การตลาด
สกู๊ป : "อิมพีเรียลเวิลด์" ปรับศูนย์การค้าครั้งใหญ่ เพิ่มฐานลูกค้า


 


ผ่านไปแล้ว 31 ปีสำหรับการดำเนินธุรกิจของศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง จากความยาวนานการดำเนินธุรกิจส่งผลให้ผู้บริหารศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรงออกมาประกาศแผนยกเครื่องศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง  เพื่อให้ศูนย์การค้ามีความทันสมัยตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป

อีกปัจจัยที่ทำให้ผู้บริหารศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง  ออกมาปรับปรุงศูนย์การค้า คือ  การขยายตัวของเมือง เนื่องจากปัจจุบันเส้นทางการคมนาคมมายังศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง มีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้จะมีความสะดวกมากขึ้น  เนื่องจากรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายแบร์ริ่ง – สมุทรปราการ  ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี  2559  

 
 
 
นายโอฬาร  กิจเลิศไพโรจน์  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่  ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง  กล่าวว่า  ขณะนี้ได้เริ่มทยอยปรับปรุงศูนย์การค้ามาบ้างแล้วบางส่วน  แต่นับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไปจะปรับปรุงอย่างจริงจังมากขึ้น  เพื่อเพิ่มพื้นที่เช่า ศูนย์อาหาร และบริการต่างๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

สำหรับงบที่ใช้ในการลงทุนปรับปรุงศูนย์การค้าในครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนปรับปรุงภายในศูนย์การค้าช่วง 3 ปีแรกนับจากนี้ที่ประมาณ  300  ล้านบาท  ซึ่งในส่วนของพื้นที่จะดำเนินการปรับปรุงประกอบด้วย  บริเวณชั้น 3   โซนดีพาร์ทเม้นท์สโตร์  พื้นที่ชั้น 4  โซนสินค้าไอที  พื้นที่ชั้น  6  คอนเวนชั่นฮอลล์  และพื้นที่ชั้น 7  พื้นที่สวนน้ำ   

ขณะที่พื้นที่บริเวณชั้น 1 -2  ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์  จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้เช่าพื้นที่ดังกล่าวรวมประมาณ  15,000  ตร.ม. ส่วนพื้นที่ชั้น  5 ปัจจุบันเป็นพื้นที่เช่าของบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  หากต้องปรับปรับปรุงรูปโฉมใหม่จะต้องขึ้นอยู่กับบริษัทเจ้าของพื้นที่เช่า

หลังจากได้ปรับปรุงพื้นที่ภายในศูนย์การค้าในส่วนที่รับผิดชอบ ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์จะทยอยนำบริการใหม่ๆ เข้ามาให้บริการทันที  ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าเรียนรู้  หรือการปรับปรุงสวนน้ำเป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์  ซึ่งจะมีทั้งลู่วิ่ง สนามเทนนิส  และฟิตเนส  เปิดให้บริการอยู่ในพื้นที่เดียวกัน โดยหลังจากปรับปรุงแล้วสร็จ ผู้บริหารศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง ตั้งใจจะทำให้สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เป็นปอดของคนในย่านสำโรงและสมุทรปราการ

นอกจากนี้ ในส่วนของแผนระยะยาว ยังมีแผนที่จะใช้งบอีกประมาณ 1,000  ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงปราสาทภายนอกศูนย์การค้าให้มีความทันสมัย  รวมไปถึงการทำสะพานเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าสำโรงมายังบริเวณศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิด์  สำโรง  เพื่อความสะดวกของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ  โดยขณะนี้ความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

แผนการดำเนินงานดังกล่าว  นายโอฬาร กล่าวว่า  ทุกอย่างน่าจะเห็นภาพชัดขึ้นภายประมาณปี  2560-2561   เนื่องจากปีดังกล่าวการก่อสร้างรถไฟฟ้าจะแล้วเสร็จ เช่นเดียวกับการปรับปรุงศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรงทั้งในส่วนของภายในและภายนอก  ซึ่งหลังจากปรับปรุงเสร็จคาดว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าระดับบีเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ

 
 
 
 
ปัจจุบันศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง มีฐานลูกค้าระดับรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 10,000  บาทอยู่ในสัดส่วนประมาณ  10%  ระดับ  10,000-20,000  บาท  20%  ระดับ  20,000-30,000  บาท  30%  ระดับ 30,000 –40,000 บาท  20%  และระดับ 50,000  บาทขึ้นไป  10%  ซึ่งหลังจากปรับปรุงศูนย์การค้าให้สวยงามและมีการบริการที่ครบวงจร ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์  สำโรง คาดว่าจะสามารถเพิ่มลูกค้าระดับเงินเดือน 30,000  บาท ได้เป็นที่น่าพอใจ 

ขณะเดียวกันก็คาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20-30 % จากปัจจุบันวันธรรมดาจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 1  แสนคน  และในวันหยุดจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 1.4  แสนคน เนื่องจากปี 2559  รถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายแบร์ริ่ง – สมุทรปราการ จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ     

นายโอฬารกล่าวว่า  ภาพลักษณ์ของศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง ที่กำลังจะเปลี่ยนไปในอนาคตอันใกล้นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางคอนเซ็ปต์ใหม่ของศูนย์การค้า จากปัจจุบันได้ดำเนินธุรกิจภายใต้คอนเซ็ปต์ “ศูนย์การค้าของชุมชน”  เนื่องจากตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง  เติบโตมาพร้อมกับชุมชน   จึงทำให้ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง เป็นครอบครัวหนึ่งของชุมชน  ด้วยเหตุนี้แนวทางการดำเนินธุรกิจจึงเน้นการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน  และการทำกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านกิจกรรม CSR

ทั้งนี้  ล่าสุดศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง ได้ออกมาเปิดตัวบัตรสิทธิพิเศษภายใต้ชื่อ "IM CARD" บัตรสมาชิกที่ให้ส่วนลดสูงถึง 10% พร้อมสะสมแต้ม และการส่งเสริมการขายที่ให้สิทธิประโยชน์มากมายกับลูกค้า ซึ่งหลังจากเปิดตัวบัตรดังกล่าว บริษัทจะมีการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างการรับรู้บัตรดังกล่าวอย่างต่อเนื่องภายใต้คอนเซ็ปต์  GIFT FOR MORE  ด้วยการมอบของขวัญให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการผ่านบัตรดังกล่าว 

ก่อนหน้าที่จะเปิดตัวบัตร  IM CARD ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง มีบัตร  Privilege Card  เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า ซึ่งก่อนที่จะมีการเปลี่ยนเป็นบัตร  IM CARD  บัตร  Privilege Card  มีฐานสมาชิกอยู่ที่ประมาณ  4,000  ราย  แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นบัตร  IM CARD พร้อมกับมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกมากขึ้น  ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง คาดว่าบัตร  IM CARD จะมีฐานสมาชิกไม่ต่ำกว่า  10,000  รายภายใน 3  ปีนับจากนี้

จากจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2509  กลุ่มกิจเลิศไพโรจน์ ในนามของห้างหุ้นส่วนจำกัด ก.เจริญ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายของเด็กเล่น ให้แก่ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง และร้านค้าทั่วไปทั่วประเทศไทย ต่อมาได้ขยายธุรกิจในลักษณะของผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ทั้งภายในประเทศ และส่งออกจำหน่ายต่างประเทศ  จากความสำเร็จที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจของเล่นผ่านช่องทางค้าปลีก จึงทำให้เล็งเห็นโอกาสในการผันตัวเองมาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีก เนื่องจากผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป คือ หันมาซื้อสินค้าจากห้างสรรพสินค้ามากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ กลุ่มกิจเลิศไพโรจน์ จึงตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เปิดดำเนินการห้างสรรพสินค้าดาวคะนอง และได้รับการตอบสนองจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นอย่างดี นับเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจของกลุ่มอิมพีเรียล คณะผู้บริหารดำริที่จะขยายธุรกิจด้านการค้าปลีกให้มากยิ่งขึ้น จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้น เพื่อทำการศึกษาวิจัย และตรวจสอบความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค ตลอดจนความเป็นไปได้หากจะขยายธุรกิจด้านนี้  และจากผลการศึกษาดังกล่าว พบว่า  ธุรกิจด้านการค้าปลีกในรูปแบบของห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าที่มีสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภคครบถ้วน ในบริเวณเดียวกันมีศักยภาพในการดำเนินงานสูง
 

 
 
 
 
ดังนั้นคณะผู้บริหารจึงได้ขยายการลงทุนในธุรกิจค้าปลีก โดยเปิดดำเนินงานภายใต้ชื่อ "ห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียล" (IMPERIAL DEPARTMENT STORE) ซึ่งเปิดกิจการในเขตปริมณฑลก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับผู้ประกอบการที่เปิดดำเนินการก่อนหน้านี้ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายด้านการตลาดน้อยลง  ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจด้านห้างสรรพสินค้าของกลุ่มอิมพีเรียล นำไปสู่การขยายตัวของโครงการให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ทีมงานจึงได้เปิดศูนย์สรรพสินค้าครบวงจรขึ้นภายใต้ชื่อ "ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์" โดยเปิดสาขาสำโรง และสาขาลาดพร้าว

จากการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นและหุ้นส่วนของธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ปัจจุบันศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ มีจำนวนสาขาที่บริหารเต็มตัว 100% เหลือเพียง 1  สาขา คือ ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง ขณะที่สาขาลาดพร้าว  เหลือหุ้นส่วนในการบริหารงานประมาณ  50%  เท่านั้น  ถึงแม้ว่าจะเหลือศูนย์การค้าที่นั่งบริหารอย่างจริงจังเพียง  1   สาขา  แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ  เพราะปัจจุบัน  นายโอฬาร  กิจเลิศไพโรจน์  ทางยาทรุ่นที่ 2  ของไพรัช  กิจเลิศไพโรจน์  ได้ออกมาประกาศแผนเชิงรุก  ด้วยการยกเครื่องใหม่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์  สำโรงทั้งศูนย์  เพื่อให้มีความสวยงามและทันสมัย รองรับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่จะเข้ามาใช้บริการ

ภาพความสวยงามดังกล่าว  นายโอฬาร  กล่าวว่า  ทุกอย่างจะมีความชัดเจนขึ้นและสมบูรณ์แบบประมาณปี  2560-2561 เพราะหลังจากปรับปรุงพื้นที่ภายในศูนย์แล้วเสร็จ จะเริ่มดำเนินการภายนอกศูนย์ทันที  ซึ่งหากทุกอย่างแล้วเสร็จสมบูรณ์  นอกจากจะมีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อวันเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20-30%  แล้ว ยังคาดว่าจะมีรายได้เติบโตต่อปีไม่ต่ำกว่า 20%  อีกด้วย
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ธ.ค. 2556 เวลา : 03:07:04
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 10:55 pm