเป้าลงมาไม่ถึง 20% และมามุ่งเน้นในสินเชื่อประเภทต่าง ๆ เพิ่มเติม
“เนื่องจากเราเน้นเรื่องเศรษฐกิจฐานราก ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยเปลี่ยนบทบาทภารกิจนี้เลย”
ส่วนการขยายสาขาในปีหน้า เบื้องต้นตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 30 สาขา ซึ่งอัตราการให้บริการในปัจจุบันคิดว่าน่าจะอยู่ในอัตราเหมาะสม แต่อาจจะไปกระจายในพื้นที่ที่ไม่มีสถาบันการเงินตั้งอยู่ โดยอาจจะเป็นการให้บริการเชิงสังคม ซึ่งจะกระจายกันไปครอบคลุมทั้งประเทศ
ในปีหน้า ประชาชนคงมีโอกาสได้เห็นสาขาย่อย ๆ ของธนาคารออมสินไปเบ่งบานในที่ต่าง ๆ อีก เพื่อตามไปรับใช้ประชาชนอย่างทั่วถึง
 
 
 

LastUpdate 20/12/2556 11:24:44 โดย : Admin
23-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 23, 2024, 12:20 am